เศรษฐกิจของประเทศกลับมาเจริญเติบโตอีกครั้ง

ในที่สุดเศรษฐกิจของเยอรมนีก็กลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง สำนักงานสถิติประจำประเทศเยอรมนี (Statistisches Bundesamt) เปิดเผยล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า ในไตรมาสแรกของปี 2024 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเยอรมนีเพิ่มขึ้น 0.2% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งขณะนี้ เยอรมนีกลับมามีความหวังขึ้นบ้าง โดย นาง Geraldine Dany-Knedlik หัวหน้าแผนกคาดการณ์และนโยบายเศรษฐกิจของสถาบันเพื่อการวิจัยทางเศรษฐกิจเยอรมนี (DIW – Deutscher Institut für Wirtschaftsforschung) เปิดเผยว่า “ยังเร็วเกินไปที่จะมั่นใจว่าเศรษฐกิจของประเทศจะดีขึ้น อย่างไรก็ดี แนวโน้มที่ GDP ของประเทศจะทยอยดีขึ้นมีโอกาสเป็นไปได้ค่อนข้างสูง” ราคาพลังงานที่ลดลงและการบริโภคที่เพิ่มขึ้น น่าจะทำให้เกิดความมั่นใจว่า GDP จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอีกครั้งในอีกไม่กี่ไตรมาสข้างหน้า ดัชนีบรรยากาศทางธุรกิจของสถาบันเพื่อการวิจัยทางเศรษฐกิจของมหาวิทยาลัยมิวนิค (Ifo – Institut für Wirtschaftsforschung an der Universität München) ซึ่งเป็นข้อมูลจากผลสำรวจบริษัทกว่า 9,000 ราย พบว่า ขณะนี้ผลประกอบการเพิ่มขึ้นเป็นระยะเวลากว่า 3 เดือนติดต่อกัน ทั้งนี้ เดิมนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์กันว่า ในไตรมาสแรกของปี 2024 เศรษฐกิจของเยอรมนีน่าจะหดตัว แต่จากข้อมูลของ Statistisches Bundesamt การที่ GDP ของประเทศขยายตัวขึ้นเล็กน้อย เป็นผลสืบเนื่องมาจากการลงทุนด้านก่อสร้างและการส่งออกที่กลับมาขยายตัวขึ้นอีกครั้ง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลกลางเยอรมันได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจขึ้นเล็กน้อย โดยคาดว่า ในปี 2024 GDP ของเยอมนีจะเติบโตขึ้น 0.3% นาย Robert Habeck รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการอนุรักษ์สภาวะอากาศสังกัดพรรคพรรคยุค 90 พันธมิตรสีเขียว (Bündnis 90/Die Grünen) เปิดเผย ในการเสวนากับประชาชนในเมือง Kassel ว่า “GDP ของประเทศจะเพิ่มขึ้นช้า ๆ ตามลำดับ” อย่างไรก็ตาม ไม่มีแนวโน้มที่ GDP ของประเทศจะเติบโตแบบก้าวกระโดดให้เห็นในอนาคตอันใกล้

 

สำนักงานสถิติฯ ได้เผยแพร่ตัวเลขที่น่าผิดหวังพร้อมกันด้วย โดยผู้เชี่ยวชาญของ Statistisches Bundesamt ปรับลดตัวเลขทางเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ปี 2023 ลงเล็กน้อย ซึ่งนั่นหมายความว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เศรษฐกิจของประเทศเยอรมนีหดตัวลง 0.5% ไม่ใช่ 0.3% ตามที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ สำหรับปี 2023 โดยรวม พบว่า GDP ของเยอรมันลดลง 0.2% ซึ่งการแก้ไขดังกล่าวเป็นลางร้ายสำหรับแนวโน้มขาขึ้นในปีนี้ นาย Claus Michelsen นักเศรษฐศาสตร์จากกรุงเบอร์ลินเตือนว่า “สิ่งนี้น่าจะส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมของปีนี้” นาย Michelsen คาดว่า การเติบโตเศรษฐกิจน่าจะแข็งแกร่งขึ้นบ้างในไตรมาสแรกของปี 2024 อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายของครัวเรือนน่ายังน่าผิดหวังอยู่ อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะลดลงมากขึ้น และในเดือนเมษายน 2024 อัตราเงินเฟ้อน่าจะอยู่ที่ 2.2% อย่างไรก็ตาม ราคาพลังงานมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ แม้จะ GDP ของประเทศจะขยายตัวอย่างช้า ๆ แต่คาดว่า ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะไม่มีอัตราการเติบโตสูงเป็นพิเศษเกิดขึ้นในเยอรมนี เนื่องจากอุปสรรคทางโครงสร้างของประเทศยังไม่ได้แก้ไขแต่อย่างใด รัฐบาลกลางเยอรมันคาดการณ์ว่า ในระยะกลางศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจของเยอรมนีอยู่ที่เพียง 0.6% ต่อปีเท่านั้น เหนือสิ่งอื่นใด ปัญหาขาดแคลนแรงงานที่มีผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์ก็ยังเป็นอุปสรรคต่อโลกธุรกิจอยู่ นาย Habeck กล่าวว่า“หากเราต้องการให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตสูงขึ้นอีกครั้ง ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงโครงสร้างปัญหาอย่างเร่งด่วน” รัฐบาลกลางกำลังเร่งจัดทำแผนผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งแผนดังกล่าวควรจะแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2024 เป็นอย่างช้าที่สุด อย่างไรก็ตามนาย Habeck ไม่ต้องการบอกว่า เขาได้ผลักดันแนวคิดใดเข้าสู่กระบวนการนี้เป็นพิเศษ ในการประชุมพรรคเพื่ออิสรภาพและประชาธิปไตย (FDP – Freie Demokratische Partei) เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พรรค FDP นำเสนอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 12 ข้อออกมา โดย FDP ต้องการขยายการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจออกไป โดยหลัก ๆ แล้วแผนดังกล่าวมีความประสงค์ที่จะลดสิทธิประโยชน์ทางสังคมลงเพื่อขยายแรงจูงใจให้มีการประกอบอาชีพสูงขึ้น นอกจากนี้ FDP ต้องการลดเงินสนับสนุนเมื่อว่างงาน (Bürgergeld) ลง และยกเลิกการเกษียณอายุก่อนกำหนดโดยเงินบำนาญไม่ถูกหัก (เมื่อชำระเบี้ยครบ 45 ปี) ในแผนดังกล่าวนาย Christian Lindner หัวหน้าพรรค FDP ยังต้องการดำเนินการลดหย่อนภาษีในวงกว้างด้วยการยกเลิกภาษีเพิ่มเติมเพื่อความสามัคคีอีกด้วย (ภาษีเพิ่มเติมเพื่อความสามัคคี หรือ Solidaritätszuschlag เป็นภาษีที่ในอดีตผู้ชำระภาษีในเยอรมนีทุกคนจะต้องชำระ แต่ตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นมา ผู้ที่จะต้องชำระภาษีดังกล่าวก็คือ ผู้ที่มีรายได้สูงกว่า 18,130 ยูโรต่อปีเท่านั้น) แต่จากตามแวดวงรัฐบาลในทางกลับกันนาย Habeck ได้เสนอให้ทำการส่งเสริมให้ผู้รับเงินบำนาญทำงานได้นานขึ้น โดยการจ่ายเงินสมทบด้านประกันสังคม นอกจากนี้นาย Habeck ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้เสนอแผนการให้เงินโบนัสการลงทุนสำหรับบริษัทต่าง ๆ หากพวกเขาทำการลงทุนในเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้อาจมีการปรับกฎหมายเกี่ยวกับค่าเสื่อมราคาของวัสดุที่เป็นต้นทุน (โรงงาน สำนักงาน เครื่องจักร ฯลฯ) ให้ลดลงเร็วขึ้น สิ่งนี้ก็อาจช่วยกระตุ้นให้มีการการลงทุนสูงขึ้นแบบชั่วคราว นอกจากนี้ในในการเสวนากับประชาชนในเมือง Kassel นาย Habeck ยังพูดถึงความจำเป็นที่จะสร้างโครงการบรรเทาภาษี “ระยะสั้น” แบบ “มหาศาล” สำหรับภาคเศรษฐกิจอีกด้วย ซึ่งต้องดูกันว่า คำกล่าวเหล่านี้จะออกมาเป็นรูปธรรมอย่างไร

 

จาก Handelsblatt 17 พฤษภาคม 2567

thThai