18% ของแรงงานอิสราเอลไม่ได้ทำงานของตนและเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจ

กระทรวงแรงงานอิสราเอลรายงานว่าว่าชาวอิสราเอล 764,000 คน คิดเป็น 18% ของแรงงานทั้งหมดของอิสราเอลที่ไม่สามารถทำงานได้ในขณะนี้เนื่องจากสงคราม เมื่อเทียบกับในช่วงจุดสูงสุดของการแพร่ระบาดของโควิด 28% ของแรงงานอิสราเอลไม่สามารถไปทำงานได้

การที่พนักงานชาวอิสราเอล 764,000 คนไม่ได้ทำงานเนื่องจากสงครามนั้นทำให้เกิดภาระอย่างมากต่อเศรษฐกิจและเป็นหนึ่งในข้อพิจารณาที่ชักชวนกระทรวงการคลังให้จัดทำแผนการจ่ายผลตอบแทนที่ครอบคลุมชดเชยกันได้เพิ่มมากขึ้น

กลุ่มคนที่ไม่ทำงานแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มแรกคือทหารกองหนุนประมาณ 300,000 นายที่ถูกเรียก ซึ่งทหารกองหนุนเป็นส่วนหนึ่งของประชากรที่มีอัตราการจ้างงานสูง 90% และยังเป็นวัยทำงานที่สำคัญอีกด้วย

กลุ่มที่สอง คือ ผู้อยู่อาศัยในเขตชายแดนฉนวนกาซาและทางตอนเหนือใกล้ชายแดนเลบานอน ซึ่งถูกอพยพออกจากบ้านและไม่สามารถทำงานได้ – มีประมาณ 127,000 คน

กลุ่มที่สามคือผู้ปกครองของเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี ที่ต้องลดชั่วโมงทำงานหรือละทิ้งงานทั้งหมด ซึ่งมีพนักงานประมาณ 183,000 คน

กลุ่มที่ 4 คือกลุ่มที่ทำงานในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม เช่น การท่องเที่ยว บันเทิง การค้าปลีก และการก่อสร้าง ซึ่งมีพนักงานประมาณ 319,000 คน

เมื่อพิจารณา ว่ากลุ่มเหล่านี้มีความทับซ้อนกัน กระทรวงแรงงานจึงคำนวณว่าชาวอิสราเอล 764,000 คนหรือ 18% ของแรงงานไม่ได้ทำงานของตนในขณะนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับพนักงานจำนวน 1.15 ล้านคนหรือ 28% ของแรงงานไม่ได้ทำงานในช่วงที่มีการระบาดของโควิด คำถามก็คือ เศรษฐกิจอิสราเอลจะได้รับผลกระทบเช่นนี้ต่อไปอีกนานแค่ไหน?

กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ภาพของเศรษฐกิจช่วยให้กำหนดทิศทางทรัพยากรไปยังที่ที่ต้องการได้โดยการขยายเวลาทำการในสาขาที่ต้องการ นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานอนุมัติการนำแรงงานต่างด้าว 5,000 คนเพื่อแก้ไขสถานการณ์เกษตรกรรมของอิสราเอลและช่วยให้คำตอบในทุกจุดที่จำเป็นให้อุตสาหกรรมดำเนินต่อไป

คณะรัฐมนตรี.อิสราเอลได้อนุมัติแผนแผนการจ่ายผลตอบแทนธุรกิจของกระทรวงการคลังในการชดเชยธุรกิจสำหรับความเสียหายทางอ้อมจากสงคราม

แผนดังกล่าวประกอบด้วยเงินช่วยเหลือต่อเนื่องสำหรับธุรกิจทั่วประเทศ (ธุรกิจในแนวหน้ามีสิทธิ์ได้รับเงินคืนเต็มจำนวนสำหรับความเสียหายนี้ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย) รวมถึงสิทธิประโยชน์มากมายสำหรับคนงานที่ลางานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง แผนดังกล่าวต้องได้รับอนุมัติจากสภาเนสเซ็ต (Knesset) และจะมีการลงคะแนนเสียงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

เงินช่วยเหลือความต่อเนื่องทางธุรกิจ ตามแผนที่ได้รับอนุมัติ กองทุนชดเชยภาษีทรัพย์สินจะชดเชยธุรกิจทั่วประเทศที่มีมูลค่าการซื้อขายประจำปีอยู่ที่ตั้งแต่ 18,000 NIS ถึง 400 ล้าน NIS และมูลค่าการซื้อขายลดลงมากกว่า 25% สำหรับรายงานหนึ่งเดือนหรือ 12.5% สำหรับสองปี -รายงานประจำเดือน ตุลาคม และ/หรือ พฤศจิกายน 2566 สำหรับธุรกิจที่เริ่มกิจกรรมหลัง วันที่ 2 กันยายน 2565 จะได้รับการตรวจสอบคุณสมบัติตามมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยรายเดือนของกิจกรรมธุรกิจจนถึงเดือนสิงหาคม 2566 ธุรกิจที่มีผลประกอบการทางธุรกิจอยู่ที่ 18,000-300,000 NIS ต่อปี จะได้รับสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือความต่อเนื่องทางธุรกิจคงที่ ขึ้นอยู่กับระดับความเสียหายต่อธุรกิจ

ผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มจะได้รับจำนวนคงที่ขึ้นอยู่กับขนาดของธุรกิจ (1,750 NIS สำหรับธุรกิจที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 49,800 NIS ต่อปี และ 3,300 NIS สำหรับธุรกิจที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 120,000 NIS ต่อปี) .

ธุรกิจที่มีมูลค่าการซื้อขายต่อปีอยู่ที่ 300,000 NIS ถึง 400 ล้าน NIS ต่อปี จะได้รับสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือความต่อเนื่องทางธุรกิจ ซึ่งจะประกอบด้วยการชดใช้ค่าใช้จ่าย) ระหว่าง 7%-22% ขึ้นอยู่กับระดับความเสียหายต่อผลประกอบการ ตลอดจน การชดใช้ 75% ของค่าใช้จ่ายเงินเดือนที่เกี่ยวข้องกับจำนวนความเสียหาย

ค่าตอบแทนสำหรับธุรกิจที่มีมูลค่าการซื้อขายตั้งแต่ 300,000 NIS ถึง 100 ล้าน NIS ต่อปี จะต้องอยู่ภายใต้เพดานสูงสุดที่ 600,000 NIS สำหรับธุรกิจที่มีมูลค่าการซื้อขาย 100-300 ล้าน NIS เพดานนี้จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเป็นระดับ 1.2 ล้าน NIS การชดเชยสำหรับธุรกิจที่มีมูลค่าการซื้อขาย NIS 300-400 ล้านจะถูกกำหนดเพดานไว้ที่ NIS 1.2 ล้าน

หน่วยงานด้านภาษีจะอนุญาตให้ยื่นคำร้องออนไลน์เพื่อรับทุนได้จนถึงสิ้นสุดระยะเวลา 90 วันนับจากวันที่เปิดแอปพลิเคชัน ข้อกำหนดเบื้องต้นในการยื่นคำร้องคือการส่งรายงาน VAT สำหรับเดือนกันยายน-ตุลาคม 2023

บรรเทาทุกข์คนงานที่ลาโดยไม่ได้รับค่าจ้าง

การบรรเทาทุกข์สำหรับคนงานที่ลาโดยไม่ได้รับค่าจ้างรวมถึงข้อกำหนดที่ชดเชยวันลาพักร้อนไปจนถึงการรับค่าจ้างการว่างงาน จะมีการต่ออายุค่าจ้างการว่างงานโดยอัตโนมัติสำหรับผู้ที่สละสิทธิ์ 180% ของวันสิทธิ์ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา ลดระยะเวลาลาทำงานขั้นต่ำเพื่อรับเงินว่างงานจาก 30 วัน เหลือ 14 วัน และระยะเวลาคุณสมบัติขั้นต่ำใน การรับสวัสดิการว่างงานจะลดลงเหลือ 6 เดือน จาก 18 เดือน ความผ่อนผันเหล่านี้มีผลใช้ระหว่างวันที่ 7 ตุลาคมถึง 30 พฤศจิกายน 2566

ที่มา : Globes, Israel business news – en.globes.co.il

ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ

สถานการณ์สงครามดูจะยืดเยื้อยาวนานออกไปทำให้ประเทศอิสราเอลมีความเสี่ยงสูงในด้านความมั่นคงและความสงบสุขภายในประเทศ ส่งผลต่อเศรษฐกิจถดถอยและอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจลดลงจากที่คาดการไว้เดิม JP Morgan คาดว่า GDP ในอิสราเอลโดยรวมจะเติบโต 2.5% ในปี 2566 ลดลงจากเดิมที่การคาดการณ์ครั้งก่อนซึ่งอยู่ที่ 3.2% การคาดการณ์ของธนาคาร JP Morgan ในปี 2567 คือการเติบโตของ GDP ที่ 1.9% ลดลงเล็กน้อยจากการคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 2.0 % โดยธนาคารแห่งอิสราเอลคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ 2.5% ในปีหน้าและการเติบโตของ GDP ยังคาดการเป็นบวกอยู่ที่ 2.8%

————————————————————-

สคต.เทลอาวีฟ

5 พ.ย.66

 

 

thThai