ธนาคาร The Hongkong and Shanghai Banking Corporation Limited (HSBC) ร่วมมือกับ หน่วยงาน Hong Kong Science and Technology Parks (HKSTP) ได้ร่วมมือกันสนับสนุนและขับเคลื่อนฮ่องกงเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี FINTECH ระดับนานาชาติ ความร่วมมือดังกล่าวจะมีระยะเวลา 3 ปี เพื่อใช้ประโยชน์จากทรัพยากร ความเชี่ยวชาญ และเครือข่ายที่มีอยู่ โดยเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกระหว่างระบบนิเวศด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดของฮ่องกงกับธนาคารชั้นนำระดับโลก
ภายใต้ความร่วมมือระหว่างธนาคาร HSBC และหน่วยงาน HKSTP จะผลักดันให้ฮ่องกงเป็น International Fintech Corridor เพื่อส่งเสริมด้านการลงทุนระหว่างบริษัท FINTEH ในฮ่องกงและพันธมิตรระดับโลก พร้อมดึงดูดบริษัทต่างๆให้เข้ามาเปิดธุรกิจในฮ่องกง ซึ่งจะทำให้เกิดผลดีในด้านข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตลาด บริการ และงานแสดงที่เกี่ยวข้อง เช่น การเชิญสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีชั้นนำทั่วโลกเข้าร่วมเสวนาการแข่งขัน ELEVATOR PITCH COMPETITION 2024 ประจำปีของ หน่วยงาน HKSTP ฮ่องกง
ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว ธนาคาร HSBC จะให้บริการทางการเงินแก่บริษัทที่ได้รับการเสนอชื่อจาก หน่วยงาน HKSTP อย่างน้อย 50 แห่ง รวมถึงโอกาสในการลงทุนและการบริการ เช่น การชำระเงิน การให้กู้ยืม และสนับสนุนทางการเงิน รวมถึงธนาคารจะจัดเวิร์คช็อปเพื่อช่วยให้บริษัทฟินเทคปรับปรุงผลิตภัณฑ์ และการดำเนินงาน โดยร่วมมือกับหน่วยงาน HKSTP จะเชิญบริษัทฟินเทคมากถึง 20 แห่งเข้าร่วมเวิร์คช็อปทุกปี
ทั้งสองฝ่ายยังวางแผนที่จะเพิ่มขีดความสามารถสำหรับการทำงานร่วมกันด้านข้อมูลข้ามอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมและเพิ่มการเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการ นอกจากนี้ แนวทางการพัฒนาด้านเทคโนโลยีการเงินสมัยใหม่ของบริษัทร่วมทุนด้านเทคโนโลยีของ HKSTP จะถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์และบริการของธนาคาร HSBC ในขณะที่ธนาคาร HSBC จะแสวงหาโอกาสในการสร้างผลิตภัณฑ์ร่วมกับบริษัท FINTECH
นาย Luanne Lim ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคาร HSBC กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างธนาคารและบริษัท FINTECH จะปลดล็อกให้กับฝ่ายต่างๆ ในแต่ละด้านของสมการ ทำให้การธนาคารดีขึ้น ซึ่งธนาคาร HSBC มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านธนาคาร การดำเนินงานในอุตสาหกรรมที่มีการควบคุมอย่างเข็มงวดใน 62 ประเทศ
นาย Albert Wong ตำแหน่ง CEO ของ หน่วยงาน HKSTP กล่าวว่า ความมุ่งมั่นของทั้งสองฝ่ายเพื่อทำงานร่วมกัน ควบคู่กับการให้คำปรึกษา การจับคู่ธุรกิจ เทคโนโลยีและการพัฒนาระบบนิเวศด้านเทคโนโลยีการเงินในฮ่องกง ความร่วมมือดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ฮ่องกงระบุเศรษฐกิจดิจิทัลที่ได้รับการสนับสนุนข้อมูลและนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเพื่อผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจโดยจากการแถลงการณ์นโยบายงบประมาณของนาย Paul Chan Mo-po รัฐมนตรีกระทรวงการคลังเมื่อเดือนที่ผ่านมา
ในเดือนนี้ Hong Kong Monetary Authority เปิดตัวโครงการนำร่องระยะที่สองเพื่อสำรวจสกุลเงินดิจิทัล e-HKD และโครงการนำร่องสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางขายส่ง เพื่อปรับปรุงการชำระหนี้ระหว่างธนาคารโดยใช้เงินโทเค็น และ แซนด์บ็อกซ์จะอนุญาตให้บริษัทต่างๆ ทดลองใช้โทเค็นสกุลเงินดิจิทัลที่ผูกกับสกุลเงินทั่วไป
ฮ่องกงเป็นที่ตั้งของบริษัทฟินเทค 1,000 แห่ง และบริษัทสตาร์ทอัพมากกว่า 4,000 แห่ง รวมถึงบริษัทยูนิคอร์น มากกว่า 10 แห่ง รวมมูลค่ากว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากข้อมูลของ InvestHK ซึ่งเป็นหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาลฮ่องกง พบว่าฮ่องกงยังได้ขยายความร่วมมือกับซาอุดีอาระเบียนับตั้งแต่ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงนาย John Lee Ka-chiu เข้าร่วมการประชุมเทคโนโลยีที่สำคัญในกรุงริยาดในปี 2566 คณะผู้แทนธุรกิจจาก Science Park ก็เข้าร่วมการประชุมเดียวกันนี้ ตลอดจนหน่วยงาน HKSTP และ Cyberport ทั้งสองได้ร่วมลงนาม Saudi Arabia’s King Abdulaziz City For Science and Technology Park เพื่อแบ่งปันความรู้และสำรวจโอกาสในการทำงานร่วมกัน
Green Finance เป็นการส่งเสริมพื้นที่สำหรับ FINTECH Start UP ในฮ่องกง และรัฐบาลประกาศเปิดตัวโครงการเงินอุดหนุนสำหรับสตาร์ทอัพฟินเทคสีเขียว และด้วยจำนวนบริษัท FINTECH และ Start UP ที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ฮ่องกงพร้อมที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับสถานะของตนในฐานะศูนย์กลางฟินเทคชั้นนำ
ความคิดเห็นของ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง
ฮ่องกงเป็นที่ตั้งของบริษัท FINTECH และ Start UP ที่มีขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของโลก โดยฮ่องกงมีระบบนิเวศทางการเงินที่สมบูรณ์แห่งหนึ่งในเอเชีย ทั้งนี้ หน่วยงาน HKSTP ซึ่งเป็นฐานการวิจัยและพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดของฮ่องกง ซึ่งประกอบด้วยบริษัท I&T มากกว่า 1,500 แห่ง และผู้ปฏิบัติงานด้านการวิจัยและพัฒนา 13,000 ราย ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านการวิจัยและพัฒนาทั่วเมือง รวมถึงสาขาที่เซินเจิ้นที่เปิดในเดือนกันยายน 2566 เพื่อสนับสนุนองค์กร I&T ในระดับท้องถิ่นและระดับโลกโดยเฉพาะตลาดจีน ซึ่งจะดึงดูดผู้มีความสามารถ องค์กร และการลงทุนมายัง GBA จากภาพรวมแสดงให้เห็นว่าสตาร์ทอัพในฮ่องกงยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีสตาร์ทอัพมากกว่า 600 รายในอุตสาหกรรม FINTECH และ FINTECH จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโตของภาคการเงินของฮ่องกง
จากความได้เปรียบดังกล่าว จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการแสวงหาโอกาสของผู้ลงทุน/นักธุรกิจไทยที่กำลังจะวางแผนลงทุนในฮ่องกง โดยใช้ประโยชน์จากความร่วมมือดังกล่าวของฮ่องกงในการพัฒนาศักยภาพและขยายธุรกิจผ่านการใช้จุดแข็งของฮ่องกงเพื่อเข้าสู่ตลาดจีนและต่างประเทศทั่วโลกต่อไป