รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และการพัฒนาเศรษฐกิจฮ่องกง นาย Algernon Yau Ying-wah กล่าวเมื่อวันพุธที่ 6 มีนาคม 2567 เกี่ยวกับการจัดเทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์เพื่อช่วยสนับสนุนแบรนด์ฮ่องกงส่งออกสินค้าสู่ตลาดจีน และแนวคิดวิธีลดต้นทุนเพื่อทำให้ราคาแข่งขันได้มากขึ้น รวมถึงการทำให้ผู้ใช้ค้นพบผลิตภัณฑ์ทันทีที่เข้าสู่เว็ปไซต์
นาย Algernon Yau Ying-wah กล่าวว่าแบรนด์ฮ่องกงมีคุณภาพดี และผู้บริโภคในจีนมีความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของฮ่องกง แต่ผู้ผลิตสินค้าในฮ่องกงยังขาดกลยุทธ์การขายเพื่อสร้างแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จ
เมื่อปีที่ผ่านมา ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง นาย John Lee Ka-chiu กล่าวถึงนโยบายสนับสนุน E-Commerce สำหรับเทศกาลช้อปปิ้งในฮ่องกงที่จะจัดขึ้นบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในจีนเพื่อส่งเสริมการรับรู้ถึงสินค้าจากฮ่องกงให้มากขึ้น อีกทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นาย Paul Chan Mo-po ได้เสนอให้อัดฉีดเงินเพิ่มอีก 500 ล้านเหรียญฮ่องกง (63.9 ล้านเหรียญสหรัฐ) เข้าสู่กองทุนสนับสนุนการสร้างแบรนด์ การยกระดับคุณภาพ และการขาย ให้แก่ธุรกิจวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (small and medium-sized enterprise) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันในการเข้าสู่ตลาดจีนและต่างประเทศ โดยหนึ่งในโครงการภายใต้กองทุน E-Commerce Easy สนับสนุนเงิน
1 ล้านเหรียญฮ่องกง (127,840 เหรียญสหรัฐ) เพื่อเปิดตัว New E-Commerce Projects และจำกัดวงเงินสนับสนุนไม่เกิน 7 ล้านเหรียญฮ่องกง (894,880 เหรียญสหรัฐ) ต่อบริษัท
นาย Algernon Yau Ying-wah ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่ารัฐบาลฮ่องกงจะต้องมีมาตรฐานสนับสนุนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันสินค้าฮ่องกงสู่ตลาดจีน อาทิ การกำหนดแพลตฟอร์มที่เหมาะสมที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เป็นจำนวนมาก การจัดการปัญหาที่เกี่ยวข้องกับภาษี การจัดการด้านโลจิสติกส์และการบริหารคลังสินค้า ฯลฯ
นอกจากนี้ นาย Stanley Lee Kei-chuen ประธาน E-Commerce Association of Hong Kong กล่าวว่า แบรนด์ฮ่องกงจะเข้าสู่แพลตฟอร์มบนจีนได้ยากขึ้น เพราะแบรนด์จากต่างประเทศมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในจีน จึงทำให้มีทางเลือกมากขึ้นในการช้อปปิ้งออนไลน์ เพราะฉะนั้นสินค้าที่ผลิตในฮ่องกงจะต้องดึงดูดอย่างมากไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถกระตุ้นความต้องการได้ ทั้งนี้ เขาได้กล่าวเสริมว่าแบรนด์เครื่องประดับในฮ่องกงบางแบรนด์ค่อนข้างประสบความสำเร็จในต่างประเทศเนื่องจากมีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์
นาย Stanley Lee Kei-chuen แนะนำธุรกิจวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในฮ่องกงให้ระมัดระวังเกี่ยวกับต้นทุนที่สูง เนื่องจากการแข่งขันกับบริษัทที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงกันมีจำนวนมาก จึงต้องสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและเพิ่มการจดจำเป็นอย่างดี ทั้งนี้ หากรัฐบาลสามารถร่วมมือกับแพลตฟอร์มจีนเพื่อสร้าง “ช่องทางสีเขียว” สำหรับธุรกิจในฮ่องกงจะสร้างประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับแบรนด์ฮ่องกง โดยในปี 2564 จีนเป็นตลาดอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดโดยสร้างรายได้ 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐและแซงหน้าประเทศสหรัฐอเมริกา
ความคิดเห็นของ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง
รัฐบาลฮ่องกงมีนโยบายเพื่อสนับสนุนธุรกิจฮ่องกงเข้าสู่ตลาดจีนผ่านระบบ E-commerce เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคจีนที่มีแนวโน้มในการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์และนิยมสินค้าหลากหลายชนิดจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ สินค้าไทยเป็นที่รู้จักทั้งในฮ่องกงและจีนเป็นอย่างดี จึงเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการไทยในการร่วมมือกับผู้ค้าฮ่องกงที่มีความรู้พื้นฐาน กฏหมาย และเข้าใจพฤติกรรมการบริโภคในจีนเป็นอย่างดี ในการขยายตลาดสินค้าไทยผ่านช่องทาง E-Commerce ฮ่องกงสู่จีนเพิ่มมากขึ้น
Thai 
English 
Chinese 
Japanese 
German