ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 การส่งออกสินค้าเกษตรของเวียดนามไปยังจีน รวมถึงผลไม้ ข้าว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และกาแฟมีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 6,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2566 มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตร ป่าไม้ และการประมงไปยังจีนมีมูลค่ามากกว่า 8,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 โดยสินค้าเกษตรคิดเป็นร้อยละ 70 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วยมูลค่ามากกว่า 6,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ผักและผลไม้เพิ่มขึ้นร้อยละ 160 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 โดยทุเรียนมีมูลค่าถึง 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เมื่อเทียบกับปี 2565 ส่วนแบ่งตลาดผักและผลไม้นำเข้าของเวียดนามในประเทศจีนคิดเป็นร้อยละ 43 ของมูลค่าการซื้อขายทางการเกษตร ป่าไม้ และการประมงทั้งหมด โดยในปี 2566 มีสัดส่วนร้อยละ 65
กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทระบุว่า การส่งออกทุเรียนเพียงอย่างเดียวมีมูลค่าถึง 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ การส่งออกสินค้าสำคัญอื่นๆ ได้แก่ ข้าวมูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เม็ดมะม่วงหิมพานต์มูลค่า 434 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และกาแฟมูลค่า 101 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หากรวมผลิตภัณฑ์จากป่าไม้และสัตว์น้ำ การส่งออกจะมีมูลค่าสูงถึง 8,710 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.7 การส่งออกของเวียดนามมีมูลค่า 38,480 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 5.1 โดยจีน สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่นเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด
เวียดนามมีศักยภาพสูงในการส่งออกผักและผลไม้ไปยังประเทศอื่นๆ เป็นอย่างมาก มูลค่าการส่งออก 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่คาดการณ์จะบรรลุผลได้อย่างสมบูรณ์ หากผลผลิตผักและผลไม้มีวิธีแก้ปัญหา เพื่อปรับปรุงมูลค่าและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ จำเป็นต้องเพิ่มการส่งออกผักและผลไม้แปรรูปแทนการขายผลิตภัณฑ์สด และรัฐควรกำหนดนโยบายพิเศษสำหรับภาคการเพาะปลูกอีกด้วย
จีนมีการซื้อเพิ่มขึ้น ในขณะที่เวียดนามเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวของผลผลิตผักและผลไม้ทำให้ให้การส่งออกผักและผลไม้สูงขึ้นอย่างต่อเนือง นอกจากส่งออกไปประเทศจีน เวียดนามยังมีอัตราการเติบโตเชิงบวกในการส่งออกผักและผลไม้ไปยังตลาดอื่นๆ เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และมาเลเซีย
นาย Dang Phuc Nguyen เลขาธิการของสมาคมผักและผลไม้เวียดนามกล่าวว่า การส่งออกสินค้าเกษตรกรรมไปยังจีนที่สูงเป็นประวัติการณ์
นาย Nguyen Dinh Tung ผู้อำนวยการของบริษัท Vina T&TT Export Import Service Trading Company กล่าวว่า การส่งออกทุเรียนของเวียดนามไปยังจีนอาจสูงถึง 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2566
กระทรวงคาดการณ์ว่า การส่งออกสินค้าเกษตร โดยเฉพาะผลไม้ จะสร้างสถิติใหม่มากขึ้นในไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้คนบริโภคมากขึ้นในช่วงวันหยุด ในอนาคต เวียดนามจะส่งออกมะพร้าวสดไปยังจีนภายใต้โควตาอย่างเป็นทางการ
สินค้าเวียดนามบางชนิด เช่น แก้วมังกร ส้มโอ และลำไย จะต้องแข่งขันกันอย่างดุเดือดกับผลไม้ที่คล้ายกันที่ปลูกในจีนและนำเข้าจากประเทศอื่นๆ
ในช่วงที่ผ่านมา สถิติมูลค่าการส่งออกผักและผลไม้ของเวียดนามไปยังจีนสูง เนื่องจากเวียดนามลงนามในระเบียบการส่งออกผักและผลไม้อย่างเป็นทางการหลายฉบับกับจีน นอกจากนี้ทางภูมิศาสตร์ที่ดี เวลาจัดส่งที่รวดเร็ว และต้นทุนต่ำ ช่วยให้ผักและผลไม้ของเวียดนามมีความได้เปรียบทางการแข่งขันกับประเทศต่างๆ อย่างไรก็ตาม แก้วมังกร ส้มโอ และลำไย จะต้องแข่งขันกับสินค้าจีนและหลายประเทศในกลุ่มอาเซียน นอกจากนี้ปรับคุณภาพอย่างมีเสถียรภาพการปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัยของอาหารและสุขอนามัย รวมทั้งการส่งเสริมแบรนด์ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรระดับชาติและการส่งเสริมการบริโภคช่องทาง อีคอมเมิร์ซและระบบซูเปอร์มาร์เก็ต
(จาก https://vietnamnews.vn/)
ข้อคิดเห็น สคต
เวียดนามถือเป็นแหล่งส่งออกผลไม้ที่สำคัญแหล่งหนึ่งของโลก ปัจจุบันเวียดนามเป็นผู้ส่งออกผักและผลไม้รายใหญ่ของโลก โดยสินค้าเกษตรของเวียดนามมีอยู่ในกว่า 190 ประเทศทั่วโลก การนำเข้าผักและผลไม้ของตลาดสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปจากเวียดนามมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเสดงให้เห็นว่า ผลิตภัณฑ์ผักและผลไม้ของเวียดนามสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในทั้งประเทศจีน สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น เวียดนามยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีน และจีนเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดและตลาดส่งออกรายใหญ่อันดับสองของเวียดนาม ส่วนเวียดนามเป็นหุ้นส่วนการค้าสำคัญของจีนในอาเซียนและอันดับ 6 ของโลก โดยจีนเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงมาก มีกำลังซื้อสูง ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายกำลังพัฒนาเป็นไปในทางที่ดี รวมถึงการตั้งใจของทั้งสองฝ่ายในการอำนวยความสะดวกในการส่งเสริมการค้า จะช่วยสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมากยิ่งขึ้น และส่งเสริมพัฒนาการค้าทวิภาคี ระหว่างเวียดนามและจีน เพื่อช่วยให้สินค้าเกษตร ป่าไม้ และการประมง เวียดนามเข้าสู่ตลาดผู้บริโภคปลายทางในจีนมากขึ้น เนื่องจากข้อได้เปรียบจากข้อตกลงการค้าเสรีต่างๆ ที่เวียดนามลงนาม ตลาดจีน และสหรัฐอเมริกา ถีอเป็นแหล่งนำเข้าผลไม้ที่สำคัญของไทย รวมทั้งการที่ญี่ปุ่นอยู่ระหว่างพิจารณาอนุญาตให้นำเข้าลำไยของเวียดนาม อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกผลไม้ไทยไปยังตลาดดังกล่าว เนื่องจากไทยและเวียดนามมีผลไม้ที่คล้ายคลึงกัน