สภาผู้แทนราษฎรได้ผ่านร่างแผนการปรับปรุงระบบภาษีต่าง ๆ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแผนฯ ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ให้รัฐบาลสามารถออมเงินได้ถึง 150 พันล้านเช็กคราวน์ในอีก 2 ปีข้างหน้า ส่วนหนึ่งของแผนการปรับปรุงภาษีดังกล่าว ได้แก่ การปรับปรุงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) โดยจะปรับเปลี่ยนเป็น 2 อัตรา คือร้อยละ 12 และร้อยละ 21 ซึ่งปัจจุบันภาษีมูลค่าเพิ่มมี 3 อัตรา คือร้อยละ 10 ร้อยละ 15 และร้อยละ 21 ทั้งนี้ สินค้าที่มีอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มลดลง ได้แก่ อาหาร ในขณะที่เครื่องดื่ม บริการบางประเภท และเบียร์ จะมีภาษีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น
สินค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มสูงที่สุด ได้แก่ หนังสือ ซึ่งจากเดิมที่มีภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่ที่ร้อยละ 10 เปลี่ยนเป็นร้อยละ 0 หรือไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม ขณะที่สินค้าเบียร์มีภาษีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมร้อยละ 10
สำหรับรายการสินค้าและบริการที่มีภาษีมูลค่าเพิ่มลดลง นอกจากหนังสือแล้ว อาทิ การขนส่งประเภทท่องเที่ยว ภาษีมูลค่าเพิ่มปรับลดลงจากร้อยละ 21 เป็นร้อยละ 12 ที่นั่งในรถสำหรับเด็ก งานก่อสร้าง สินค้าอาหาร (ยกเว้นเครื่องดื่ม) อุปกรณ์การแพทย์ ผลิตภัณฑ์ยา ภาษีปรับลดลงจากร้อยละ 15 มาเป็นร้อยละ 12
ส่วนสินค้าและบริการที่มีภาษีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ บริการที่พัก บริการด้านอาหาร (Catering) ผลิตภัณฑ์ประเภท Gluten-free บริการระบบทำความร้อน นิตยสารและหนังสือพิมพ์ ยา บริการการขนส่งผู้โดยสาร
ตั๋วสำหรับการชมกิจกรรมทางวัฒนธรรม กีฬา บริการระบบน้ำใช้/ระบบบำบัดน้ำเสีย โดยภาษีมูลค่าเพิ่มจะปรับขึ้นจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 12 ส่วนเครื่องดื่ม เชื้อเพลิงประเภทฟืน ดอกไม้ บริการเก็บขยะ เพิ่มจากร้อยละ 15 เป็นร้อยละ 21 งานบริการซ่อมจักรยาน ทำความสะอาด เบียร์สด บริการทำผม บริการให้เช่า (อาทิ หนังสือ ภาพยนตร์ ดนตรี ฯลฯ) ซาวน่า บริการซ่อมรองเท้า ปรับภาษีขึ้นจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 21
การเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนการปรับปรุงภาษีที่รัฐบาลเสนอ โดยจะมีการปรับปรุงภาษีอื่น ๆ อาทิ ภาษีบริษัทจะปรับเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 19 เป็นร้อยละ 21 ภาษีทรัพย์สินจะปรับเพิ่มเฉลี่ยประมาณ 1.8 เท่า และภาษีสรรพสามิตสำหรับแอลกอฮอล์จะปรับเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10 ต่อปี ในช่วง 2 ปีข้างหน้า
ข้อเสนอแนะ/แนวโน้ม/โอกาส/แนวทาง
ในปี 2567 สาธารณรัฐเช็กจะใช้ระบบอัตราภาษีใหม่ ภายหลังแผนการปรับปรุงภาษีผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาและประธานาธิบดีตามขั้นตอนอย่างเป็นทางการ สำหรับภาษีมูลค่าเพิ่มนั้น คาดว่าการเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีฯ จะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากราคาสินค้าและบริการจะเปลี่ยนแปลงไป สินค้า/บริการที่มีราคาสูงขึ้น จะส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย และมองหาสินค้าที่ทดแทนกันได้ในราคาที่ถูกลง ดังนั้น ราคายังคงเป็นปัจจัยหลักสำหรับผู้บริโภคส่วนใหญ่ในการเลือกซื้อสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่สถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกยังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน ทั้งในเรื่องสถานการณ์สงคราม ราคาพลังงาน และภาวะเงินเฟ้อ
ภายหลังการใช้ระบบภาษีมูลค่าเพิ่มอัตราใหม่ดังกล่าว หากไม่มีปัจจัยอื่นเข้ามาส่งผลกระทบ อาทิ เงินเฟ้อ ราคาพลังงาน คาดว่าสินค้าบางกลุ่ม เช่น อาหาร จะมีโอกาสทางการตลาดได้มากขึ้น โดยราคาสินค้าอาหารจะถูกลงด้วยภาษีมูลค่าเพิ่มที่ลดลง ขณะที่สินค้าประเภทเครื่องดื่ม ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ปรับขึ้นอาจจะกระทบต่อบางรายการสินค้าที่มีราคาค่อนข้างสูง อย่างไรก็ดี หากสินค้ามีความพิเศษแตกต่าง หรือมีคุณลักษณะพิเศษ คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อ และให้ความสำคัญกับเรื่องคุณลักษณะของสินค้ามากกว่าราคา
***************************************
ที่มา : Expat.cz, สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงปราก
ข่าว 16 – 20 ต.ค. 66