เจาะแนวโน้มตลาดจีนผ่านเทรนด์สี ปี 2024

ในยุคที่เต็มไปด้วยสีสันและความสร้างสรรค์มากมายในปัจจุบัน สี ไม่เพียงแต่เป็นแนวทางในอุตสาหกรรมแฟชั่น แต่ยังเป็นแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจสำหรับการทำตลาดของแบรนด์สินค้าต่างๆ อีกด้วย เทรนด์สีเพิ่มโอกาสให้แบรนด์สร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์กับผู้บริโภค อาทิ สินค้าเสื้อผ้า ความงาม ของตกแต่งบ้าน เครื่องประดับและบรรจุภัณฑ์อาหาร กลายเป็นประเภทผลิตภัณฑ์หลักที่ใช้ประโยชน์จาก      เทรนด์นี้ แบรนด์ต่างๆ ได้ให้ความสำคัญกับสีในการออกแบบผลิตภัณฑ์ ให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคและความต้องการในการแสดงออกทางอารมณ์ของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ความนิยมสีในตลาดจีน มีความสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลทั้ง 4 ฤดูกาล โดยฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนผู้บริโภคในตลาดจีนจะนิยมสีที่มีชีวิตชีวาและสดใส ส่วนฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวจะนิยมโทนสีอบอุ่น ส่งเสริมให้แบรนด์ต่างๆ มีการออกแบบและเปลี่ยนแปลงธีมสีของผลิตภัณฑ์ตามฤดูกาลอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ แพลตฟอร์มต่างๆ ยังมีบทบาทสำคัญต่อความนิยมของสี โดยส่งเสริมความนิยมเทรนด์สีผ่านการสร้างคอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง ทางด้านการตลาด แบรนด์ต่าง ๆ ในจีนต่างก็ได้มีการติดตามเทรนด์สียอดนิยมในตลาด และมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในโทนสีใหม่ รวมถึงมีการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดด้วยสี ผ่าน KOL และการสร้างแบรนด์ร่วม IP โดยการเลือกใช้โทนสีการแต่งหน้าและสีเสื้อผ้า ให้เข้ากับแบรนด์และเทรนด์สีที่มาแรง ทำให้ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคทั้งทางสายตาและด้านอารมณ์  จนนำไปสู่การกระตุ้นความต้องการในการบริโภคเพิ่มขึ้น โดยตามรายงานข้อมูลเชิงลึกแนวโน้มการตลาดเทรนด์สีปี 2024 ของ www.endata.com.cn ระบุว่า เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มการบริโภคในตลาดจีน ปี 2023 – 2024 คาดว่าในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนผู้บริโภคในตลาดจีน นิยมบริโภคสีชมพูและสีเขียวมิ้นต์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ส่วนในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวปี 2024 คาดว่าสีชมพูพีชและสีเหลืองจะกลายเป็นเทรนด์สีที่ได้รับความนิยมในตลาดจีน

แหล่งข้อมูล: https://www.endata.com.cn/

ในส่วนของการบริโภคที่ได้รับอิทธิพลจากเทรนด์สี หากพิจารณาตามสถานการณ์และโอกาสสำคัญต่างๆ ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคแล้ว การออกเดท การท่องเที่ยว การกีฬา ฯลฯ ได้ได้รับอิทธิพลจากเทรนด์สีมากที่สุด ในส่วนของหมวดหมู่สินค้าที่เทรนด์สีกลายเป็นปัจจัยหลักที่ส่งอิทธิพลต่อความคิดและนำไปสู่การบริโภค ได้แก่ เสื้อผ้า ความงาม และของตกแต่งบ้าน กระเป๋า และอาหาร เป็นต้น

แหล่งข้อมูล: https://www.endata.com.cn/

สีเหล่านี้ได้รับความนิยมไม่เพียงเพราะความสวยงามเท่านั้น แต่เนื่องจากสีที่ต่างกันมีความหมายทางจิตวิทยาที่แตกต่างกัน สร้างผลกระทบทางอารมณ์ต่อผู้คนที่แตกต่างกันออกไป  งานวิจัยเกี่ยวกับจิตวิทยาผู้บริโภค ระบุว่า ผู้บริโภคจะสั่งซื้อสินค้า เนื่องจากชอบแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งหรือเกิดจากอิทธิพลทางอารมณ์ในขณะนั้น

ดังนั้น สี จึงเป็นหนึ่งในปัจจัยพื้นฐานในการตัดสินใจซื้อสินค้า การเลือกใช้สีกับสิ่งที่เกี่ยวข้องกับตัวแบรนด์หรือสินค้าจึงถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นสีของโลโก้ สีของบรรจุภัณฑ์ สีป้ายสินค้า โทนสีของภาพยนตร์โฆษณา และป้ายบิลบอร์ด โดยนักการตลาดส่วนใหญ่ใช้หลักการเลือกสีให้สอดคล้องกับตัวตนของแบรนด์ และความเหมาะสมของตัวสินค้า ซึ่งการเลือกใช้สีให้เหมาะสมกับตัวแบรนด์ยังช่วยส่งเสริมการรับรู้ต่อแบรนด์ (Brand Awareness) ได้ด้วย ทั้งนี้ ผู้ที่ทำการตลาดจึงมีการนำสีและจิตวิทยามาใช้ในงานโฆษณา เพื่อดึงดูดผู้บริโภค และสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่เห็น และกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมการซื้อสินค้ามากขึ้น

ผลกระทบด้านเศรษฐกิจต่อประเทศไทย และแนวทางการปรับตัวของภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการไทย

เทรนด์สี เกิดจากปัจจัยหลายอย่างรวมกัน ซึ่งรวมถึงภูมิหลังทางสังคมและวัฒนธรรม สถานะทางเศรษฐกิจ การพัฒนาเทคโนโลยี อิทธิพลของแบรนด์แฟชั่นและนักออกแบบ ฯลฯ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาของปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลต่อเทรนด์สียอดนิยม ในโลกธุรกิจ สีมีความสำคัญอย่างมาก เช่น สามารถใช้เป็นสีของแบรนด์ ในการสร้างความเป็นเอกลักษณ์และส่งเสริมภาพลักษณ์ให้แบรนด์ รวมถึงส่งผลต่ออิทธิพลทางความคิดของผู้บริโภค ดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคผ่านกลยุทธ์การใช้สี

ดังนั้น การเลือกใช้สีที่ไม่เหมาะสมในการทำคอนเทนต์ โลโก้ หรือบรรจุภัณฑ์อาจส่งผลให้ผู้ชมผลิตภัณฑ์จำนวนน้อยหรือไม่สามารถเข้าใจถึงสิ่งที่แบรนด์และตัวผลิตภัณฑ์ต้องการจะสื่อได้อย่างตรงจุดและที่สำคัญอาจทำให้ผู้ชมที่พบเห็นนั้นไม่สนใจคอนเทนต์ โลโก้ หรือผลิตภัณฑ์นั้นๆ เนื่องจากสีสามารถสร้างอิทธิพลต่อความนึกคิดและพฤติกรรมในการรับข้อมูลต่างๆ และยังเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการช่วยตัดสินใจของผู้คนด้วย

อย่างไรก็ดี เพื่อให้เข้าใจเทรนด์การบริโภคและเทรนด์สียอดนิยมในตลาดจีน ประการแรกผู้ประกอบการไทยควรศึกษาข้อมูลและติดตามเทรนด์ในอุตสาหกรรมแฟชั่น อุตสาหกรรมการออกแบบ และสาขาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ประการที่สอง ควรศึกษาและทำความเข้าใจภูมิหลังทางวัฒนธรรมของภูมิภาคนั้นๆ และแนวคิดเกี่ยวกับรสนิยม ของผู้บริโภคกลุ่มต่างๆ เพื่อสามารถนำไปบูรณาการในการสร้างแบรนด์อันเป็นเอกลักษณ์ และผลิตสินค้าให้สอดคล้องกับเทรนด์ความต้องการในตลาดจีน ตลอดจนการสร้างแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่มีอิทธิพลต่อความคิดของผู้บริโภคที่มีต่อสินค้าไทยและส่งเสริมให้ผู้บริโภคสนใจหรือตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าไทย

ที่มา:

https://mp.weixin.qq.com/s/UMi-nc9WtKZPWd42tcfYDw

ภาพ : https://image.baidu.com/

จัดทำโดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว