การประชุมครั้งที่ 2 ของคณะกรรมการการค้าข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-สหราชอาณาจักร (Vietnam-UK Free Trade Agreement: UKVFTA) ภายใต้ประธานร่วมของนาง ฟาน ถิ ทัง (Phan Thi Thang)รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม และนาย Nigel Huddleston รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าระหว่างประเทศของ อังกฤษ โดยทั้งนาง Phan Thi Thang และนาย Nigel Huddleston ได้ชื่นชมความพยายามของคณะกรรมการในการประสานงานร่วมกันและปรับกฎระเบียบทางกฎหมายของแต่ละฝ่ายให้ทันสมัย ซึ่งมีส่วนทำให้การนำ UKVFTA ไปปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิผล ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันในประเด็นต่างๆ เช่น การเพิ่มโอกาสของผู้ส่งออกข้าวเวียดนามในการเข้าถึงตลาดสหราชอาณาจักร
สรุปผลการประชุม ทั้งสองฝ่ายได้เห็นด้วยในการที่จะให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในทุกระดับ เพื่อยกระดับการใช้ประโยชน์จากข้อตกลง ซึ่งมีส่วนส่งเสริมการค้าและการลงทุนทวิภาคี ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะจัดการประชุมคณะกรรมการการค้า UKVFTA ครั้งที่ 3 ในลอนดอนในปี 2567
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2566 นาง Phan Thi Thang ได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงนาย Nigel Huddleston โดยในระหว่างนั้นเธอแสดงความยินดีกับสหราชอาณาจักรที่เข้าเป็นสมาชิกลำดับที่ 12 ของข้อตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) โดยยืนยันว่านี่ไม่เพียงแต่เป็นข่าวดีสำหรับสหราชอาณาจักรเท่านั้น ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก แต่ยังรวมถึงเวียดนามและสมาชิกอื่นๆ ของข้อตกลงด้วย ส่วนนาย Nigel Huddleston แสดงความหวังว่าสมัชชาแห่งชาติเวียดนามจะดำเนินการให้สัตยาบันเอกสารเกี่ยวกับการเข้าร่วมสนธิสัญญาของสหราชอาณาจักรให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด ในระหว่างการประชุม ทั้งสองฝ่ายได้แสวงหามาตรการ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าทวิภาคี รวมถึงการดำเนิน UKVFTA อย่างมีประสิทธิผล คณะกรรมการด้านเทคนิคและคณะกรรมการการค้าได้จัดการประชุมอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นปัจจัยในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของการดำเนินการ CPTPP จากข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2566 การค้าระหว่างเวียดนามและ สหราชอาณาจักรมีมูลค่า 3,950 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 รวมถึงการส่งออกของเวียดนาม 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สหราชอาณาจักรดำเนินโครงการลงทุนโดยตรงในเวียดนามแล้ว 536 โครงการ ด้วยทุนจดทะเบียนรวม 4,280 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อยู่ในอันดับที่ 15 ในบรรดานักลงทุนต่างชาติ 143 รายในประเทศ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2566 สหราชอาณาจักรลงทุนในเวียดนาม 28 โครงการใหม่ ทุนจดทะเบียนรวม 44.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ทางฝ่ายเวียดนามคาดการณ์ว่า เวียดนามจะยังคงได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหราชอาณาจักรเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบต่างๆ ได้รับประโยชน์จาก FTA อย่างเต็มที่ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของการดำเนินการ FTA ภายในอาเซียน ในขณะเดียวกันส่งเสริมโอกาสทางการค้าและการลงทุนใหม่ๆ ในภูมิภาค
ทั้งสองฝ่ายได้อัพเดทเกี่ยวกับกิจกรรมร่วมกันที่เกิดขึ้นภายในองค์การการค้าโลก (WTO) โดยให้คำมั่นว่าจะร่วมกันส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านการเปิดเสรีการค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยุติธรรม และยั่งยืนต่อไป
(จาก https://vietnamnews.vn/)
ข้อคิดเห็น สคต
สหราชอาณาจักรเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญอันดับ 3 ของเวียดนาม และเป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 9 ของเวียดนาม โดยเวียดนามมีการส่งออกสินค้าเป็นปริมาณที่เพิ่มขึ้นทุกปีในช่วงที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคี (UKVFTA) ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 ในช่วง 2 ปีแรกของการดำเนินการ UKVFTA แม้จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ ไวรัส COVID-19 การค้าทวิภาคีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ร้อยละ 16.4 ในปี 2564 และร้อยละ 6.5 ในปี 2565 ซึ่งมีมูลค่ากว่า 6,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญของเวียดนาม ได้แก่ เหล็กและเหล็กกล้า อุปกรณ์และส่วนประกอบ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อาหาร เซรามิกส์ ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ และผลไม้ หากมองศักยภาพของตลาดในสหราชอาณาจักรจะเห็นว่าเป็นประเทศที่มีโอกาสขยายสินค้าสูง ด้วยความได้เปรียบในการแข่งขันด้านราคา ในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายกำลังพัฒนาเป็นไปในทางที่ดี รวมถึงการตั้งใจของทั้งสองฝ่ายในการอำนวยความสะดวกในการส่งเสริมการค้า จะช่วยสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมากขึ้น เป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการเวียดนามและสหราชอาณาจักรในความร่วมมือที่ขยายตลาดการส่งออกและนำเข้า และส่งเสริมพัฒนาการค้าทวิภาคี การขนส่งสินค้าระหว่างเวียดนามและสหราชอาณาจักร