BYD ตั้งโรงงานผลิตรถยนต์พลังงานใหม่แห่งแรกในทวีปยุโรปที่ฮังการี คาดปีหน้าพร้อมเดินเครื่องผลิตรถยนต์

📰 ข่าวเด่นประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2567 โดย สคต. ณ กรุงบูดาเปสต์
www.thaitradebudapest.hu / Facebook Fanpage: @ThaiTradeBudapest
Cover Photo Credit: BYD

BYD บริษัทยักษ์ใหญ่รถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน ประกาศตั้งโรงงานผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ที่ไม่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล[1] (New Energy Vehicle: NEV) เป็นแห่งแรกในทวีปยุโรป บนพื้นที่กว่า 1,875 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมชานเมืองแซแกด (Szeged) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฮังการี ซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศโรมาเนียและเซอร์เบีย นับเป็นโครงการลงทุนจากต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดโครงการหนึ่งในฮังการี แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ดียิ่งขึ้นระหว่างฮังการีและจีน โดยโรงงานดังกล่าวจะเริ่มการผลิตได้ภายในปี 2568 เพื่อรองรับตลาดในทวีปยุโรปโดยเฉพาะ อย่างไรก็ดี BYD จะนำเข้าแบตเตอรี่จากประเทศจีนแทนการผลิตแบตเตอรี่ในประเทศฮังการี

ด้านรัฐบาลฮังการีพร้อมสนับสนุนการลงทุนของ BYD เต็มที่ โดยจะลงทุนพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานที่อำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าและการคมนาคม ภายในวงเงิน 125 ล้านยูโร (ประมาณ 4.9 หมื่นล้านบาท) และการให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมต่างๆ ซึ่งขณะนี้กำลังรอการอนุมัติจากคณะกรรมาธิการยุโรป รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศและการค้าฮังการี Mr. Péter Szijjártó แถลงว่า โครงการลงทุนครั้งนี้สะท้อนให้เห็นบทบาทสำคัญของฮังการีในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก เน้นย้ำความสำเร็จของนโยบาย Eastern Opening ของรัฐบาลฮังการีที่เปิดรับการลงทุนและการค้าจากประเทศคู่ค้านอกสหภาพยุโรป และจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ส่วนนายกเทศมนตรีเมืองแซแกดยินดีต้อนรับการลงทุนดังกล่าว เนื่องจากโรงงานดังกล่าวจะช่วยเพิ่มการจ้างงานในท้องถิ่นถึงหลักพันตำแหน่ง ขยายโอกาสทางธุรกิจให้กับธุรกิจในพื้นที่ให้มากขึ้น รวมถึงทำให้เทศบาลท้องถิ่นมีรายได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

ในขณะเดียวกัน BYD กำลังรุกเข้าตลาดฮังการี โดยร่วมมือกับตัวแทนจำหน่ายในท้องถิ่นอย่าง Duna Autó, Wallis Motor และ Schiller Car Family เปิดตัวโชว์รูมและตัวแทนจำหน่ายในกรุงบูดาเปสต์ บริษัทฯ คาดว่า นโยบายของรัฐบาลฮังการีที่สนับสนุนการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของประชาชน ในฐานะตัวเลือกการคมนาคมขนส่งที่ยั่งยืนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการแจกเงินอุดหนุนและติดตั้งสถานีชาร์จไฟทั่วประเทศ จะเป็นปัจจัยส่งเสริมยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของตนในฮังการีได้ดี

ในระหว่างนี้ BYD เปิดตัวรถยนต์สามรุ่นในตลาดฮังการีที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าขั้นสูงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้แก่ รุ่น SEAL, BYD-ATTO 3 และ DOLPHIN ราคาเริ่มต้น 10 ล้านโฟรินท์ (ประมาณ 1 ล้านบาท) โดยบริษัทฯ จะรับประกันรถยนต์ใหม่ 6 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตรแรก ส่วนตัวแบตเตอรี่นั้นรับประกันที่ 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตรแรก

รูปภาพที่ 1: รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของ BYD ที่เปิดตัวในตลาดฮังการี
ที่มาของข้อมูล: Villanyautósok

💭 ข้อคิดเห็นของ สคต. ณ กรุงบูดาเปสต์ 💭

การลงทุนของ BYD ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของฮังการีมีแนวโน้มที่จะส่งผลดีอย่างมากต่อเศรษฐกิจของฮังการี ประการแรก คือ การสร้างตำแหน่งงานใหม่ ซึ่งจะช่วยลดอัตราการว่างงานลง เพิ่มรายได้ของครัวเรือน กระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค และส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวม

ประการที่สอง การตั้งโรงงานผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ของ BYD ยังช่วยให้ฮังการีก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในทวีปยุโรป ตอบสนองต่อความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก การลงทุนครั้งนี้จึงอาจช่วยดึงดูดการลงทุนและความร่วมมือกับต่างชาติ ในด้านการส่งเสริมนวัตกรรมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ

ประการที่สาม โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการช่วยเหลือจากรัฐสำหรับการลงทุนของ BYD นี้ ก็จะช่วยสนับสนุนการขยายตัวของธุรกิจอื่นๆ ตามไปด้วย กล่าวคือ ทำให้เกิดกิจกรรมในธุรกิจการขนส่งและโลจิสติกส์เพิ่มขึ้น เนื่องจากภาคยานยนต์ต้องการระบบห่วงโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพในการขนส่งยานพาหนะและส่วนประกอบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ซึ่งในส่วนนี้รัฐบาลฮังการีได้ประกาศจะสนับสนุนเต็มที่ อีกทั้งจะเกิดการจัดตั้งศูนย์ให้บริการธุรกิจที่รองรับการบริการหลังการขยายให้แก่ลูกค้าของแบรนด์รถยนต์ในฮังการี ทำให้เศรษฐกิจในภาพรวมขยายตัว ส่งเสริมให้ฮังการีเป็นประเทศที่น่าลงทุนยิ่งขึ้นในเวทีโลก

อย่างไรก็ดี รัฐบาลฮังการีจะต้องควบคุมผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ไฟฟ้าด้วย แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะไม่ปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดภาวะเรือนกระจกจากท่อไอเสีย ลดฝุ่นและ Carbon Footprint จึงดูเหมือนว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่ารถยนต์เชื้อเพลิงฟอสซิล ทว่า ขั้นตอนในการผลิตรถยนต์ โดยเฉพาะการสลัดลิเทียมจากเหมือง การผลิตแบตเตอรี่ และการทำลายแบตเตอรี่ ก็ยังมีความเสี่ยงในการใช้พลังงานไฟฟ้าและการก่อมลพิษอยู่มาก

การขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ฮังการียังจะช่วยสนับสนุนการขยายตัวของธุรกิจอื่นๆ กล่าวคือ ทำให้เกิดกิจกรรมในธุรกิจการขนส่งและโลจิสติกส์เพิ่มขึ้น เนื่องจากภาคยานยนต์ต้องการห่วงโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพในการขนส่งยานพาหนะและส่วนประกอบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ อีกทั้ง เกิดการจัดตั้งศูนย์ให้บริการธุรกิจที่รองรับการบริการหลังการขยายให้แก่ลูกค้าของแบรนด์รถยนต์ในฮังการี ทำให้เศรษฐกิจในภาพรวมขยายตัว

สำหรับผู้ส่งออกและนักลงทุนจากไทย การลงทุนตั้งโรงงานผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ของ BYD ครั้งนี้ จะช่วยเปิดโอกาสในการส่งออกสินค้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แบตเตอรี่ รวมถึงวัตถุดิบอย่างพลาสติก ยางพารา และโลหะ ที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ไปยังตลาดฮังการีได้

ปัจจุบัน สินค้าส่งออกหลักของไทยไปยังฮังการีเป็นกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ในส่วนชิ้นส่วนยานยนต์นั้นยังเป็นชิ้นส่วนสำหรับรถยนต์พลังงานเชื้อเพลิงอยู่เป็นส่วนมาก เมื่อพิจารณาว่าประเทศไทยมีข้อได้เปรียบจากการเป็นฐานการผลิตยานยนต์เดิม และมีศักยภาพในการต่อยอดการเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ จึงถือว่ายังมีโอกาสสำหรับการเข้าตลาดฮังการีของชิ้นส่วนและอุปกรณ์เสริมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศไทย

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสำรวจตลาดยานยนต์ในฮังการีและยุโรปกลาง สคต. ณ กรุงบูดาเปสต์ขอนำเสนองานแสดงสินค้าชิ้นส่วน อะไหล่ และเทคโนโลยียานยนต์นานาชาติ Automotive Hungary ซึ่งจะจัดขึ้น ณ ศูนย์แสดงสินค้า HUNGEXPO Budapest Congress and Exhibition Center กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ระหว่างวันที่ 7-10 พฤษภาคม 2567 งานนี้เป็นเวทีพบปะที่สำคัญสำหรับ Supplier และผู้ให้บริการในอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งในฮังการีและต่างประเทศ ที่จะมีโอกาสนำเสนอ นวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และบริการที่มีส่วนช่วยในการขยายขีดความสามารถในการแข่งขันอุตสาหกรรมยานยนต์ของฮังการี ผู้จัดงานคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานหลักหมื่นคนตลอดการจัดงานทั้งสี่วัน โดยงานฯ ดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐบาล เช่น Hungarian Investment Promotion Agency รวมถึงสมาคมการค้า ได้แก่ สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ฮังการี สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ฮังการี และแพลตฟอร์มนำเสนอข่าวสารวงการยานยนต์ชั้นนำในฮังการี Autopro.hu ผู้สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของงานแสดงสินค้าได้ที่เว็บไซต์ https://automotivexpo.hu/en/ หรือติดต่อ สคต. ณ กรุงบูดาเปสต์ หากสนใจจะเข้าร่วมงานฯ ดังกล่าว

[1] รถยนต์พลังงานใหม่ ได้แก่ รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle: HEV) รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Vehicle: PHEV) รถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Electric Vehicle: FCEV) และรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle: BEV)

ที่มาของข้อมูล

สคต. ณ กรุงบูดาเปสต์
มีนาคม 2567