ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในประเทศที่เศรษฐกิจมีพลวัตมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกด้วยการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่โดดเด่น การขยายตัวของเมืองและชนชั้นกลาง ฐานจำนวนประชากรขนาดใหญ่กว่า 113 ล้านคน และส่วนใหญ่มีอายุน้อย ทั้งนี้ พลวัตทางเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์มีรากฐานสำคัญมาจากความต้องการของผู้บริโภคที่แข็งแกร่งซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากตลาดแรงงานและการส่งเงินกลับประเทศของแรงงานชาวฟิลิปปินส์ในต่างประเทศที่แข็งแกร่ง รวมทั้งการเติบโตของภาคธุรกิจเอกชนที่ยังคงมีเสถียรภาพจากการดำเนินงานเชิงบวกจากภาคบริการโดยเฉพาะธุรกิจรับจ้างบริหารจัดการระบบงานธุรกิจ (Business Process Outsourcing: BPO) การขายส่งและการขายปลีก อสังหาริมทรัพย์ และการท่องเที่ยว ทั้งนี้ แม้ว่าในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะส่งผลให้ฟิลิปปินส์ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ รวมทั้งปัจจุบันกำลังต่อสู้กับความท้าทายและอุปสรรคอื่นๆ ที่เกิดทั่วโลก เช่น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์โลกเพิ่มสูงขึ้น และภาวะเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ แต่เศรษฐกิจของฟิลิปปินส์สามารถฟื้นตัวและขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประชากรจำนวนมากและมีความต้องการจับจ่ายใช้สอย ทำให้อุปสงค์ในประเทศฟิลิปปินส์ยังคงแข็งแกร่งอย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการจำหน่ายสินค้าที่เหมาะสมมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นเมื่อตลาดเติบโตขึ้น ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลสำคัญสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าสู่ตลาดในการติดตามแนวโน้มของตลาดและทำความเข้าใจผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ต้องการ รวมถึงพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการฟิลิปปินส์สามารถนำไปออกแบบ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถตอบโจทย์ตรงกับความต้องการ รวมทั้งสามารถใช้ในการกำหนดกลยุทธ์ในการทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
รายการสินค้ายอดนิยมและเป็นที่ต้องการในฟิลิปปินส์
-
- แฟชั่นและเครื่องประดับ
แฟชั่นและเครื่องประดับเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในฟิลิปปินส์ โดยชาวฟิลิปปินส์ขึ้นชื่อในเรื่องความชื่นชอบแฟชั่นและสไตล์เป็นอย่างมาก โดยปัจจุบันชุดเดรสของผู้หญิงเป็นสินค้าที่มีความต้องการสูงที่สุดในประเทศ ทั้งนี้ ชาวฟิลิปปินส์มีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นและเครื่องประดับมากขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย สำหรับสินค้ายอดนิยมบางส่วนในหมวดหมู่แฟชั่นและเครื่องประดับ อาทิ
-แม็กซี่เดรส (Maxi Dresses) หรือ เดรสยาว ตัวเดรสมีลักษณะเข้ารูปในช่วงบนของลำตัวและ ส่วนกระโปรงจะยาวถึงข้อเท้าหรือเหนือข้อเท้าเล็กน้อย สำหรับตัวเนื้อผ้าที่ใช้มักใช้ผ้าที่มีความพลิ้วไหวเมื่อเวลา สวมใส่จะรู้สึกสบายและโชว์ทรวดทรงของผู้หญิงได้เป็นอย่างดี
-เดนิม (Denim) คือ ผ้าที่ทอจากฝ้ายชนิดหนึ่ง แต่ไม่อ่อนนุ่มเหมือนผ้าฝ้ายทั่วไป และมีลักษณะ การทอแบบ Twill ทั้งนี้ ผ้าเดนิมแบบดั้งเดิมจะถูกย้อมด้วยสีคราม (Indigo) โดยผ้าเดนิมส่วนใหญ่จะนำถูกนำไปผลิตกางเกงยีนส์
-กางเกงคาร์โก้ (Cargo Pants) หรือ กางเกงทรงทหาร เดิมจะพบในกลุ่มของทหารสวมใส่ มีเอกลักษณ์อยู่ที่ทรงหลวมตัวใหญ่และดีไซน์มาเพื่อให้เหมาะสมกับการทำกิจกรรมที่คล่องตัว ทั้งนี้ ปัจจุบันในวงการแฟชั่น มีการนำกางเกง Cargo มาใส่กันมากขึ้น โดยมีดีไซน์ให้เลือกมากมายทั้งแบบออริจินอล จั้มขา หรือแบบขาสั้น
-สำหรับสินค้าเครื่องประดับที่เป็นที่นิยมที่สุดในฟิลิปปินส์ ได้แก่ กิ๊บติดผม ผ้าคาดผม และยางรัดผมทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่ายอดขายเครื่องแต่งกายสำหรับสตรีในตลาดฟิลิปปินส์จะมีปริมาณอยู่ที่ประมาณ 104.60 ล้านชิ้น ภายในปี 2570 ด้วยอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) ที่ร้อยละ 3.75
(2) ผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขภาพ
ชาวฟิลิปปินส์ขึ้นชื่อในเรื่องความสนใจในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและการแต่งหน้า โดยมีผลิตภัณฑ์มากมายที่กำลังมาแรงมากมายในหมวดหมู่ดังกล่าว สำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเป็นสิ่งที่ชาวฟิลิปปินส์หลายคนต้องมี เช่น โทนเนอร์ มอยเจอร์ไรเซอร์และเซรั่ม เป็นต้น รวมถึงสินค้าเครื่องสำอาง ก็เป็นที่ยอดนิยมเช่นกัน โดยผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่มักมองหาสินค้าเครื่องสำอางคุณภาพสูงที่มีราคาไม่แพง สำหรับแบรนด์เครื่องสำอางที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่ผู้หญิงชาวฟิลิปปินส์ เช่น Vice Cosmetics, BLK และ Happy Skin โดยแบรนด์ทั้งหมดดังกล่าวมีเจ้าของและ ผลิตในประเทศฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์ต่างประเทศชั้นนำที่เป็นที่นิยมเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะแบรนด์จากเกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา เช่น Innistree, Laneige, Beauty of Joseon และ Banila Co เป็นต้น
(3) สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์
ชาวฟิลิปปินส์ขึ้นชื่อในเรื่องความสนใจในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและการแต่งหน้า โดยมีผลิตภัณฑ์มากมาย ที่กำลังมาแรงมากมายในหมวดหมู่ดังกล่าว สำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเป็นสิ่งที่ชาวฟิลิปปินส์หลายคนต้องมี เช่น โทนเนอร์ มอยเจอร์ไรเซอร์ และเซรั่ม เป็นต้น รวมถึงสินค้าเครื่องสำอาง ก็เป็นที่ยอดนิยมเช่นกัน โดยผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่มักมองหาสินค้าเครื่องสำอางคุณภาพสูงที่มีราคาไม่แพง สำหรับแบรนด์เครื่องสำอางที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่ผู้หญิงชาวฟิลิปปินส์ เช่น Vice Cosmetics, BLK และ Happy Skin โดยแบรนด์ทั้งหมดดังกล่าวมีเจ้าของและ ผลิตในประเทศฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์ต่างประเทศชั้นนำที่เป็นที่นิยมเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะแบรนด์จากเกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา เช่น Innistree, Laneige, Beauty of Joseon และ Banila Co เป็นต้น
(3) สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์
วิดีโอเกมนับเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมในฟิลิปปินส์ โดยชาวฟิลิปปินส์มีพฤติกรรมชื่นชอบการเล่นวิดีโอเกมโดยเฉพาะบนอุปกรณ์เคลื่อนที่และคอนโซลเกม ทำให้สินค้าดังกล่าวมียอดขายที่ดีในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ คาดการณ์ว่ารายได้ภายในตลาดเกมมือถือของฟิลิปปินส์จะมีมูลค่าสูงถึง 1.27 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2566 โดยมีอัตราเติบโต CAGR อยู่ที่ร้อยละ 7.85 นอกจากนี้ สินค้าอุปกรณ์โทรศัพท์ Android ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่มียอดจำหน่ายดี โดย Oppo เป็นแบรนด์ชั้นนำและ ได้รับความนิยมครองส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 19.54 ณ เดือนมกราคม 2566 ตามมาด้วยแบรนด์ Vivo อันดับที่สอง ในขณะที่แบรนด์ Apple กลับได้รับความนิยมอยู่ในอันดับ ที่หก สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในฟิลิปปินส์ ได้แก่ ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ และเครื่องซักผ้า โดยคาดว่ายอดขายสำหรับหมวดหมู่ดังกล่าว จะมีมูลค่าประมาณ 8.60 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2566 และมีอัตราเติบโต CAGR อยู่ที่ร้อยละ 3.83 สำหรับแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำและได้รับความนิยมในฟิลิปปินส์ ได้แก่ Sumsung, Condura และ Panasonic
4) อาหารและเครื่องดื่ม
ชาวฟิลิปปินส์ขึ้นชื่อในเรื่องการรักในการรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม โดยกาแฟเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ต้องการในฟิลิปปินส์และสามารถพบร้านกาแฟได้ทั่วประเทศ โดยชาวฟิลิปปินส์ประมาณ ร้อยละ 80 ดื่มกาแฟประมาณ 2.5 ถ้วยต่อวัน และร้อยละ 93 ของครัวเรือนชาวฟิลิปปินส์ซื้อกาแฟทุกสัปดาห์ สำหรับสินค้ายอดนิยมอื่นๆ ในหมวดหมู่ดังกล่าว ได้แก่ ของว่าง น้ำอัดลม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ จากข้อมูลของ Statista ระบุว่าในปี 2566 ร้อยละ 2.1 ของรายได้รวมของตลาดอาหารจะมาจากการขายออนไลน์ภายในปี 2566 โดยประเภทสินค้าที่มีส่วนแบ่งมากที่สุด คือ ขนมปังและซีเรียล ซึ่งจะมีมูลค่า 41.11 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้ คาดการณ์ว่ารายได้โดยรวมของอุตสาหกรรมอาหารในปี 2566 จะอยู่ที่ประมาณ 134.60 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีอัตราเติบโต CAGR อยู่ที่ร้อยละ 7.07 ในขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดเครื่องดื่มจะสูงถึง 1.017 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2570 โดยมีอัตรา CAGR อยู่ที่ร้อยละ 14.96 สำหรับแบรนด์สินค้าอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำในฟิลิปปินส์ ได้แก่ Nestle Philippines, Inc., San Miguel Brewery และUniversal Robina Corporation
(5) Health and Wellness
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมาทำให้ชาวฟิลิปปินส์ตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพของตนเองมากขึ้นโดยอุปกรณ์กีฬาและฟิตเนสกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในหมวดหมู่ผลิตภัณพ์เพื่อสุขภาพ โดยในช่วงการแพร่ระบาดฯ ชาวฟิลิปปินส์จำนวนมากไม่สามารถเดินทางไปยิมได้ ทำให้สินค้าอุปกรณ์กีฬาและฟิตเนสมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นอย่างมาก เช่น เสื่อโยคะ Resistance bands และ ดัมเบล ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในปี 2566 รายได้ของอุตสาหกรรมอุปกรณ์กีฬาอยู่ที่ประมาณ 1.726 พันล้านเหรียญสหรัฐฯโดยมีอัตราเติบโต CAGR อยู่ที่ร้อยละ 6.79 สำหรับแบรนด์ที่จำหน่ายเครื่องออกกำลังกายที่เป็นที่นิยม ได้แก่ Johnson Fitness and Wellness, JB Sports, Toby’s Sports และ PlayHard Fitness นอกจากนี้สินค้าเพื่อสุขภาพที่เป็นที่นิยมอีก ได้แก่ วิตามินเสริม และผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล เช่น มอยเจอร์ไรเซอร์ และสบู่อาบน้ำ ทั้งนี้จากการสำรวจชาวฟิลิปปินส์เมื่อต้นปี 2566 ผู้ตอบแบบสำรวจร้อยละ 75.82 ระบุว่ามีการซื้อวิตามินรับประทาน และ ร้อยละ 63.24 ซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลผิวมาใช้ สำหรับแบรนด์ผลิตภัณฑ์วิตามินที่ผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์นิยมซื้อทั่วไป เช่น Puritan’s Pride, Healthmax, Centrum เป็นต้น
กลยุทธ์และเคล็ดลับการทำการตลาดและจำหน่ายสินค้าให้กับผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์อย่างมีประสิทธิภาพ
การตลาดนับเป็นส่วนสำคัญเป็นอย่างมากที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการประสบความสำเร็จในการเข้าสู่ตลาดและจำหน่ายสินค้า โดยการกำหนดกลยุทธ์และเคล็ดลับต่างๆ อย่างถูกต้องและเหมาะสมในแต่ละตลาดเพื่อใช้ โปรโมทสินค้าจะช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับกลยุทธ์และเคล็ดลับการทำการตลาดและการขายสินค้าในฟิลิปปินส์มี ดังนี้
(1) รู้จักตลาดเป้าหมายและความต้องการ
การทำความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมความชื่นชอบและความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายนับเป็นสิ่งจำเป็นอันดับต้นๆ ที่ผู้ประกอบต้องคำนึงถึง โดยผู้ประกอบการสามารถทำการวิจัยตลาดและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเข้าถึงข้อมูลกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและสิ่งที่ลูกค้าต้องการในตัวสินค้า ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถวางกลยุทธ์ หรือปรับเปลี่ยนความพยายามทางการตลาดเพื่อดึงดูดผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ชาวฟิลิปปินส์มักมีพฤติกรรมชื่นชอบการทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีราคาไม่แพง ชอบสินค้าที่มีความสะดวก ยั่งยืน และดีต่อสุขภาพหรือ ผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์มักชื่นชอบการช้อปปิ้งที่ให้ข้อเสนอต่างๆ ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่าผู้ซื้อชาวฟิลิปปินส์ 3 ใน 10 ราย จะซื้อสินค้าเนื่องจากมีโปรโมชั่น โดยข้อเสนอที่ผู้ประกอบการสามารถนำไปพิจารณาใช้และมักได้ผลตอบรับดีในการทำตลาดในฟิลิปปินส์ อาทิ ซื้อ 1 แถม 1 การจัดส่งฟรี หรือการให้ส่วนลดประเภทต่างๆ
(2) การใช้สื่อออนไลน์หรือโซเซียลมีเดียทำการตลาด
ฟิลิปปินส์มีจำนวนประชากรผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกคิดเป็นประมาณร้อยละ 72 นอกจากนี้ โซเชียลมีเดียยังเป็นหนึ่งในช่องทางที่ชาวฟิลิปปินส์ใช้เวลามากในแต่ละวันคิดเป็นประมาณ 4 ชั่วโมงหรือมากกว่าต่อวัน โดยแพลตฟอร์มโซเซียลมีเดียที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ Facebook, TikTok และ Twitter ดังนั้น การสร้างแผนการตลาดที่เน้นไปที่การใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มโซเซียลมีเดียดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการในการโปรโมทสินค้าเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในฟิลิปปินส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนอกจากช่องทางโซเซียลมีเดียแล้ว ช่องทางการตลาดอื่นๆ ที่ผู้ประกอบการสามารถนำใช้ได้ เช่น การตลาดผ่านอีเมล์ การโฆษณา และการตลาดเนื้อหา เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ ควรเลือกช่องทางที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับกลุ่มเป้าหมาย และงบประมาณเป็นสำคัญ นอกจากนี้ ชาวฟิลิปปินส์ยังเป็นผู้บริโภคที่ชื่นชอบการเข้าชมวิดีโอออนไลน์อีกด้วย โดยเฉพาะการชม Vlogs ทำให้ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีผู้ชม Vlogs มากที่สุดในโลก รวมทั้งชาวฟิลิปปินส์ยังชอบดูวิดีโอบนเว็บไซต์สตรีมมิ่ง Youtube และ Netflix ซึ่งช่องทางดังกล่าวจะสามารถสร้างโอกาสทางการตลาดได้เป็นอย่างดีสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในลักษณะที่น่าดึงดูดยิ่งขึ้น
(3) การร่วมมือกับ Influencers
การร่วมมือกับผู้มีอิทธิพล (Influencers)ที่มีผู้ติดตามหรือผู้ชมจำนวนมากบนโซเชียลมีเดียเป็นวิธีที่ได้ผลเป็นอย่างมากในการโปรโมทสินค้าของผู้ประกอบการในฟิลิปปินส์ สำหรับวิธีการเลือกผู้มีอิทธิพลควรพิจารณาให้เหมาะสมสอดคล้องกับแบรนด์ และกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจในการนำเสนอสินค้า ทั้งนี้ ชาวฟิลิปปินส์ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่นิยมยกย่องคนดังและผู้มีอิทธิพลโดยเฉพาะในท้องถิ่น โดยจากสำรวจระบว่าประชากรออนไลน์ ชาวฟิลิปปินส์ ร้อยละ 51.4 ติดตามบุคคลที่ได้รับความนิยม ซึ่งเกินค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ร้อยละ 22.6 ดังนั้น ผู้ประกอบการหรือแบรนด์สินค้าต่างๆ จึงมักนิยมทำการตลาดผ่าน Influencers ในประเทศฟิลิปปินส์ เนื่องจากสามารถเข้าถึงผู้ชมในวงกว้าง และชาวฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะไว้วางใจแบรนด์ต่างๆ จากการรับฟังคำแนะนำจากบุคคลที่มีอิทธิพล สำหรับช่องทางสื่อสารที่ Influencers มักนิยมใช้ ได้แก่ TikTok และ Instagram
(4) การใช้ Targeted Ad
การโฆษณาที่ตรงเป้าหมาย (Targeted Ad) เป็นรูปแบบหนึ่งของการโฆษณาออนไลน์ที่ใช้ข้อมูลเพื่อแสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้องไปยังผู้ชมเฉพาะเจาะจงตามความสนใจ พฤติกรรม และข้อมูลประชากร ทั้งนี้การใช้ Targeted Ad ช่วยให้ผู้ประกอบการมั่นใจได้ว่าสินค้าจะถูกแสดงต่อกลุ่มคนหรือกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการซื้อสำหรับตัวอย่างของแพลตฟอร์มที่ผู้ประกอบการสามารถใช้ในการแสดงโฆษณาแบบ Targeted Ad ในฟิลิปปินส์ เช่น โฆษณาบน Google โฆษณาบน Facebook และโฆษณาบน Instagram เป็นต้น ทั้งนี้ การใช้ Targeted Ad ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้ผลตอบรับที่ดีในฟิลิปปินส์ เนื่องจากชาวฟิลิปปินส์จำนวนมากใช้เวลาบนโลกออนไลน์ในแต่ละวัน อย่างไรก็ตาม การใช้ Targeted Ad ผู้ประกอบการควรพิจารณาเลือกใช้ช่องทางที่รับความนิยมมากที่สุดเพื่อแสดงโฆษณาที่ตรงเป้าหมายได้ รวมทั้งควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อความโฆษณาและภาพสินค้าสอดคล้องและตรงกับกับความชื่นชอบของกลุ่มเป้าหมาย
————————————————-
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา
15 พฤศจิกายน 2566
อ้างอิง
Market the Most In-Demand Products in the Philippines (spiralytics.com)
Top 10 Digital Marketing Trends in the Philippines 2024 (spiralytics.com)