สำนักงานสถิติกลางอิสราเอล (Central Bureau of Statistics : CBS) ประมาณการเบื้องต้นว่า การส่งออกของ อิสราเอล ในปี 2023 คาดว่าจะอยู่ที่ 156 พันล้านดอลลาร์ ลดลงประมาณ 6% เมื่อเทียบกับ ปี 2022 ลดลง ประมาณ 10 พันล้านดอลลาร์ และเพิ่มขึ้นประมาณ 12 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับการส่งออกในปี 2021 ซึ่งอยู่ในช่วงการแพร่ระบาด Covid-19
ภาคสินค้าได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากความท้าทายในปีที่ผ่านมา โดยการส่งออกภาคบริการที่มีสัดส่วนเป็น 52% ของการส่งออกรวม คาดว่าการส่งออกภาคบริการลดลงเพียง 3% สาเหตุหลักมาจากการลดลงของบริการด้านการท่องเที่ยวและการขนส่งของอิสราเอล รวมถึงยอดการขายบริษัทสตาร์ทอัพ สำหรับการส่งออกสินค้าลดลงประมาณ 10% ในสินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ เคมีภัณฑ์ เพชร และยา
ในส่วนของประเทศเป้าหมายในการส่งออกของอิสราเอลนั้น CBS ระบุว่าใน ปี 2566 การส่งออกมีอัตราการเติบโตอย่างมากในต่างประเทศ เรียงลำดับ ดังนี้ โรมาเนีย (73%) ไอร์แลนด์ (35%) เยอรมนี (14%) เนเธอร์แลนด์และญี่ปุ่น (11.5%) และในด้านมูลค่าการค้าการค้าในภูมิภาคประเทศอาหรับ การส่งออกมีอัตราการเติบโตที่น่าประทับใจเรียงลำดับ ดังนี้ โมร็อกโก (128%) อียิปต์ (73.5%) บาห์เรน (54.5% แม้ว่าปริมาณการค้าทั้งหมดจะถูกจำกัด ) และจอร์แดน (13%) การส่งออกไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยังคงมีเสถียรภาพ ( เพิ่มขึ้น 5.2% เป็นประมาณ 650 ล้าน ดอลลาร์ ) โดยมีการนำเข้าเพิ่มขึ้น 23% ใน ปี 2566
การส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาดเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดของอิสราเอลนั้นยังคงมีเสถียรภาพในแง่ของการส่งออกสินค้าในปี 2566 ที่ผ่านมา
การส่งออกที่ลดลงใน ปี 2566 นั้นเห็นได้จากการส่งออกไปยังตุรกี อิตาลี ฝรั่งเศส และ สหราชอาณาจักรในยุโรป รวมถึงในอินเดียและจีน ส่วนการส่งออกไปยังตลาดเอเชียลดลงอาจเป็นผลมาจากความผันผวนของค่าเงิน การลดลงอย่างมีนัยสำคัญของอุตสาหกรรมเพชร ผลกระทบของอัตราดอกเบี้ย และเหตุการณ์ภายในประเทศเหล่านี้
ในแง่ของข้อตกลงการค้า ฝ่ายบริหารการค้าต่างประเทศ กระทรวงเศรษฐกิจอิสราเอลตั้งข้อสังเกตถึงการลงนามข้อตกลงการค้าเสรีกับเวียดนามเมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 โดย ข้อตกลงการค้ากับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะมีผลบังคับใช้ในช่วงต้น ปี 2566 จะช่วยส่งผลให้การค้ากับประเทศเหล่านี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น
ที่มา: กระทรวงเศรษฐกิจอิสราเอล กุมภาพันธ์ 2567
ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ
รายงานข่าวว่ามีการโจมตีด้วยจรวดทางตอนเหนือของอิสราเอลทุกวันอย่างต่อเนื่อง เช่นเมื่อเช้าวันนี้ (27 มี.ค.67) มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย บาดเจ็บอีกรายจากการโจมตีด้วยจรวดของฮิซบอลเลาะห์ทางตอนเหนือ เมืองดรูซแห่งไอน์ คินีเย จากการโจมตีด้วยจรวดจำนวน 30 ลูก หลังจากที่ IDF ยืนยันการโจมตีสมาชิกอาวุโสของกลุ่มสุหนี่ปาเลสไตน์ในหมู่บ้านเฮบบาริเยห์ทางตอนใต้ของเลบานอน (ที่มา : i24news)
อิสราเอลมีอัตราการเติบโตเศรษฐกิจที่ดีและเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก โดย World Happiness Report จัดให้อิสราเอลอยู่ในอันดับที่ 5 ในรายงานความสุขโลกปี 2024 ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยสหประชาชาติ ผ่านการสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดย Gallup ซึ่งวัดความสุขในประเทศต่างๆ ระหว่างปี 2021 ถึง 2023 อิสราเอลอยู่ในอันดับที่ 4 ในปีที่แล้ว ฟินแลนด์อยู่ในอันดับแรก ตามด้วยเดนมาร์ก ไอซ์แลนด์ สวีเดน และอิสราเอล ห้าประเทศตามหลังอิสราเอลที่ติดสิบอันดับแรก ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ ลักเซมเบิร์ก สวิตเซอร์แลนด์ และออสเตรเลีย ในส่วนของอิสราเอล ในรายงานดังกล่าวได้ดำเนินการสำรวจหลังจากการจับตัวประกัน (ในวันที่ 7 ตุลาคม) แต่ก่อนการสู้รบส่วนใหญ่ที่ตามมา การประเมินชีวิตในอิสราเอลลดลงอย่างรวดเร็วโดย 0.9 จากระดับ 10 จุดเพียงหนึ่งในสามเท่านั้น ซึ่งจะเข้าสู่ค่าเฉลี่ย 3 ปี ในแง่ของการประเมินในปี 2023 ผู้เขียนรายงานกล่าวว่าอิสราเอลน่าจะอยู่ในอันดับที่ 19 สหราชอาณาจักรอยู่ในอันดับที่ 20 ในรายงานและสหรัฐอเมริกาอันดับที่ 23
อิสราเอลอยู่ในอันดับที่สองในดัชนีความสุขโลกสำหรับคนหนุ่มสาวอายุ 30 ปีและต่ำกว่าลิทัวเนียในอันดับแรก และเซอร์เบียอยู่ในอันดับที่สาม ในหมวดหมู่คนอายุมากกว่า 60 อิสราเอลอยู่ในอันดับที่ 18
ในหมวดหมู่ย่อยสำหรับความสุขเชิงอัตวิสัยที่แสดงโดยคนหนุ่มสาวอายุ 15-24 ปี อิสราเอลได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับแรก (ที่มา : en.globes.co.il)
——————————————————————
สคต.เทลอาวีฟ
27 มี.ค.67