สงกรานต์บุกศาลาว่าการกรุงเวียนนา ไทยเล่นใหญ่ขนซอฟต์พาวเวอร์มัดใจฝรั่ง

ศาลาว่าการกรุงเวียนนา (Wiener Rathaus) เปิดบ้านร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ไทยพร้อมกับเปิดตัวสมาคมมิตรภาพนักธุรกิจ ไทย-ออสเตรีย (Thai-Austria Business Friendship Association) เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา โดยได้รับเกียรติจาก Mr. Michael Ludwig นายกเทศมนตรีกรุงเวียนนา มอบหมายให้ Mr. Omar Al-Rawi กรรมการสภาเทศบาลด้านกิจการยุโรปและระหว่างประเทศ เป็นประธานฝ่ายออสเตรียและกล่าวต้อนรับ ขณะที่นางวิลาวรรณ มังคละธนะกุล เอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา มอบ หมายให้นางสาวอรอนุช ผดุงวิถี อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายการพาณิชย์) และผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเวียนนา เป็นประธานฝ่ายไทยและกล่าวเปิดงาน ซึ่งงานนี้จัดขึ้นโดยสมาคมมิตรภาพนักธุรกิจ ไทย-ออสเตรีย และได้รับความร่วมมือจากศาลาว่าการกรุงเวียนนา สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเวียนนา ตลอดจนเครือข่ายพันธมิตรหลายฝ่าย นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการจัดงานสงกรานต์ไทยขึ้นในศาลาว่าการกรุงเวียนนา อันเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศและการที่ออสเตรียให้ความสำคัญต่อประเพณีสงกรานต์ไทยที่เพิ่งได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนให้เป็นตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติโดยองค์การยูเนสโกไปเมื่อเดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา

ในงานมีการจัดกิจกรรมสงกรานต์ตามประเพณีไทย ได้แก่ การสรงน้ำพระพุทธรูป และการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายออสเตรียและฝ่ายไทย พร้อมกับจัดเต็มนำเสนอซอฟต์พาวเวอร์แบบครบสูตรไม่ว่าจะเป็นการแสดงนาฎศิลป์ไทยโดยเยาวชนในกรุงเวียนนา การแสดงมวยไทยของเหล่านักมวยชาวออสเตรียจากค่ายมวยไทยที่ตั้งอยู่ในประเทศออสเตรีย การแสดงดนตรีไทยสากลโดยวงดนตรี Amazing Chaiyo Band ขับร้องโดยคุณสุพัณณดา พลับทอง (เปียโน เดอะซิส) ศิลปินชาวไทยที่มีชื่อเสียง ซึ่งสวมใส่เสื้อผ้าและเครื่องประดับ
แบรนด์ไทยอย่าง Maison Wonder Anatomie และ FLYNOW และสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับงานไทยคืออาหารไทยอันลือเลื่องซึ่งทูตพาณิชย์ นางสาวอรอนุช ผดุงวิถี ออกโรงเป็นผู้นำทีมร้าน SOM Kitchen ร้านอาหารไทยที่ได้รับเครื่องหมายรับรอง Thai SELECT ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เสิร์ฟอาหารรสชาติไทยแท้ สร้างความสนุกสนานรื่นรมย์ให้กับแขกเหรื่อที่มาร่วมงานได้ดื่มด่ำกับซอฟต์พาวเวอร์ของไทยอย่างเต็มรูปแบบ

นอกเหนือจากกิจกรรมทางวัฒนธรรมยังมีการจัดนิทรรศการของโครงการพัฒนาดอยตุง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของโครงการฯ นิทรรศการข้าวหอมมะลิไทย และนิทรรศการภาพถ่ายเชิงศิลปะโดยนักถ่ายภาพมือสมัครเล่นชาวไทย งานนี้มีผู้เข้าร่วมจำนวนกว่า 300 คน เป็นค่ำคืนที่พลังซอฟต์พาวเวอร์ไทยได้ทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งได้รับการชื่นชมจากศาลาว่าการกรุงเวียนนาว่าเป็นกิจกรรมของต่างประเทศที่ดีที่สุดที่เคยจัดขึ้นที่นี่ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีโอกาสแห่งความร่วมมือรวมถึงการจัดกิจกรรมดีๆ เช่นนี้อีกในอนาคต

ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นสำนักงานฯ

แม้โดยภาพรวมซอฟต์พาวเวอร์ของไทยจะค่อนข้างทรงพลังในยุโรป แต่ยังมีช่องว่างและผู้คนอีกจำนวนมากที่ยังไม่รู้จักประเทศไทยหรือมีภาพจำประเทศไทยในแบบที่ไม่น่าประทับใจนัก ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการรับรู้ข้อมูลมาจากแหล่งต่างๆ แต่กระนั้นเมื่อได้มีโอกาสได้ไปเยือนประเทศไทย หรือได้สัมผัสกับความเป็นไทย โดยเฉพาะอาหาร วัฒนธรรม และอัธยาศัยของคนไทย มักเกิดความประทับใจและมีความรู้สึกที่ดีต่อประเทศไทย ส่งผลต่อความต้องการสนับสนุนสินค้าและบริการของประเทศไทย รวมถึงการท่องเที่ยวและความร่วมมือในทุกระดับ ชี้ให้เห็นว่าซอฟต์พาวเวอร์ยังคงเป็นพลังอำนาจสำคัญที่สามารถเปิดประตูบานแรกและผลักดันการสร้างประโยชน์ในด้านอื่นๆ ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่สำคัญของภาครัฐในการส่งเสริมกิจกรรมที่เสริมสร้างพลังซอฟต์พาวเวอร์ให้กับประเทศไทย โดยเฉพาะกิจกรรมที่นำมาเสิร์ฟกลุ่มเป้าหมายถึงต่างประเทศ และต้องทำงานสอดประสานกับภาคเอกชนอย่างดีที่สุด เพื่อนำประเทศไทยไปยืนโดดเด่นอยู่แถวหน้าและสามารถดึงดูดผลประโยชน์จากเวทีโลกมาสู่ประเทศไทยให้มากที่สุด