ที่มาของรูป https://cdn.img.foodaily.com/images/articles/2024/03/04/dQ9M5tqAEJijE0DkvFNz4eFbSc7DPPieXNGpVih3.png
แม้ว่าการซื้อขายขนมของสัตว์เลี้ยงจะยังเป็นตลาดใหม่และมีขนาดจำกัด แต่เนื่องจากเศรษฐกิจการซื้อขายสัตว์เลี้ยงกำลังขยายตัว จึงเปิดโอกาสของอุตสาหกรรมทำขนมสัตว์เลี้ยงให้กว้างขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ร้านอาหารสัตว์เลี้ยง “HolilandPet” ได้เปิดตัวเค้กสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีชื่อว่า “HolilandPet Pet Cake” เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 ผ่านแพลตฟอร์ม Tmall โดยมีเค้กให้เลือกถึง 17 หน้า ได้แก่ เค้กรูปกระดูก เค้กรูปดอกไม้ เค้กรูปผีเสื้อ เค้กรูปเล่น เค้กรูปกรงเล็บ ฯลฯ ซึ่งตีเป็นราคาอยู่ระหว่าง 168-218 หยวน (840 – 1090 บาท) นอกจากนี้ทางร้านก็ยังมีผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงให้เลือกซื้ออีกมากมาย อาทิ ผ้ากันเปื้อนสำหรับฉลองวันเกิดของสัตว์เลี้ยงราคา 28 หยวน (140 บาท) เป็นต้น
แบรนด์ Holiland Pet มีคติว่า สินค้าของแบรนด์จะต้อง “ถูกออกแบบมาเพื่อความรัก (Designed for Love)” โดยใช้วัตถุดิบคุณภาพเดียวกับอาหารสำหรับมนุษย์ ไร้สารกัดบูด และใช้เม็ดสีธรรมชาติที่สกัดจากพืช เพื่อสร้างเค้กที่สะอาดและปลอดภัยสำหรับสัตว์ ซี่งมีเนื้อสัตว์ที่เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ไก่ เป็ด เนื้อวัว ปลาแซลมอน นกกระทา ฯลฯ ปรุงรสด้วยส่วนผสมที่คุณภาพ เช่น นมผงแพะ ชีส แครอท หัวใจเป็ด ตับไก่ ลูกแพร์ สีม่วง มันฝรั่ง ฯลฯ แล้วห่อด้วยหนังสัตว์หรือชีสที่มีโปรตีนจากสูงถึงกว่าร้อยละ 80 โดยเค้กสำหรับสัตว์เลี้ยงทั้งหมดจะทำสดใหม่ สามารถระบุวันที่และเลือกรูปแบบการจัดส่งได้ อีกทั้งทางร้านก็จะแถมของเล่นเพิ่มเติม เช่น จานอาหารค่ำ มีดโต๊ะ เทียน การ์ดอวยพร การ์ดวันเกิด และธงวันเกิดของน้องสัตว์เลี้ยง
ที่มาของรูป https://cdn.img.foodaily.com/images/articles/2024/03/04/Uq6PlauWEVDBZ4vTUnxG3XqH5CWQRGo6xiNAhjrK.jpg
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจร้านทำขนมสำหรับสัตว์เลี้ยงในประเทศจีนกำลังเติบโต และปรากฏคู่แข่งเจ้าใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามาในตลาด ซึ่งแบรนด์ที่อยู่ในธุรกิจทำขนมสำหรับสัตว์เลี้ยงมานาน ได้แก่ OneSeventh ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2018 โดยเน้นให้บริการเค้กวันเกิด ของว่างที่ปรุงสด และอาหารที่มีประโยชน์สำหรับสัตว์เลี้ยง ทางแบรนด์ยืนยันว่า สินค้าทั้งหมดปรุงจำหน่ายภายในวันเดียว ไม่ทิ้งไว้ค้างคืน และไม่เติมสารปรุงแต่งใดๆ จึงรับประกันความสดใหม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันร้านเบเกอรี่ให้บริการลูกค้าที่เปรียบดั่งพ่อแม่ของสัตว์เลี้ยงมามากกว่า 30,000 ราย เพราะ OneSeventh ให้ความใส่ใจกับคุณภาพของวัตถุดิบและส่วนผสมของอาหารที่เสริมสร้างโภชนาการ บำรุงพละกำลัง เพิ่มความอ่อนเยาว์ และช่วยซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ของร่างกายสัตว์เลี้ยง ยกตัวอย่างเช่น รสแครนเบอร์รี่ที่สามารถป้องกันปัญหาทางเดินปัสสาวะในสุนัข รสโยเกิร์ตที่เติมเต็มโปรไบโอติกที่สุนัขต้องการ และมันเทศสีม่วงที่ช่วยส่งเสริมการบีบตัวของลำไส้ นอกจากนี้ ทางแบรนด์ก็ได้จะเปิดตัวของขนมสำหรับสัตว์เลี้ยงประจำเทศกาลล เช่น เกี๊ยวข้าวสำหรับสัตว์เลี้ยง ขนมไหว้พระจันทร์ และเกี๊ยวสีเขียว เพื่อเน้นย้ำแนวคิดของแบรนด์ว่า สัตว์เลี้ยงจะไม่ถูกทิ้งให้อยู่อย่างเดียวดายในวันสำคัญ และสามารถร่วมฉลองกับเจ้าของได้
จากรายงาน “รายงานการซื้อขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของจีนประจำปี 2022” จัดทำขึ้นโดย Baidu Pet Data Platform และคณะกรรมการด้านเทคนิคการกำหนดมาตรฐานสัตว์คู่หูแห่งชาติ ระบุว่า “การละทิ้งดอกไม้” เป็นแนวโน้มที่สำคัญสำหรับหนุ่มสาวชาวจีนที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงในปัจจุบัน สัดส่วนเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่อาศัยอยู่ในเมืองเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับต้น ๆ และเมืองเศรษฐกิจที่ขนาดใหญ่รองลงมา มีใช้จ่ายค่าดูแลในการดูแลสัตว์เลี้ยงอยู่ที่ร้อยละ 38.3 และ 44.7 ตามลำดับ ซึ่งยอดค่าใช้จ่ายในการดูแลสัตว์เลี้ยงในแต่ละเดือนเฉลี่ยสูงกว่า 500 หยวนต่อเดือน เนื่องจากเจ้าของสัตว์เลี้ยงมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเจ้าของสัตว์ที่เป็นชนชั้นกลาง นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่สนับสนุนว่า กำลังการซื้อที่เพิ่มมาขึ้นคือปัจจัยสำคัญอันดับแรกที่ผลัดดันตลาดของอุตสาหกรรมขนมสำหรับสัตว์เลี้ยง
ปัจจัยสำคัญประการที่สอง คือ การพัฒนาหมวดหมู่ของขนมสำหรับสัตว์เลี้ยง ซึ่งได้รับแรงกระตุ้นจากความต้องการทางการตลาดที่แตกต่างกันออกไป โดยในปัจจุบัน อาหารแห้งก็ยังคงเป็นขนมสำหรับสัตว์เลี้ยงประเภทหลัก แต่มีผลิตภัณฑ์ขนมอื่น ๆ ปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น ขนมฟรีซดราย เนื้อดิบ และอาหารกระป๋อง ฯลฯ
ข้อคิดเห็น สคต.เซี่ยงไฮ้
มนุษย์กับสัตว์เลี้ยงเกื้อกูลกันและกันมาตั้งแต่โบราณกาล สุนัขช่วยมนุษย์ล่าสัตว์ แมวช่วยไล่จับหนูที่เข้ามาทำลายพืชผลทางการเกษตร มนุษย์จึงแบ่งอาหารและที่พักอาศัยให้แก่สัตว์เหล่านั้น แม้ว่าในเวลานี้ มนุษย์จะเลิกล่าสัตว์หาของป่า แล้วผันวิถีชีวิตมาอยู่ในเมือง แต่มนุษย์ก็ยังพึ่งพาสัตว์เลี้ยงเพื่อบรรเทาอารมณ์ทุกข์ ซึ่งสภาพเศรษฐกิจและนวัตกรรมที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้มนุษย์เอาใจใส่สัตว์เลี้ยงได้ดียิ่งขึ้น
ในปัจจุบัน ประชากรชาวจีนเริ่มซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยงที่มีคุณภาพ กระตุ้นตลาดขนมสำหรับสัตว์เลี้ยงให้ขยายใหญ่ขึ้น จากที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก หากอ้างอิงจากรายงานในปี 2022 ของ Baidu Pet Data Platform และคณะกรรมการด้านเทคนิคการกำหนดมาตรฐานสัตว์คู่หูแห่งชาติ จะเห็นได้ชัดว่า หนุ่มสาวแดนมังกรเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลสัตว์เลี้ยงมากถึง 500 หยวน หรือประมาณ 1,500 บาทต่อเดือน พฤติการณ์นี้จึงเป็นโอกาสทองสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการนำเข้าสินค้าเกี่ยวกับการสัตว์เลี้ยงเข้ามาขายในประเทศจีน
ทว่าการนำผลิตภัณฑ์สู่ตลาดจีนก็ยังมีข้อจำกัดอยู่หลายประการ เช่นเดียวกับคู่แข่งที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยควรศึกษากฎระเบียบอย่างเคร่งครัด รวมทั้งคอยจับตามองการแข่งขันภายในตลาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสินค้าและธุรกิจให้สนองความต้องการของตลาดได้
จัดทำโดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้
แหล่งที่มา
https://www.foodaily.com/articles/35917