จับตามองอุตสาหกรรมอาหารฟรีซดราย (Freeze Dry) ของจีนเติบโตแซงหน้าโลก

ช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ อาหารฟรีซดราย (Freeze Dry) (คือ การทำให้อาหารแช่แข็งกลายเป็นอาหารแห้ง โดยอาศัยการระเหิดของน้ำแข็งในสภาวะสุญญากาศ ที่ยังคงสี กลิ่น รส และคุณค่าโภชนาการของอาหาร และไม่มีสารเติมแต่ง เป็นอาหารที่มีสุขอนามัยตามธรรมชาติ) ในตลาดจีน มีการเติบโตสูงเป็นที่น่าจับตามอง และประเภทสินค้ามีความหลากหลายมากขึ้น ทั้งขนมขบเคี้ยว (เช่น มันฝรั่งทอดกรอบ ขนมล่าเถียว) บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (หลัวซือเฝิ่น) รวมถึงอาหารฟรีซดรายที่มีโภชนาการสูง และมีความสดใหม่ เข้ามาเจาะตลาดผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว โดยพบว่ามีบริษัทผู้ผลิตอาหารจำนวนมากที่ลงทุนพัฒนาและวิจัยอาหารฟรีซดราย เพื่อตอบสนองรสนิยมการบริโภคของชาวจีนที่มีวิถีชีวิตที่เร่งรีบ และขณะเดียวกันก็มีแนวโน้มบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น ทำให้อาหารฟรีซดราย ซึ่งบริโภคได้ง่ายได้รับความสนใจมากขึ้น

 

สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และประเทศแถบยุโรป เป็นผู้บริโภคอาหารฟรีซดรายรายใหญ่ โดยปัจจุบัน พบว่า สหรัฐอเมริกามีการบริโภคอาหารฟรีซดราย 6 ล้านตันต่อปี ญี่ปุ่น 2 ล้านตันต่อปี และฝรั่งเศส 1.6 ล้านตันต่อปี ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้มีการนำเข้าอาหารฟรีซดรายจากต่างประเทศถึง 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.65 ล้านล้านบาท โดยอัตราการเติบโตของทั่วโลกอยู่ที่ร้อยละ 7.8 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมอาหารฟรีซดรายโลกมีแนวโน้มการพัฒนาที่แข็งแกร่ง (หมายเหตุ: อัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญสหรัฐ เท่ากับ 33 บาท)

 

อัตราการเติบโตอาหารฟรีซดรายของจีนแซงหน้าทั่วโลก โดยประมาณการว่าในช่วง 10 ปี มีมูลค่าตลาดเติบโตเกือบ 4 เท่า สืบเนื่องจากปริมาณการผลิตและความต้องการที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยจากสถิติพบว่ามูลค่าตลาดอาหารฟรีซดรายจีนเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2557 มูลค่า 850 ล้านหยวน (4,250 ล้านบาท) ต่อมาในปี 2561 ขยายเพิ่มขึ้นเป็น 1,580 ล้านหยวน ( 7,900 ล้านบาท) เติบโตเฉลี่ยต่อปีร้อยละ 16.76 ปี 2562 มูลค่า 1,800 ล้านหยวน (9,000 ล้านบาท) ขยายตัวร้อยละ 13.92 จากปีก่อน 2563 มูลค่า 2,100 ล้านหยวน (10,500 ล้านบาท) ขยายตัวร้อยละ 16.67 จากปีก่อน และคาดว่าปี 2568 จะมีมูลค่าตลาดสูงถึง 4,200 ล้านหยวน (21,000 ล้านบาท) ที่อัตราการเติบโตราวร้อยละ 15 ต่อปี ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับการประเมินโดยแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ อาทิ Alibaba และ JD ที่เปิดเผยว่า อัตราการเติบโตของอาหารฟรีซดรายในจีนอยู่ที่ร้อยละ 20 ขึ้นไป และอุตสาหกรรมอยู่ในช่วงของการเติบโต

 

จับตามองอุตสาหกรรมอาหารฟรีซดราย (Freeze Dry) ของจีนเติบโตแซงหน้าโลก

 

แม้ปัจจุบันอาหารฟรีซดรายพบเห็นได้มากขึ้นในตลาดจีน แต่ด้วยอุปนิสัยการบริโภคของชาวจีนที่ส่วนใหญ่นิยมรับประทานอาหารสดใหม่ อีกทั้งอาหารสดหาได้ง่ายในท้องตลาด ทำให้ในระยะสั้นการประยุกต์ใช้อาหารฟรีซดรายอาจจะยังคงจำกัดอยู่เพียงผู้บริโภคบางกลุ่ม อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณามูลค่าตลาดตามประเภทของอาหารฟรีซดราย จะพบว่า ผลไม้ ครองสัดส่วนมากที่สุด ที่ร้อยละ 39.16 รองลงมา คืออาหารสำเร็จรูป สัดส่วนร้อยละ 21.65 ผัก ร้อยละ 20.22 และเนื้อสัตว์และอาหารอื่นๆ ร้อยละ 19.06 นอนอกจากนี้ จากสถิติ Global Trade Atlas ในปี 2565 ยังพบว่าจีนนำเข้าผลไม้แห้ง (พิกัด 0813) เป็นมูลค่า 269.95 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.54 จากปีก่อน โดยเป็นการนำเข้าจากไทยคิดเป็นส่วนแบ่งตลาดมากถึงร้อยละ 73.90 รองลงมาคือ ชิลี สหรัฐ อุซเบกิซสถาน และตุรกี ตามลำดับ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเภทผลไม้ทั่วไป

 

แม้ว่าเทคโนโลยีฟรีซดรายในจีนยังเข้ามาได้ไม่นาน แต่การพัฒนาและศักยภาพค่อนข้างมีทิศทางที่ดี จึงพบว่าในตลาดจีนมีประเภทสินค้า และแบรนด์อาหารฟรีซดรายที่ครอบคลุมอาหารกึ่งสำเร็จรูปแบบใหม่มากมาย อาทิ เนื้อฟรีซดรายสำหรับสัตว์เลี้ยง (เช่น แบรนด์ Alfie & Buddy แบรนด์ My foodie) ผัก ผลไม้ฟรีซดราย (เช่น แบรนด์ Youlingyoushi แบรนด์ Three Squirrels) กาแฟฟรีซดราย (เช่น แบรนด์ Saturnbird Coffee และแบรนด์ Yongpu) เป็นต้น อีกทั้งมีบริษัทจำนวนมากที่ต่อยอดการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารฟรีซดรายแบบขั้นต้น ไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง อาทิ รังนกฟรีซดราย เป็นต้น และยังมีแนวโน้มพัฒนาไปในทิศทางที่เพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ และมีความหลากหลายมากขึ้น ด้วยกรรมวิธีแปรรูปของอาหารฟรีซดรายที่ตอบรับแนวโน้มการพัฒนาอาหารเพื่อสุขภาพที่มีคุณภาพสูง จึงคาดว่าจะมีอาหารฟรีซดราย    เพื่อสุขภาพออกมาสู่ตลาดมากขึ้น

 

นอกจากนี้ ตลาดอาหารทานเล่นก็มีความหลากหลาย และมีการแข่งขันสูง ซึ่งขนมขบเคี้ยวแบบฟรีซดรายก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค เช่น ‘ผลไม้ฟรีซดราย’ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกอาหารสุขภาพ (หากเปรียบเทียบผลไม้แช่อิ่มอบแห้งที่มีทั้งเกลือและน้ำตาลสูงที่เดิมคนจีนนิยมบริโภค) ซึ่งประเทศในแถบยุโรป และญี่ปุ่น ต่างก็มีการบริโภคเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สำหรับจีนถือว่ายังอยู่ในช่วงเติบโต โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการที่จีนมีทรัพยากรทางการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์ หลากหลายชนิด คุณภาพดี และราคาถูก อีกทั้งการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารฟรีซดรายยังเป็นช่องทางสำคัญในการเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร และลดปัญหาผลผลิตเกษตรล้นตลาด อีกทั้งรัฐบาลจีนได้เริ่มให้ความสนใจอุตสาหกรรมนี้มาตั้งแต่ช่วงปี 2555-2561 โดยวางแผนนโยบายอุตสาหกรรมส่งเสริมการพัฒนาด้านเทคโนโลยี อาหารฟรีซดรายจึงเป็นทิศทางการพัฒนาของอุตสาหกรรมอาหารที่สำคัญของจีน และคาดการณ์ว่าในอนาคตจะมีการเติบโตในทิศทางที่สดใส

 

ผลกระทบด้านเศรษฐกิจต่อประเทศไทย และแนวทางการปรับตัวของภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการไทย

ด้วยจังหวะชีวิตที่เร่งรีบ กระแสการดูแลสุขภาพ และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคของชาวจีน อาหารฟรีซดรายจึงเป็นอีกตัวเลือกที่สามารถตอบโจทย์ได้ดีสำหรับผู้บริโภคชาวจีนวัยทำงาน ที่มีเวลาน้อย ต้องการความสะดวกสบาย และรักสุขภาพ อีกทั้งแนวโน้มทิศทางการเติบโตของตลาดที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ทำให้ตลาดอาหารฟรีซดรายจึงเป็นอีกตลาดที่น่าจับตามองสำหรับผู้ประกอบการไทย ที่จะนำเสนออาหารฟรีซดรายคุณภาพดีเข้ามาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวจีน อาทิ ผลไม้ฟรีซดราย ที่ปัจจุบันครองสัดส่วนตลาดสูงที่สุด รวมทั้งอาหารอื่น ๆ เช่น อาหารกึ่งสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว และรังนกฟรีซดราย ซึ่งไทยก็มีวัตถุดิบการเกษตรที่หลากหลาย และมีคุณภาพดี ที่สามารถนำมาแปรรูป เพื่อสร้างมูลเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของไทยด้วย อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการไทยจึงต้องศึกษาเทคโนโลยีฟรีซดราย และนำมาต่อยอดให้ผลิตภัณฑ์มีจุดเด่น มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย พร้อมกับการวางแผนการสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดที่ดี ลงทุนในด้านการประชาสัมพันธ์ให้มาก โดยสามารถพิจารณาร่วมมือกับผู้มีชื่อเสียงในท้องถิ่นในการทำการประชาสัมพันธ์ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลชื่อดังของจีนให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก และน่าเชื่อถือในตลาดจีนได้เร็วยิ่งขึ้น

 

แหล่งที่มา https://www.chinairn.com/hyzx/20231016/181226601.shtml

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองชิงต่าว

 

thThai