มองภาพรวมอุตสาหกรรมอาหารในแคนาดา 2024

มาเริ่มต้นปีใหม่กับการมองดูอุตสาหกรรมอาหารในแคนาดาปี 2567 ว่าจะไปในทิศทางใด เนื่องจากในปีที่ผ่านมาเป็นอีกปีที่มีการกล่าวถึงภาวะราคาสินค้าอาหารปรับขึ้นสูงขึ้นมากจากช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนส่งผลให้ผู้ผลิตอาหารและผู้บริโภคชาวแคนาดาต้องมีการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดกัน นอกจากนั้น ในวงการยังมีเทรนด์อาหารด้านนวัตกรรมการผลิต และการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างเลี่ยงไม่ได้ รวมไปถึงการเปิดใหม่ของร้านอาหารชื่อดังหลายแห่ง และเมนูที่กำลังเป็นที่นิยมต่างๆ นานา

ในการนี้ นิตยสาร Macleans แคนาดา ได้มีการสรุปเทรนด์และการเปลี่ยนแปลงในวงการอาหารแคนาดาที่จะเกิดขึ้นปี 2567 ไว้ดังนี้

• รัฐบาลกลางพยายามเข้ามาปรับลดราคาสินค้าอาหารในประเทศ

จากปี 2566 เมื่อห้างค้าปลีกหรือซูเปอร์มาร์เก็ตรายหลักๆ ได้มีการแสดงผลกำไรมากเป็นประวัติศาสตร์ ส่งผลให้เกิดความคลางใจกับผู้บริโภคในประเทศด้วยข้อหาที่ว่า เป็นเหตุให้หลายครัวเรือนเดือดร้อนด้วยการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ส่งผลให้รัฐบาลกลางต้องเข้ามาเกี่ยวข้องทันทีโดยได้เรียกผู้บริหารห้างค้าปลีกเข้ามาชี้แจงถึงผลประกอบการดังกล่าว พร้อมได้กำหนดให้ห้างฯ ต้องมีนโยบายลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนโดยรวมให้กับชาวแคนาดา ทั้งนี้ปี 2567 ทางการเล็งมีการบังคับใช้กฎหมายเพื่อคุ้มครองบริโภคให้เข้มงวดขึ้น โดยหากพบการขึ้นราคาสินค้าอาหารที่ไม่เป็นธรรม จะมีการเพิ่มค่าปรับที่สูงขึ้นจากผู้ค้าปลีกตามมา

• ร้านแฮมเบอร์เกอร์ Shake Shack จากสหรัฐฯ เข้ามาเปิดสาขาแรกในแคนาดา

ปี 2567 เชนร้านแฮมเบอร์เกอร์ Shack Shack ชื่อดังจากสหรัฐฯ จะเข้ามาเปิดสาขาแรกในนครโทรอนโต ซึ่งถือเป็นการเข้ามาในตลาดแคนาดาตามแบรนด์อาหารฟาส์ตฟู้ดชื่อดังรายอื่นๆ เช่น Chick-fil-A และ Prince St. Pizza ทั้งนี้ ร้าน Shack Shack มีแผนที่จะเปิดสาขากว่า 35 สาขาทั่วประเทศภายในปี 2578

• โอกาสที่รัฐบาลจะอนุมัติการผลิตเนื้อสังเคราะห์จากห้องแล็บมีมากขึ้น

หลังจากในปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้อนุมัติให้มีการขายเนื้อสังเคราะห์จากห้องทดลองได้แล้วเป็นครั้งแรกไปแล้ว ดังนั้นโอกาสที่ทางการแคนาดาจะอนุมัติให้มีการผลิตและจำหน่ายเนื้อสังเคราะห์จากห้องแล็บจึงมีมากขึ้นตามมา โดยผู้เชี่ยวชาญในวงการอาหารในประเทศคาดการณ์ว่า ผู้ผลิตในประเทศจะสามารถผลิตเนื้อสังเคราะห์ได้ภายในระยะเวลา 5 ปี ส่งผลให้บริษัทเนื้อหลายแห่งเริ่มมีการเตรียมตัวและคิดค้นทดสอบผลิตภัณฑ์เนื้อสังเคราะห์ชนิดต่างๆ รวมไปถึง ไส้กรอก เนื้อปลา เป็นต้นจากห้องแล็บออกสู่ตลาดในอนาคต

• ปัญหาขาดแคลนพาสต้า

จากปัญหาภัยแล้งในแคนาดาปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผลผลิตข้าวสาลีดูรัมซึ่งเป็นแป้งสำหรับผลิตพาสต้าลดลงครั้งใหญ่ในรอบหลายสิบปี โดยข้อมูลเดือนกรกฎาคม 2563 พบราคาจำหน่ายแป้งเซโมลินา (semolina) ที่เป็นแป้งสาลีของข้าวสาลีดูรัมมาบดหยาบเพิ่มขึ้นร้อยละ 24 ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งให้พาสต้าบางชนิดมีราคาสูงขึ้นตามกันอย่างแน่นอน

• เทคโนโลยี AI ในอุตสาหกรรมอาหารมากขึ้น

ปัจจุบันธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มจำนวนมากขึ้นกำลังเก็บเกี่ยวประโยชน์ต่าง ๆ จากเทคโนโลยี AI เนื่องจากความสามารถของ AI ที่ได้รับการปรับปรุงให้เหมาะกับการแก้ปัญหาของแต่ละธุรกิจได้ดีขึ้น และกลายมาเป็นตัวขับเคลื่อนประสิทธิภาพธุรกิจได้จริง จากเทคโนโลยีข้าวต้น บริษัท Alsolute Vodka ผู้ผลิตแอลกอฮอล์ว้อดก้าได้ออกแคมเปญเครื่องดื่มใหม่ใช้ชื่อว่า “All crafted by ChatGPT”  โดยได้นำเอา AI เข้ามาช่วยคิดค้นค็อกเทลรสชาติใหม่ๆ และพบว่าได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ

• ชาวแคนาดาลดการดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น

ชาวแคนาดาหันมาเลิกดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มมากขึ้น โดยเทรนด์นี้ได้เริ่มมาจากช่วงวิกฤตโควิดเพราะความห่วงใยในด้านสุขภาพเป็นสำคัญ ส่งผลให้กลายมาเป็นโอกาสกับผู้ผลิตเครื่องดื่มได้ลองมาผลิตเครื่องดื่มเพื่อเอาใจกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการเลิกดื่มแอลกอฮอล์ ด้วยการผลิตเครื่องดื่มรสชาติดี น่าสนใจและไม่ทำลายสุขภาพ นอกจากนั้น ทุกวันนี้ผู้บริโภคยังสามารถเลือกสั่งเครื่องดื่มค็อกเทลที่ปราศจากแอลกอฮอล์จากร้านอาหารหรือบาร์ได้หลากหลายขึ้น รวมไปถึงการจัดเทศกาลเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ในแต่ละเมือง เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตเครื่องดื่มสามารถนำเสนอสินค้าสู่ผู้บริโภคได้โดยตรง

• ผู้บริโภคจ่ายมากขึ้น แต่ได้ของน้อยลง

แน่นอนว่าภาวะ “เงินเฟ้อ”ที่ส่งให้ราคาอาหารแพงขึ้นยังเป็นความกังวลอันดับ 1 ของชาวแคนาดาจำนวนมาก ดังนั้นแล้ว จึงส่งผลให้เกิดภาวะ“Shrinkflation” ในหมู่ธุรกิจที่ผู้บริโภคจ่ายค่าสินค้ามากขึ้น แต่ได้ของน้อยลงตามมา ซึ่งในตลาดค้าปลีกในแคนาดาเท่าที่มีการสังเกตการณ์ปี 2566 พบตัวอย่างสินค้าอาหารที่มีปริมาณลดลง แต่จำหน่ายในราคาเดิม อาทิ แป้งทำขนมเค้กสำเร็จรูปลดลงจาก 432 กรัมเป็น 375 กรัม รวมไปถึงการใช้วัตถุดิบผลิตอาหารที่ถูกลงหรือคุณภาพน้อยลง ซึ่งทำให้ผู้บริโภคหลายรายไม่พึงพอใจกับการกระทำดังกล่าวมากนัก อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารแนะผู้ผลิตอาหารควรแสดงความโปร่งใสกับผู้บริโภคตรงไปตรงมา หรือขึ้นราคาสินค้าเพื่อให้ผู้บริโภคได้ปริมาณสินค้าที่มากขึ้นและคงคุณภาพไว้ดังเดิม

• การใช้บริการ Food Bank เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

สาเหตุสำคัญของการมาใช้บริการธนาคารอาหาร (Food Bank) ส่วนใหญ่มักมาจากภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้นรวมไปถึงภาวะไม่มีงานทำ ซึ่งปี 2566 ซีอีโอของ Food Bank รัฐออนทาริโอ เผยข้อมูลจำนวนผู้มารับบริการของธนาคารอาหารที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในรอบ 37 ปี และคาดว่าในปี 2567 จะยังมีผู้มาขอรับบริการธนาคารอาหารในจำนวนมากเช่นเดิม

• ร้านอาหารเผชิญวิกฤตด้านราคาอาหารมากขึ้น

ในปี 2567 ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารจะเผชิญหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ทั้งกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังเปราะบาง และต้นทุนค่าอาหารและทำธุรกิจที่ปรับขึ้นพร้อมกัน จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้สมาคมร้านอาหารในแคนาดามีการประเมินอัตราขยายตัวของธุรกิจร้านอาหารชะลอตัวอยู่ที่ร้อยละ 3.4 จากเดิมเคยตั้งไว้ที่ร้อยละ 4.5 อย่างไรก็ดี ทางสมาคมฯ คาดว่าร้านอาหารในกลุ่มจานด่วน/ฟาสต์ฟู้ดจะสามารถสร้างรายได้เป็นอย่างดี เพราะด้วยราคาที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคเศรษฐกิจเช่นนี้ได้ดีกว่า

ข้อคิดเห็นจากสำนักงานฯ ในปี 2567 นอกเหนือจากเทรนด์อาหาร เช่น อาหารสุขภาพ อาหารแห่งอนาคต ที่เป็นอาหารยอดนิยมนั้น ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เข้ามากระทบต่ออุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในแคนาดา อาทิ ประเด็นเรื่องความกังวลเศรษฐกิจของผู้บริโภค การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความยั่งยืนเข้ามาเกี่ยวข้องในแบบควบคุมไม่ได้ อย่างไรก็ดี ในสถานการณ์ความไม่แน่นอนต่างๆแล้ว  สิ่งที่ผู้ประกอบการหรือแบรนด์สินค้าควรคำนึงคือ ผู้บริโภคยังคาดหวังถึงความโปร่งใสในการทำธุรกิจ ไม่กระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเป็นไปตามหลักจริยธรรมที่ควรจะเป็นมากขึ้น ในการนี้ ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา ควรติดตามสถานการณ์ตลาด รวมถึงศึกษาการใช้เทคโนโลยีอาหารเข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น เพื่อเป็นการสร้างโอกาสและพัฒนาการทำงานให้ดีและยั่งยืนขึ้น

—————————————————–

ที่มาของบทความ https://macleans.ca/year-ahead/food-predictions-canada/

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา