ส่อง 'อาหารว่างแช่แข็ง' เทรนด์ตอบโจทย์ผู้บริโภคใหม่ในตลาดจีน

ที่มาภาพ: https://www.iimedia.cn/c1086/96691.html

 

จากการเติบโตของเศรษฐกิจคนขี้เกียจ (Lazy Economy) ด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนไป ทำให้ผู้คนในยุคปัจจุบันมีความเร่งรีบมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการด้านอาหารของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ความต้องการอาหารที่อร่อย สะดวก รวดเร็ว มีคุณค่าทางโภชนาการมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์อย่าง ‘อาหารว่างแช่แข็ง (速冻小吃)’  ที่ผ่านกระบวนการแปรรูปในระหว่างกระบวนการผลิตและไม่ต้องเตรียมวัตถุดิบหรือมีขั้นตอนการทำอาหารที่ซับซ้อน ทำให้ผู้บริโภคสามารถรับประทานได้สะดวก ปรุงง่าย รวดเร็ว และมีคุณค่าทางโภชนาการได้กลายเป็นนตัวเลือกแรกสำหรับสำหรับผู้บริโภคสมัยใหม่ นอกจากนี้ ตลาดอาหารว่างแช่แข็งเริ่มได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และยังคงสามารถเติบโตต่อไปได้เรื่อย ๆ

 

จากรายงานการวิจัยเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มการบริโภคอาหารว่างแช่แข็งของจีนประจำปี 2566 โดย iiMedia Consulting แสดงให้เห็นว่าขนาดตลาดของอาหารว่างแช่แข็งของจีนจะสูงถึง 19.13 พันล้านหยวน (ประมาณ 9.565 หมื่นล้านบาท) ในปี 2565 และคาดว่าจะมีมูลค่าเกิน 2 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 1 แสนล้านบาท) ในปี 2566 นอกจากนี้ ‘ความสะดวก’และ’ความรวดเร็ว’เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ผู้บริโภคเลือกซื้ออาหารว่างแช่แข็ง

ส่อง 'อาหารว่างแช่แข็ง' เทรนด์ตอบโจทย์ผู้บริโภคใหม่ในตลาดจีน

ที่มาภาพ: https://www.iimedia.cn/c1086/96691.html

 

อุตสาหกรรมอาหารว่างมีการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่รุนแรง

โดยรวมของ’อุตสาหกรรมอาหารว่างแช่แข็ง’กำลังดีขึ้นเรื่อย ๆ และกลายเป็นพื้นที่ที่แบรนด์อาหารและผู้เล่นจากต่างแดนหลายรายต่างพยายามแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาด มีแบรนด์ในประเทศจีนจำนวนมากได้เข้าร่วมและแข่งขันในตลาดนี้อย่างดุเดือด ซึ่งแตกต่างจากหมวด’อาหารแช่แข็ง’ตรงที่หมวดอาหารว่างแช่แข็งยังมีผู้เล่นไม่มาก แบรนด์ใหม่ที่มีนวัตกรรมจะได้เปรียบอย่างชัดเจน แต่เนื่องจากตลาดยังคงขยายตัวและการแข่งขันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ การแข่งขันของแบรนด์ในตลาดจะรุนแรงมากขึ้น โดยคุณภาพและการบริการจะกลายเป็นกุญแจสำคัญสำหรับบริษัทต่าง ๆ ในการครองใจผู้บริโภคและแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาด

 

ในบรรดาผู้เข้าร่วมการแข่งขันในตลาดอาหารว่างแช่แข็ง นอกเหนือจากบริษัทอาหารแช่แข็งแบบดั้งเดิมที่ปรับตัวและเข้ามาแข่งขันในตลาดนี้แล้ว ยังมีบริษัทที่มุ่งเน้นจำหน่ายเฉพาะ’อาหารว่างแช่แข็ง’ เช่นแบรนด์ Royal Tiger (皇家小虎) ซึ่งเป็นแบรนด์ที่พัฒนาอย่างรวดเร็วใน 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ด้วยการมุ่งเน้นไปที่นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และการวิจัยและพัฒนาในหมวด “อาหารว่างแช่แข็ง” ทำให้ผลิตภัณฑ์จำนวนมากได้รับการให้คะแนนที่ดีและมีต้องการซื้อซ้ำบนหลายแพลตฟอร์มออนไลน์

 

นอกจากนี้ บริษัทอาหารว่างแช่แข็งเหล่านี้ โดยเฉพาะแบรนด์ที่มุ้งเน้นในด้านอาหารว่างแช่แข็ง มักจะมีข้อมูลเชิงลึกด้านตลาดและความสามารถในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น และสามารถตอบสนองความต้องการส่วนบุคคลของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น ด้วยการให้ความสำคัญกับคุณภาพและรสชาติของผลิตภัณฑ์มากขึ้น จึงค่อย ๆ สร้างชื่อเสียงที่ดีในหมู่ผู้บริโภคได้

ส่อง 'อาหารว่างแช่แข็ง' เทรนด์ตอบโจทย์ผู้บริโภคใหม่ในตลาดจีน

ที่มาภาพ: https://www.foodaily.com/index.php/articles/33838

 

อาหารว่างแช่แข็งได้แสดงให้เห็นถึงแรงผลักดันการพัฒนาที่แข็งแกร่งและกลายเป็นประตูสู่อุตสาหกรรมอาหาร แบรนด์ที่เข้าสู่ตลาดไม่สามารถเพียงแต่เข้ามาในตลาดเพื่อหาผลกำไรในระยะสั้นเท่านั้น แต่พวกเขาจำเป็นต้องคิดถึงวิธีการสร้างแบรนด์อย่างยั่งยืนในระยะยาว และเอาชนะความไว้วางใจและความภักดีของผู้บริโภคผ่านคุณภาพและบริการ การสร้างแบรนด์ที่ยั่งยืนและการสร้างวัตกรรมเท่านั้นที่จะสามารถสร้างความโดดเด่นในการแข่งขันทางการตลาดที่รุนแรงและบรรลุการพัฒนาที่ยั่งยืน

 

ยกตัวอย่างเช่น Royal Tiger ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มี’ปริมาณการขายอาหารว่างแช่แข็งเป็นอันดับ 1′ จาก   แบรนด์ทั้งหมด Royal Tiger ก่อตั้งขึ้นในปี 2563 โดยเริ่มต้นจากการมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจอาหารแปรรูปกึ่งแช่แข็ง (冷冻半成品) และผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป หลังจากออกสู่ตลาดด้วยผลิตภัณฑ์ไส้กรอกย่างเพียงผลิตภัณฑ์เดียวแล้วนั้น ทางแบรนด์ก็ค่อย ๆ ขยายสายการผลิตให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยในปัจจุบันมีรายได้ต่อปีมากกว่า 1 พันล้านหยวน (ประมาณ 5 พันล้านบาท) ซึ่งความสำเร็จของ Royal Tiger ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เกิดมาจากความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในตลาดและการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง

 

ส่อง 'อาหารว่างแช่แข็ง' เทรนด์ตอบโจทย์ผู้บริโภคใหม่ในตลาดจีน

ที่มาภาพ: https://www.foodaily.com/index.php/articles/33838

 

กรณีศึกษา: Royal Tigers

ข้อมูลจาก iiMedia Research แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคมากกว่าร้อยละ 75 เลือกซื้ออาหารว่างแช่แข็ง โดยมีโรตีสไตล์จีนและไส้กรอกย่างที่ได้รับความนิยมสูงสุด

 

Royal Tiger ยังอิงจากการวิจัยตลาดผู้บริโภค โดยใช้ไส้กรอกเนื้อเป็นจุดเริ่มต้น และวางตำแหน่งแบรนด์ของตัวแปรเป็นผู้จำหน่ายไส้กรอกเนื้อคุณภาพสูง โดยยกระดับจากไส้กรอกกรอบยอดนิยมเป็นไส้กรอกหมูไร้แป้งบริสุทธิ์ จากนั้นจึงค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนสินค้าให้มีคุณภาพสูงขึ้น โดยเปลี่ยนให้เป็นเนื้อสดแบบไม่เติมสารใด ๆ ทำให้ค่อย ๆ ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค และจากความสำเร็จของไส้กรอกย่างนั้น Royal Tiger ได้นำประสบการณ์ของตนมาประยุกต์ใช้กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับอาหารเช้าและอาหารว่างอื่นๆ เช่น ทาร์ตไข่ ไก่ม้วน ปาท่องโก๋ โรตีสไตล์จีน ขนมจีบ เป็นต้น

 

ข้อมูลจาก iiMedia Research แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคมากกว่าร้อยละ 50 ซื้ออาหารว่างแช่แข็งในปริมาณปานกลาง ผู้จำหน่ายสามารถเริ่มต้นด้วยการตั้งราคาที่สูงกว่าคู่แข่งได้ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่แปลกใหม่กว่าคู่แข่ง เพื่อตอบสนองความต้องการในการบริโภคของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแนวคิด “ผลผลิตที่มีมูลค่าสูงสุด” ที่ Royal Tiger ยึดถือนั้น มุ่งมั่นที่จะจัดหาอาหารที่มีคุณภาพสูงและราคาไม่แพงให้กับผู้บริโภคชาวจีน ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการบริโภคของผู้บริโภคจำนวนมาก

 

Royal Tiger ก่อตั้งขึ้นในเดือนมิถุนายน 2563 โดยยึดมั่นในแนวคิด “การเพิ่มมูลค่าสินค้า” และดำเนินการพัฒนานวัตกรรมการผลิต ตลอดจนวิจัยและพัฒนาในหมวด “อาหารว่างแช่แข็ง” นำกลยุทธ์การดำเนินงานแบบหลายช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงช่องทางการค้าปลีกใหม่มาใช้ เข้าสู่ตลาดด้วยไส้กรอกย่างยอดนิยม และประสบความสำเร็จในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ยอดนิยมหลายอย่าง เช่น ไส้กรอกย่าง ทาร์ตไข่ เค้กมือ ไก่ม้วน เป็นต้น โดยมียอดขายปีเดียวทะลุ 1 พันล้านหยวน (ประมาณ 5,000 ล้านบาท) จากข้อมูลการวิจัยของ iiMedia แสดงให้เห็นว่าจานส่วนแบ่งการตลาดการขายของแบรนด์อาหารว่างแช่แข็งทั้งหมดในปี 2565 แบรนด์ Royal Tiger คิดเป็นร้อยละ 14.9 ซึ่งครองอันดับหนึ่งในเครือข่ายยอดขายทั้งหมด ความสำเร็จนี้ยังช่วยให้ Royal Tiger ครองตำแหน่งตลาด ‘ปริมาณการขายอาหารว่างแช่แข็งอันดับ 1’ ของ iiMedia Consulting จากแบรนด์ในตลาดนี้ทั้งหมด

 

ส่อง 'อาหารว่างแช่แข็ง' เทรนด์ตอบโจทย์ผู้บริโภคใหม่ในตลาดจีน

ที่มาภาพ: https://www.iimedia.cn/c1086/96691.html

 

นอกจากนี้ ความสำเร็จของ Royal Tiger ไม่สามารถแยกออกจากการพัฒนาแบบหลายช่องทางและหลายแพลตฟอร์มได้ จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเป็นช่องทางหลักสำหรับผู้บริโภคในการซื้ออาหารว่างแช่แข็ง และช่องทางออฟไลน์ก็มีสัดส่วนจำนวนมากเช่นกัน ร้านค้าสามารถเปิดช่องทางการขายเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มยอดขายได้ โดย Royal Tiger ได้เริ่มเค้าโครงการพัฒนาที่ครอบคลุมบนหลายแพลตฟอร์มออนไลน์ตั้งแต่ปี 2564 และได้ตั้งร้านค้าใน Taobao, Pinduoduo, Xiaohongshu, Douyin, Kuaishou, JD.com, Taobao Special Edition, Duoduomaicai, Meituan Selection, Xiaomi Youpin และแพลตฟอร์มอื่น ๆ นอกจากนี้ Royal Tiger ยังเปิดตัวการไลฟ์สดเพื่อโปรโมตสินค้าบน Taobao, Douyin, Kuaishou และแพลตฟอร์มอื่น ๆ ส่งผลให้ยอดขายออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว และในขณะที่ยอดขายออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็วนั้น Royal Tiger ได้เริ่มมุ่งเน้นไปที่การจำหน่ายผลิตภัณฑ์หลักทางออฟไลน์เพื่อเพิ่มยอดขาย Royal Tiger ยังคงสำรวจและปรับปรุงรูปแบบการขายแบบ Omni-Channel อย่างต่อเนื่อง Royal Tiger ประสบความสำเร็จในการเปิดช่องทางการขายและเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์และยอดขายผ่านรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ที่ครอบคลุม

 

นักวิเคราะห์ของ iiMedia Consulting กล่าวว่าด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีโลจิสติกส์แบบแช่แข็ง ระบบโลจิสติกส์และการจัดจำหน่ายของอุตสาหกรรมอาหารว่างแช่แข็งจะได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น และเทคโนโลยีอาหารแช่แข็งจะมีความสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต แนวโน้มการพัฒนาของอุตสาหกรรมอาหารว่างแช่แข็งจะถูกชี้นำด้วยนวัตกรรม สุขภาพ และความสะดวกสบาย แบรนด์ต่าง ๆ จำเป็นต้องคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ รสชาติใหม่ และบรรจุภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค ในขณะเดียวกัน เมื่อความตระหนักรู้ด้านสุขภาพของผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น แบรนด์ต่าง ๆ จะต้องให้ความสำคัญกับคุณค่าทางโภชนาการและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน เมื่อรูปแบบการบริโภคเปลี่ยนไปและผู้บริโภครุ่นใหม่กลายเป็นกำลังหลัก แบรนด์ต่าง ๆ จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับความสะดวกและความรวดเร็วของผลิตภัณฑ์มากขึ้น และจำเป็นต้องตามทันแนวโน้มของตลาดและปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์และคุณภาพการบริการอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของผู้บริโภค

 

ข้อคิดเห็นของสคต.เซี่ยงไฮ้

อาหารว่างแช่แข็งถือเป็นอาหารสำเร็จรูปรูปแบบใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม ทั้งมีความหลากหลาย อีกทั้งแบรนด์ต่าง ๆ ทั้งเพิ่งก่อตั้งหรือเป็นแบรนด์ที่เคยขายสินค้าอาหารประเภทอื่นก่อนหน้านี้ก็ตาม ล้วนเป็นผู้เล่นมือใหม่ในอุตสาหกรรมอาหารว่างแช่แข็งทั้งสิ้น ทำให้การแข่งขันของอาหารว่างแช่แข็งไม่มีใครได้เปรียบมากกว่ากัน ทุก ๆ แบรนด์มีโอกาสในการแข่งขันและอย่างชิงส่วนแบ่งการตลาด แข่งกันในด้านการพัฒนาสินค้าให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและความหลากหลาย ซึ่งเป็นโอกาสดีของธุรกิจของไทยในกลุ่มอาหารแช่แข็งที่ต้องการเข้ามาตีตลาดสินค้าอาหารในตลาดของจีน ซึ่งอาหารว่างแช่แข็งถือเป็นช่องทางที่ธุรกิจไทยสามารถแข่งขันกับธุรกิจของจีนได้ สามารถดึงเอกลักษณ์ หรืออาหารรสชาติแบบไทยที่เป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภคชาวจีนและมีราคาแพงมาแปลงเป็นอาหารว่างแช่แข็งสำเร็จรูปและวางจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ของจีนได้ ซึ่งจะสามารถดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว อร่อย รวมถึงมีความแปลกใหม่ เป็นอาหารสำเร็จรูปรสชาติแบบไทยที่ราคาจับต้องได้

________________________________________________________________________________

จัดทำโดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้

วันที่ 17 พฤศจิกายน 2566

 

แหล่งที่มา

https://www.iimedia.cn/c1086/96691.html

thThai