วันที่ 6 มิถุนายน ปี 2567 กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม (Ministry of Industry and Trade: MoIT) ได้จัดการประชุมระดับนานาชาติในหัวข้อ “ส่งเสริมการฟื้นตัวของการส่งออกสินค้าเวียดนามสู่ตลาดที่สำคัญ – โอกาสในการส่งออกสินค้าเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์และของใช้ในบ้านไปยังตลาดโลก” ซึ่งการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อให้ข้อมูลต่างๆ และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มของผู้บริโภคปัจจุบัน รวมถึงทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ และของใช้ในบ้านในตลาดส่งออก นอกจากนี้ ในงานยังมีการให้คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการเวียดนามให้มีส่วนร่วมในห่วงโซ่คุณค่าโลก (Global Value Chains: GVC) มากยิ่งขึ้นเพื่อปรับตัวให้เข้ากับทิศทางของการพัฒนาที่ยั่งยืนของตลาดโลก
นาย Ta Hoang Linh อธิบดีกรมตลาดยุโรป-ทวีปอเมริกา กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (European – American Market Department) กล่าวว่ารายได้จากการส่งออกของสินค้ากลุ่มนี้เติบโตอย่างมากในช่วงปี 2567 ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อจำกัดและกฎระเบียบที่เข้มงวดต่างๆ ที่กำหนดจากตลาดส่งออก โดยเกี่ยวข้องกับการผลิตและห่วงโซ่อุปทานของสินค้าที่จำเป็นต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนและระบบการผลิตแบบหมุนเวียนซึ่งก่อให้เกิดความท้าทายสำหรับผู้ประกอบการเวียดนาม
นาย Tran Phu Lu ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการลงทุนและการค้า (Investment & Trade Promotion Centre: ITPC) กล่าวว่า สินค้าเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ และของใช้ในครัวเรือนของเวียดนามมีความได้เปรียบในการส่งออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านคุณภาพของสินค้า แต่เนื่องจากข้อจำกัดด้านการเงินและค่าแรงทำให้ผู้ประกอบการของเวียดนามมีความยากลำบากในการแข่งขันกับแบรนด์ใหญ่ในตลาดโลก จึงแนะนำให้ผู้ประกอบการเวียดนามให้ความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ด้านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital Transformation) ของภาคการผลิตเพื่อส่งเสริมความร่วมมือกันกับผู้ผลิตสินค้าในห่วงโซ่อุปทาน โดยต้องมีการบริหารแผนงานที่ยืดหยุ่นติดตามการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างใกล้ชิด
นาย Tran Nhu Tung รองประธานสมาคมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเวียดนาม (Vietnam Textile and Apparel Association: VITAS) กล่าวว่าผู้ประกอบการต่างชาติได้ขอให้โรงงานของเวียดนามบรัมมาใช้พลังงานสะอาด โดยต้องทำตามข้อตกลงร่วมกันและ
ดำเนินการเปลี่ยนไปสู่ระบบการผลิตที่ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม โดยปัจจุบัน สหภาพยุโรปได้ออกนโยบายมาตรการต่างๆ เพื่อเน้นย้ำการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยผู้ประกอบการที่ต้องการดำเนินกิจกรรมทางการค้ากับสหภาพยุโรปจำเป็นต้องปฏิบัติตาม
(จาก https://en.vietnamplus.vn/)
ข้อคิดเห็น สคต
ในช่วงปีที่ผ่านมา การส่งออกเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์และของใช้ในบ้านของเวียดนามเติบโตที่ยากลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุตสาหกรรมการผลิต แต่ว่าในปี 2567 ตลาดโลกมีความต้องการสินค้ากลุ่มดังกล่าวเพิ่มขึ้น เวียดนามจึงต้องเร่งหาโอกาสเพื่อผลักดันการเติบโตให้กับอุตสาหกรรมนี้ โดยต้องเน้นย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงสีเขียวร่วมกับการใช้โมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียนซึ่งถือเป็นแนวโน้มการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และเป็นกฎเกณฑ์ใหม่ของการค้าและการลงทุนในตลาดโลก
นอกจากนี้ ตามข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2567 มูลค่าการส่งออกทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 156,278 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ ปัจจุบันเวียดนามได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกรายใหญ่ของกลุ่มสินค้าเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์และของใช้ในบ้าน โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มประมาณ 13,181 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8 มูลค่าการส่งออกเครื่องหนังและรองเท้าอยู่ที่ประมาณ 8,640 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.2 และมูลค่าการส่งออกของสินค้าจากไม้อยู่ที่ประมาณ 6,174 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 24.2 เมื่อเทียบกับปี 2566 อย่างไรก็ตาม ความต้องของตลาดโลกที่เริ่มฟื้นตัวและความต้องการนำเข้าสินค้าของตลาดสำคัญเพิ่มขึ้น เวียดนามจึงส่งเสริมการส่งออกสินค้าเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ และของใช้ในบ้านเพิ่มมากขึ้นและดำเนินการตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ด้านการเติบโตสีเขียวในช่วงปี 2564 – 2573 โดยถือเป็นโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยในการเพิ่มการส่งออกวัตถุดิบที่สำคัญมายังเวียดนามมากขึ้น เช่น วัตถุดิบสิ่งทอ เครื่องหนังและผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น