A. ด้านการค้า
- การค้าระหว่างประเทศของเวียดนาม ในเดือนมกราคม 2567
จากสถิติของกรมศุลกากรของเวียดนาม ในเดือนมกราคม 2567 การค้าของเวียดนามมีมูลค่า 65.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.5 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 40.3 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 โดยมูลค่าการส่งออก 34.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.7 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 46.0 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 และมูลค่าการนำเข้า 30.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 34.4 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ส่งผลให้เกินดุลการค้าประมาณ 3.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ตาราง 1: สถิติการค้าระหว่างเวียดนามกับโลก
หน่วย: พันล้านเหรียญสหรัฐ
รายการ | ในเดือนมกราคมปี | |||||
2565 | 2566 | 2567 | ||||
มูลค่า | ขยายตัว (%) | มูลค่า | ขยายตัว (%) | มูลค่า | ขยายตัว (%) | |
ปริมาณการค้า | 62.2 | 12.78 | 46.6 | -25.0 | 65.4 | 40.3 |
– การส่งออก | 31.9 | 11.7 | 23.6 | -25.8 | 34.5 | 46.0 |
– การนำเข้า | 30.3 | 13.9 | 22.9 | -24.1 | 30.9 | 34.4 |
ดุลการค้า | 1.6 | -18.9 | 0.6 | -59.1 | 3.6 | 458.4 |
ที่มา: กรมศุลกากรของเวียดนาม
สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ โทรศัพท์ โทรศัพท์มือถือและชิ้นส่วน (5.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 50.4 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.4 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566) คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ (5.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 6.0 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 68.3 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566) เครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือและ ส่วนประกอบ (4.0 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.0 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 38.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566) สิ่งทอและเครื่องนุ่มห่ม (3.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.0 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 38.9 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566) และรองเท้า (1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.1 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 43.8 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566)
สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ (8.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 30.5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566) เครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือและส่วนประกอบ (3.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 45.4 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566) ผ้าผืน (1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.6 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566) เหล็กและเหล็กกล้า (1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.3 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 101.6 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566) และเม็ดพลาสติก (917.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.2 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 55.6 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566)
ตลาดส่งออกสินค้าสำคัญของเวียดนาม ได้แก่ สหรัฐอเมริกา (10.0 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 63.5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566) จีน (4.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.3) เกาหลีใต้ (2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.8) ญี่ปุ่น (2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 44.7) และเนเธอร์แลนด์ (1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 54.3) ไทยเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่อันดับ 1 ของเวียดนามในอาเซียน (734.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.7) รองลงมาคืออินโดนีเซีย (562.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 59.6)
ตลาดนำเข้าที่สำคัญของเวียดนาม ได้แก่ จีน (11.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 63.6) เกาหลีใต้ (4.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.9) ญี่ปุ่น (1.95 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.3) ไต้หวัน (1.93 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.9) และสหรัฐอเมริกา (1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 33.4) ในอาเซียน ไทยเป็นตลาดนำเข้าที่ใหญ่อันดับ 1 ของเวียดนาม (885.0 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.5) รองลงมาคือมาเลเซีย (856.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.7)
ตาราง 2: สถิติการนำเข้าตามตลาดหลักของเวียดนามในเดือนมกราคม 2567
ที่ | ตลาด | สินค้าหลัก | มูลค่า
(พันล้านเหรียญสหรัฐ) |
ขยายตัว
(%) |
1 | จีน | – เครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือและส่วนประกอบ
– คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ – ผ้าผืน |
11.9 | 63.6 |
2 | เกาหลีใต้ | – คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ
– เม็ดพลาสติก – เครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือ และส่วนประกอบ |
4.2
|
6.9 |
3 | ญี่ปุ่น | – คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ
– เครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือและส่วนประกอบ – เหล็กและเหล็กกล้า |
1.95 | 16.3 |
4 | ไต้หวัน | – คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ
– เครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือและส่วนประกอบ – ผ้าผืน |
1.93 | 31.9 |
5 | สหรัฐอเมริกา | – คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ
– อาหารสัตว์และวัตถุดิบ – เครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือและส่วนประกอบ |
1.2 | 33.4 |
6 | ไทย | – เครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วน
– เครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือและส่วนประกอบ – คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ |
0.885 | 15.5 |
7 | มาเลเซีย | – คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ
– น้ำมันทุกชนิด – สารเคมี |
0.856 | 26.7 |
8 | ออสเตรเลีย | – ผ้าฝ้าย
– แร่และผลิตภัณฑ์แร่อื่นๆ – ถ่านหิน |
0.729 | 48.4 |
9 | อินโดนีเซีย | – โลหะพื้นฐานอื่นๆ
– ถ่านหิน – เหล็กและเหล็กกล้า |
0.708 | 24.8 |
10 | คูเวต | – น้ำมันดิบ
– เม็ดพลาสติก |
0.655 | 31.0 |
ที่มา: กรมศุลกากรของเวียดนาม
- การค้าระหว่างเวียดนามกับไทย ในเดือนมกราคม 2567
2.1.ปริมาณการค้า
การค้าระหว่างเวียดนามกับไทยมีมูลค่า 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.3 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 หรือคิดเป็นร้อยละ 2.5 ของการค้าระหว่างประเทศของเวียดนามทั้งหมด โดยเวียดนามส่งออกสินค้าไปไทยมูลค่า 734.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.8 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 31.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 หรือคิดเป็นร้อยละ 2.1 ของการส่งออกทั้งหมด และเวียดนามนำเข้าสินค้าจากไทยมูลค่า 885.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 13.9 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 หรือคิดเป็นร้อยละ 2.9 ของการนำเข้าทั้งหมด ส่งผลให้ขาดดุลการค้าประมาณ 0.15 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ตาราง 3: สถิติการค้าระหว่างเวียดนามกับไทย
หน่วย: พันล้านเหรียญสหรัฐ
รายการ | ในเดือนมกราคมปี | ||||||||
2565 | 2566 | 2567 | |||||||
มูลค่า | ขยายตัว
(%) |
สัดส่วน (%) | มูลค่า | ขยายตัว
(%) |
สัดส่วน (%) | มูลค่า | ขยายตัว
(%) |
สัดส่วน (%) | |
ปริมาณการค้า | 1.5 | 0.6 | 2.5 | 1.3 | -16.4 | 2.8 | 1.6 | 22.3 | 2.5 |
– การส่งออก | 0.5 | 1.3 | 1.8 | 0.5 | -1.3 | 2.4 | 0.7 | 31.7 | 2.1 |
– การนำเข้า | 1.0 | 0.3 | 3.4 | 0.7 | -24.7 | 3.3 | 0.8 | 15.5 | 2.9 |
ดุลการค้า | -0.4 | -1.0 | -28.5 | -0.2 | -54.0 | -32.0 | -0.1 | -27.8 | -4.1 |
ที่มา: กรมศุลกากรของเวียดนาม
2.2. สินค้าหลัก
2.2.1 สินค้าส่งออกไปไทยที่สำคัญ
– สินค้าส่งออกไปไทยที่มีมูลค่าสูงสุด 5 อันดับแรก โทรศัพท์ โทรศัพท์มือถือและชิ้นส่วน (155.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 202.8 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.1 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566) เครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือและส่วนประกอบ (95.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.3 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 41.8 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566) คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ (64.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 45.4 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 64.4 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566) ยานพาหนะการขนส่ง ชิ้นส่วน อุปกรณ์และส่วนประกอบ (56.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.2 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566) และผลิตภัณฑ์จากสารเคมี (35.0 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.6 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 246.9 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566) รายละเอียดตาม ภาคผนวก 1
– สินค้าส่งออกไปไทยที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด 5 อันดับแรก ดังนี้
- เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566: โทรศัพท์ โทรศัพท์มือถือและชิ้นส่วน (155.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 202.8) น้ำมันทุกชนิด (2.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 100.0) เม็ดพลาสติก (14.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 98.8) แร่และผลิตภัณฑ์แร่ (137,695 เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 83.2) และวัตถุดิบใช้ในการผลิตสิ่งทอ เครื่องหนัง และรองเท้า (8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 80.3)
- เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2566: อัญมณี โลหะมีค่า และผลิตภัณฑ์ (527,741 เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1,576.5) น้ำมันทุกชนิด (2.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1,428.1) กาแฟ (19 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 601.8) แก้วและผลิตภัณฑ์จากแก้ว (4.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 533.1) ผักและผลไม้ (18.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 327.2)
2.2.2. สินค้านำเข้าจากไทยที่สำคัญ
– สินค้านำเข้าจากไทยที่มีมูลค่าสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ (106.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 10.1 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 และลดลงร้อยละ 33.5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566) เครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือและส่วนประกอบ (69.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 11.0 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 44.8 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566) เครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วน (67.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 64.0 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 171.9 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566) โลหะพื้นฐานอื่นๆ (55.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 16.1 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 106.3 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566) และชิ้นส่วน อะไหล่ และอุปกรณ์รถยนต์ (54.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566) รายละเอียดตามภาคผนวก 2
– สินค้านำเข้าจากไทยที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด 5 อันดับแรก ดังนี้
- เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2566: ข้าวโพด (950,386 เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 177.1) ผลิตภัณฑ์จากเหล็กและเหล็กกล้า (27.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 120.5) วัตถุดิบใช้ในการผลิตเภสัชกรรม (50,660 เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 100.0) ยาฆ่าแมลงและวัตถุดิบ (1.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 77.3) และเหล็กและเหล็กกล้า (3.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 65.5)
- เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2566: ไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ (13.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 680.8) ผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม (7.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 358.0) ผลิตภัณฑ์จากเหล็กและเหล็กกล้า (27.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 285.8) ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (Liquefied Petroleum Gas) (4.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 281.4) และยาฆ่าแมลงและวัตถุดิบ (1.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 223.4)
B.การลงทุน
-
- การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign direct investment-FDI) ในเวียดนาม
จากสถิติของกระทรวงการวางแผนและการลงทุนเวียดนาม (Vietnam’s Ministry of Planning and Investment) ช่วงระหว่างวันที่ 1 – 20 มกราคม 2567 ต่างประเทศเข้ามาลงทุนในเวียดนามมูลค่า 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 40.2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 โดยมีโครงการใหม่จำนวน 190 โครงการ รวมมูลค่า 2.0 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 66.9 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 โครงการที่เพิ่มมูลค่าการลงทุนจำนวน 75 โครงการ รวมมูลค่า 0.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 23.1 และโครงการที่นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นจากบริษัทเวียดนามจำนวน 174 โครงการ รวมมูลค่า 0.11 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 33.1
ตาราง 4: สาขาที่ได้รับการลงทุนมากที่สุดในเวียดนาม
ที่ | ช่วงระหว่างวันที่ 1 – 20 มกราคม 2567 | การลงทุนสะสม
(ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2530 – 20 มกราคม 2567) |
||||
สาขา | โครงการใหม่ | มูลค่ารวม
(ล้านเหรียญสหรัฐ) |
สาขา | โครงการ | มูลค่า
(ล้านเหรียญสหรัฐ) |
|
1 | อสังหาริมทรัพย์ | 10 | 1,272.9 | อุตสาหกรรมการผลิตและการประมง | 16,960 | 284,427.9 |
2 | อุตสาหกรรมการผลิตและการประมง | 63 | 925.8 | อสังหาริมทรัพย์ | 1,147 | 69,472.2 |
3 | กิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ | 14 | 65.2 | การผลิตและการจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า น้ำประปา ก๊าซ และเครื่องปรับอากาศ | 194 | 40,671.4 |
4 | การค้าส่งและการค้าปลีก และการซ่อมรถยนต์รถจักรยานยนต์ | 74 | 54.5 | ธุรกิจบริการที่พักและอาหาร | 991 | 14,345.9 |
5 | เกษตรกรรม การป่าไม้และการประมง | – | 34.3 | การก่อสร้าง | 7,100 | 11,091.8 |
อื่นๆ | 29 | 10.2 | อื่นๆ | 12,985 | 51,892.3 | |
รวม | 190 | 2,363.0 | รวม | 39,377 | 471,901.5 |
ที่มา: สำนักงานการลงทุนต่างประเทศ ภายใต้กระทรวงการวางแผนและการลงทุนเวียดนาม
ตาราง 5: ประเทศที่ลงทุนมากที่สุดในเวียดนาม
ที่ | ช่วงระหว่างวันที่ 1 – 20 มกราคม 2567 | การลงทุนสะสม
(ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2530 – 20 มกราคม 2567) |
||||
ประเทศ | โครงการใหม่ | มูลค่ารวม
(ล้านเหรียญสหรัฐ) |
ประเทศ | โครงการ | มูลค่า
(ล้านเหรียญสหรัฐ) |
|
1 | สิงคโปร์ | 30 | 1,406.3 | เกาหลีใต้ | 9,891 | 85,951.2 |
2 | ญี่ปุ่น | 13 | 296.9 | สิงคโปร์ | 3,530 | 76,132.8 |
3 | ซามัว | 4 | 181.9 | ญี่ปุ่น | 5,280 | 74,204.2 |
4 | จีน | 59 | 151.6 | ไต้หวัน | 3,119 | 39,381.9 |
5 | ฮ่องกง | 17 | 95.3 | ฮ่องกง | 2,485 | 34,342.0 |
อื่นๆ | 67 | 231.0 | อื่นๆ | 15,072 | 161,889.4 | |
รวม | 190 | 2,363.0 | รวม | 39,377 | 471,901.5 |
ที่มา: สำนักงานการลงทุนต่างประเทศ ภายใต้กระทรวงการวางแผนและการลงทุนเวียดนาม
ตาราง 6: จังหวัดที่ได้รับการลงทุนมากที่สุดตั้งแต่ชายฝั่งตอนกลางใต้ถึงสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงของเวียดนาม
ที่ | ช่วงระหว่างวันที่ 1 – 20 มกราคม 2567 | การลงทุนสะสม
(ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2530 – 20 มกราคม 2567) |
||||
บริเวณ | โครงการใหม่ | มูลค่ารวม
(ล้านเหรียญสหรัฐ) |
บริเวณ | โครงการ | มูลค่า
(ล้านเหรียญสหรัฐ) |
|
I | ชายฝั่งตอนกลางใต้ | 7 | 19.0 | 1,820 | 28,495.2 | |
1 | Ninh Thuan | – | 17.4 | Da Nang | 1,025 | 6,500.0 |
2 | Da Nang | 5 | 0.6 | Quang Nam | 228 | 6,382.3 |
3 | Quang Nam | 1 | 0.5 | Khanh Hoa | 120 | 4,410.1 |
4 | Quang Ngai | 1 | 0.4 | Binh Thuan | 160 | 3,850.7 |
5 | Khanh Hoa | – | 0.1 | Quang Ngai | 71 | 2,289.3 |
จังหวัดอื่นๆ | – | – | จังหวัดอื่นๆ | 216 | 5,062.6 | |
II. | ที่ราบสูงตะวันตก | – | – | 170 | 1,871.9 | |
1 | Dak Lak | 30 | 706.8 | |||
2 | Lam Dong | 103 | 514.8 | |||
3 | Dak Nong | 20 | 311.9 | |||
4 | Kon Tum | 9 | 245.4 | |||
5 | Gia Lai | 8 | 93.0 | |||
III. | ภาคใต้ | 102 | 710.5 | 21,969 | 219,379.4 | |
A. | ตะวันออกเฉียงใต้ | 93 | 650.5 | 19,976 | 183,471.8 | |
1 | Ba Ria – Vung Tau | 2 | 281.8 | Ho Chi Minh City | 12,470 | 57,636.5 |
2 | Dong Nai | 5 | 164.0 | Binh Duong | 4,226 | 40,456.3 |
3 | Ho Chi Minh City | 80 | 125.7 | Dong Nai | 1,907 | 36,752.9 |
4 | Binh Duong | 4 | 60.4 | Ba Ria – Vung Tau | 553 | 34,214.5 |
5 | Binh Phuoc | 1 | 13.0 | Tay Ninh | 365 | 9,710.0 |
6 | Tay Ninh | 1 | 5.6 | Binh Phuoc | 455 | 4,701.5 |
B. | สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง | 9 | 60.0 | 1,993 | 35,907.6 | |
1 | Long An | 6 | 22.7 | Long An | 1,396 | 13,601.0 |
2 | Tien Giang | 2 | 20.0 | Kien Giang | 65 | 4,810.8 |
3 | Bac Lieu | – | 16.0 | Bac Lieu | 16 | 4,692.6 |
4 | Vinh Long | 1 | 1.3 | Tra Vinh | 41 | 3,200.4 |
5 | Tra Vinh | – | 0.1 | Tien Giang | 145 | 2,780.0 |
จังหวัดอื่นๆ | – | 0.03 | จังหวัดอื่นๆ | 330 | 6,822.8 |
ที่มา: สำนักงานการลงทุนต่างประเทศ ภายใต้กระทรวงการวางแผนและการลงทุนเวียดนาม
- การลงทุนของไทยในเวียดนาม
2.1 ช่วงระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 20 มกราคม 2567 บริษัทไทยเข้ามาลงทุนในเวียดนามมูลค่า 16.36 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีโครงการใหม่จำนวน 1 โครงการ มูลค่า 0.28 ล้านเหรียญสหรัฐ และโครงการที่นักลงทุนไทยซื้อหุ้นจากบริษัทเวียดนามจำนวน 1 โครงการ มูลค่า 16.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 11 จาก 39 ประเทศที่เข้ามาลงทุนในเวียดนาม
2.2 การลงทุนสะสม (ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2530 – 20 มกราคม 2567) ไทยเป็นผู้ลงทุนอันดับที่ 9 จาก 144 ประเทศที่เข้ามาลงทุนในเวียดนาม โครงการลงทุนรวม 735 โครงการ มูลค่า 14.0 พันล้านเหรียญสหรัฐ
***********************************