มีความกังวลถึงเกรดข้าวที่ผลิตในจังหวัดนีงะตะลดลงเนื่องจากความร้อนที่ร้อนเป็นประวัติการณ์ในฤดูร้อนนี้ ส่งผลให้อัตราส่วนของข้าวคุณภาพดีแบรนด์หลัก เช่น โคชิฮิคาริ จะต่ำเป็นประวัติการณ์ และมีความเป็นไปได้ที่ปริมาณการจำหน่ายข้าวเกรดพรีเมี่ยม ชินโนะสุเกะ (เฉพาะข้าวเกรด 1 เท่านั้น) จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่งผลให้รายได้ของเกษตรกรลดลงโดยตรง JA ในจังหวัดนีงะตะมีแผนเพิ่มการเยียวยา
บริษัท Akitsu ผู้ผลิตข้าวในเมืองนีงาตะ กล่าวเกี่ยวกับการผลิตข้าวโคชิฮิคาริในปี 2023 ปริมาณการเก็บเกี่ยวเท่าเดิมกับปีก่อน แต่สีของข้าวขุ่นมาก อาจเนื่องมาจากความร้อนจัด ซึ่งในปีปกติเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่เมื่อมีการใช้เครื่องคัดแยกสีเพื่อระบุข้าว พบว่ามีสัดส่วนมากถึง 10%
ข้าวจะถูกจัดระดับของข้าวโดยผู้ตรวจสอบจากองค์กร เช่น JA ซึ่งประเมินลักษณะที่ปรากฏ ขนาดและรูปร่าง และจำแนกเป็นข้าวเกรด 1 ถึง 3 และข้าวคุณภาพต่ำ เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกรกฎาคมซึ่งเป็นช่วงที่รวงข้าวสุกส่งผลให้เมล็ดข้าวแตกและข้าวขุ่นเพิ่มขึ้น
จากข้อมูลของ JA ทราบว่าบริษัท Niigata Kagayaki หนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพบว่าปัจจุบันการตรวจสอบคุณภาพของโคชิฮิคาริที่ผลิตในปี 2023 สถิติณ วันที่ 19 กันยายน คือข้าวเกรด 1 มีเพียง 0.3% ข้าวเกรด 2 มีเพิ่มขึ้นเป็น 31.6% และข้าวเกรด 3 เพิ่มสูงสุดเป็น 67.3% แม้ว่าจะไม่มีผลต่อรสชาติของข้าวแต่มูลค่าข้าวเกรด 1 ต่างกับข้าวเกรด 3 ถึงกิโลกรัมละ 2200 เยน
ผู้เกี่ยวข้องมีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ ข้าวชินโนะสุเกะที่ไม่สามารถจำหน่ายภายใต้ชื่อชินโนะสุเกะ ได้เท่าในช่วงปกติ นอกจากนี้ตัวแทนจาก JA Zen-Noh Niigata (เมืองนีงาตะ) ซึ่งรวบรวมข้าวจาก JA ในจังหวัดยังกังวลถึงความสามารถในการจัดหา ชินโนะสุเกะ ให้เพียงพอต่อปริมาณตามสัญญา