การทำธุรกิจกับชาวสเปน

วัฒนธรรมการทำธุรกิจของชาวสเปนมีความพิเศษและแตกต่างจากประเทศอื่นๆ ในยุโรป ซึ่งในบทความนี้เราจะแนะนำให้คุณรู้จักกับหลักการสำคัญที่จะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีการทำธุรกิจในประเทศนี้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การทำงานประชุม วิธีการเจรจาต่อรอง ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับมารยาทในการทำธุรกิจ ไปจนถึงทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับโครงสร้างและวัฒนธรรมของชาวสเปน

 

 

ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสเปน:

  • ชื่ออย่างเป็นทางการ คือ ราชอาณาจักรสเปน
  • ภาษาทางการ คือ ภาษาสเปน โดยมีภาษาประจำภูมิภาคอื่นๆ ที่ได้รับการยอมรับด้วย อาทิ กาตาลัน บาสก์ เป็นต้น
  • เมืองหลวง คือ กรุงมาดริด และเป็นเมืองใหญ่ที่สุด
  • จำนวนประชากร 48,085,361 คน ณ วันที่ 1 มกราคม 2566 ประกอบไปด้วยชาวสเปน 41,995,741 คน (ร้อยละ 3) และชาวต่างชาติ 6,089,620 คน (ร้อยละ 12.7) ขณะที่ร้อยละ 82.9 เป็นประชากรที่เกิดในสเปน (39,881,155 คน) ส่วนอีกร้อยละ 17.1 เป็นผู้ที่เกิดในต่างประเทศ (8,204,206 คน)
  • สเปนมีภูมิภาคอิสระทั้งหมด 17 ภูมิภาค แต่ละแห่งมีวัฒนธรรมเฉพาะตัว มีภาษาและสำเนียงที่หลากหลาย

 

 

โครงสร้างองค์กร

การจัดโครงสร้างองค์กรในประเทศต่างๆ เป็นสิ่งแรกที่เราควรทำความเข้าใจ เพราะการหากเรามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลของโครงสร้างองค์กรนั้นจะเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้เราเข้าใจและพัฒนาประเด็นต่างๆ ต่อไปได้ดียิ่งขึ้น

 

การจัดอันดับของ Hofstede ที่ใช้เพื่อพิจารณามิติทางวัฒนธรรมเกี่ยวกับระยะห่างทางอำนาจ สเปนมีคะแนนอยู่ที่ 57 ซึ่งสูงกว่าสหรัฐฯ ที่มีคะแนนอยู่ที่ 40 เราจะเห็นได้ว่าสเปนมีความชัดเจนในการยอมรับโครงสร้างอำนาจภายในองค์กร บริษัทส่วนใหญ่โดยเฉพาะธุรกิจของครอบครัวและหน่วยงานรัฐในสเปนยังคงมีโครงสร้างที่ค่อนข้างแข็งแกร่งและมีโครงสร้างที่เป็นแบบลำดับชั้นอย่างเข้มงวดและชัดเจนทำให้ง่ายต่อการระบุผู้นำและผู้ที่อยู่ภายใต้การนำ แต่ในปัจจุบัน วัฒนธรรมองค์กรในสเปนกำลังเปลี่ยนแปลงไปด้วยเหตุผลหลายประการ อาทิเช่น บริษัทสตาร์ทอัพที่เกิดขึ้นใหม่จำนวนมากมีการนำรูปแบบการจัดการใหม่และมีความคล่องตัวมากขึ้น การเข้ามาของผู้ปฏิบัติงานจากต่างประเทศที่มีวัฒนธรรมทางธุรกิจที่แตกต่าง รวมถึงการศึกษาและการฝึกอบรมจากต่างประเทศของผู้นำหลายคนในบริษัทสเปน ซึ่งทำให้พวกเขามีมุมมองที่ทันสมัยขึ้น

 

 

ระเบียบพื้นฐานของรูปแบบการทำธุรกิจในสเปน

 ในประเทศสเปนนั้น แนวคิดสำคัญในการทำธุรกิจมักจะมีเรื่องของวัฒนธรรมเข้ามาผสมผสานด้วย นักธุรกิจชาวสเปนส่วนใหญ่จึงจะปฏิบัติต่อคู่ค้าอย่างเป็นมิตร ทั้งนี้ นับตั้งแต่การฟื้นฟูประชาธิปไตยในปี 2518 เป็นต้นมา ค่านิยมและทัศนคติต่าง ๆ ได้เปลี่ยนไป การทำงานของชาวสเปนหากเทียบกับชาติอื่นๆในยุโรปนั้นจะถือว่าชาวสเปนมีความเป็นกันเองและยืดหยุ่นมากกว่า และยังเป็นที่รู้จักกันว่าชาวสเปนนั้นมีความภาคภูมิใจในชาติสเปนเป็นอย่างมาก โดยที่คนสเปนจะให้ความสำคัญกับครอบครัว การรักษาหน้าทางธุรกิจ และหลีกเลี่ยงการกระทำที่มีความเสี่ยง

 

 

การกำหนดเป้าหมายในระยะยาว

หากพูดถึงในแง่การมองไปยังอนาคตในสภาพแวดล้อมการทำงานของชาวสเปนตามมิติทางวัฒนธรรมของ Hofstede สเปนมีคะแนนอยู่ในระดับกลางๆ ด้วยคะแนน 48 นั่นหมายความว่าชาวสเปนมีแนวโน้มที่จะมองการณ์ระยะสั้น เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นในบริษัท ชาวสเปนมักจะหาวิธีแก้ไขอย่างรวดเร็ว โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบระยะยาวที่อาจตามมา ตราบใดที่วิธีที่เลือกใช้สามารถแก้ปัญหาได้ในขณะนั้น

 

เมื่อเราพิจารณาถึงความจริงที่ว่าคนสเปนมีแนวโน้มที่จะหลีกเลี่ยงความเสี่ยง จึงสมเหตุสมผลว่าทำไมชาวสเปนจึงต้องการโครงสร้างองค์กรที่ชัดเจน มีผู้นำระดับสูงที่ได้รับการตั้งตำแหน่งอย่างชัดเจน เพราะชาวสเปนต้องการหาวิธีแก้ไขที่รวดเร็วและตัดสินใจได้ทันที อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ชาวสเปนมักจะมองหาวิธีแก้ปัญหาที่มีความรวดเร็ว การบรรลุเป้าหมายกลับมีลักษณะตรงกันข้าม ซึ่งการทำงานของชาวสเปนโดยปกติจะผ่อนคลายและมีความช้า พร้อมกับมีการรับมือและสามารถกำหนดเวลาได้อย่างมีสติ

 

 

การติดต่อครั้งแรก

การนัดหมายสามารถทำได้ทางโทรศัพท์หรืออีเมล และต้องยืนยันการนัดหมายล่วงหน้าหนึ่งวันก่อนหน้านั้น นัดแล้วไม่ยกเลิกหากไม่เกิดเหตุฉุกเฉินร้ายแรง ส่วนใหญ่แล้วชาวสเปนจะนิยมการพบปะตัวจริงในการคุยธุรกิจมากกว่าการติดต่อสื่อสารกันผ่านการคุยโทรศัพท์ ซึ่งนักธุรกิจจำนวนมากยังคงใช้ภาษาสเปนเป็นหลัก ดังนั้นการสื่อสารด้วยภาษาสเปนหรือมีล่ามแปลภาษาติดตามไปด้วยเป็นสิ่งที่สำคัญมาก

 

 

การทักทาย

แม้ว่าหลายคนอาจคิดว่าการทักทายทั่วไปในสเปนคือการจูบแก้ม2ข้าง แต่วัฒนธรรมนี้มักจะใช้สำหรับเพื่อนสนิทและครอบครัวเท่านั้น ในสภาพแวดล้อมที่เป็นทางการหรือสภาพแวดล้อมในการทำงาน การจับมือถือเป็นการทักทายที่เหมาะสมกว่า และเมื่อเข้าไปในสถานที่นัดหมายเช่นที่ประชุม ควรมีการสื่อสารด้วย eye contact กับทุกๆคน

 

จริงๆ แล้ววิธีการทักทายในสเปนมักจะขึ้นอยู่กับเพศของคนที่พบปะกันซึ่งหากเป็นชายกับชาย มักจะจับมือกัน หรือ จะเป็นการลูบหลังตอนทักทายกันแบบกอดกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสนิทสนม หากเป็นชายกับหญิง มักจะทักทายด้วยการจูบแก้มสองข้าง และหากเป็นหญิงกับหญิง มักจะจับมือกัน

 

ตามข้อมูลในปี 2019 พบว่ามีพนักงานชาวสเปนร้อยละ 12 ที่รู้สึกไม่สบายใจในการใช้การจูบแก้มเป็นการทักทายเพื่อนร่วมงาน สาเหตุเนื่องมาจากการระบาดของโรค COVID 2019 และด้วยโลกที่เปิดกว้างพร้อมกับตลาดใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง กฎเกณฑ์การประชุมทางธุรกิจในสเปนก็กลายเป็นเรื่องที่ยืดหยุ่นมากขึ้นและไม่จำเป็นต้องยึดติดกับประเพณีสเปนอย่างเดียว โดยที่ชาวสเปนเข้าใจดีว่าไม่ควรบังคับให้ผู้บริหารชาวต่างชาติต้องทักทายด้วยจูบแก้ม การจับมือทักทายกันเลยเป็นทางเลือกที่เป็นสากลและเหมาะสมที่สุด

 

การสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวจากการทำธุรกิจจากลูกค้าจนกลายเป็นเพื่อนนั้นเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นหากมีความสนิทสนมกันแล้ว การทักทายก็จะมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น

 

 

การเรียกชื่อและการใช้คำนำหน้าในสเปน

ภาษาสเปนมีรูปแบบการเรียกฝ่ายตรงข้ามที่เป็นทางการคือ ‘Usted’ และไม่เป็นทางการคือ ‘Tú’ ซึ่งทั้งสองแบบนั้นแปลว่า ‘คุณ’  เพียงแต่การเลือกใช้รูปแบบใดขึ้นอยู่กับภาคธุรกิจ ให้ใช้การสังเกตว่าอีกฝ่ายเรียกคุณว่าอย่างไรจึงสามารถช่วยตัดสินใจได้คุณควรจะใช้รูปแบบใด หากไม่แน่ใจว่าควรใช้รูปแบบใด ควรใช้คำว่า ‘Usted’ เพราะมีความสุภาพและเป็นทางการมากกว่า ในภายหลังเมื่อมีความสนิทสนมกันแล้ว ชาวสเปนมักจะขอให้ใช้คำว่า ‘Tú’ มากกว่า ‘Usted’ เพื่อความเป็นกันเองในการทำงาน

 

นอกจากนั้นสามารถแทนฝ่ายตรงข้ามได้ว่า“Señor” ซึ่งใช้สำหรับผู้ชาย และ “Señora”  ซึ่งใช้สำหรับผู้หญิง (เหมือนกับ Mr. หรือ Mrs. ในภาษาอังกฤษ) และตามด้วยชื่อและนามสกุล ชาวสเปนมักจะมีชื่อแรกสองชื่อและมีนามสกุลสองนามสกุล ซึ่งนามสกุลแรกเป็นนามสกุลของพ่อ ส่วนนามสกุลที่สองเป็นนามสกุลของแม่ ซึ่งคุณควรเรียกชาวสเปนด้วยชื่อทั้งสอง เช่น Juan Carlos Garcia ซึ่งถึงแม้ว่า Carlos จะเป็นชื่อกลาง แต่คุณควรเรียกทั้งสองชื่อ ส่วนนามสกุลนั้น แนะนำให้เรียกทั้งสองนามสกุลเว้นแต่จะได้รับคำแนะนำให้ละทิ้งนามสกุลใดนามสกุลหนึ่ง

 

 

ศิลปะการในการสนทนากับชาวสเปน

โดยปกติแล้วการสนทนาในหัวข้อสบายๆหรือการพูดคุยเล่นมักเกิดขึ้นก่อนที่จะพูดถึงธุรกิจ หัวข้อสนทนาที่เหมาะสม ได้แก่ เรื่องราวเกี่ยวกับประเทศบ้านเกิดของคุณเอง, ฟุตบอลสเปน, และฟลาเมงโก คุณสามารถถามเกี่ยวกับครอบครัวของชาวสเปนได้เพราะเรื่องส่วนตัวแทบไม่ถือเป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับการสนทนากับชาวสเปน แต่อย่างไรก็ตามคุณไม่ควรเข้าสู่รายละเอียดส่วนตัวอย่างลึกจนเกินไปจนกว่าคู่สนทนาชาวสเปนจะเริ่มก่อน ดีที่สุดคือปล่อยให้พวกเขาเริ่มการสนทนาประเภทนั้นก่อน

 

หัวข้อที่ควรหลีกเลี่ยงในการสนทนาคือเรื่องเกี่ยวกับการเมือง (เช่น การก่อการร้าย, การอพยพ, การต่อสู้วัวกระทิง และการเปรียบเทียบภูมิภาคต่างๆ ในสเปน เช่น มาดริดกับบาร์เซโลนา เนื่องจากประเด็นเหล่านี้มักมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างหนักในสเปน หรือแม้แต่ประเด็นที่แสดงถึงความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมหรือค่านิยมของอเมริกันและสเปน เพราะชาวสเปนให้ความสำคัญกับเกียรติยศและความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมสเปน ทั้งนี้ ชาวสเปนมีความภาคภูมิใจในอาหารและไวน์ของตัวเองมาก คุณควรระวังอย่าแสดงความไม่เห็นด้วยเรื่องในนี้ ดังนั้นควรที่จะหลีกเลี่ยงการดูถูกหรือการกระทำใดๆที่อาจกระทบต่อศักดิ์ศรีของชาวสเปน

 

ถึงแม้ว่าวัฒนธรรมของชาวสเปนนั้นจะให้ความสำคัญกับเกี่ยวกับเรื่องความภาคภูมิใจในตนเอง แต่คุณควรหลีกเลี่ยงการพูดเกี่ยวกับความสำเร็จทางธุรกิจของคุณมากจนไปเพราะอาจทำให้ชาวสเปนมองว่าคุณเป็นคนโอ้อวดได้

 

การใช้อารมณ์ขันหรือมุกตลกถือเป็นสิ่งที่ดีในการช่วยให้บรรยากาศมีความผ่อนคลายแต่ต้องระมัดระวังไม่ให้เกินเลยจนทำให้ผู้สนทนาไม่สบายใจหรือรู้สึกถูกดูหมิ่นได้

 

ในบางครั้งชาวสเปนมักจะเคยชินกับการพูดด้วยเสียงที่ค่อนข้างดัง หากเพื่อนร่วมงานชาวสเปนของคุณพูดด้วยเสียงที่ดังกว่าปกติ พวกเขาอาจจะไม่ได้กำลังโกรธ เพียงแต่การพูดเสียงดังเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมสเปน

 

เมื่อพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานชาวสเปน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องงาน ควรหลีกเลี่ยงการตอบปฏิเสธโดยตรง ตัวอย่างเช่น หากมีใครถามความคิดเห็นของคุณเกี่ยวกับไอเดียที่พวกเขาเสนอ ให้หลีกเลี่ยงการตอบว่า “ฉันไม่เห็นด้วย” หรือ “ฉันคัดค้าน” แทนที่จะใช้วิธีนั้น คุณควรเริ่มต้นด้วย “ตามที่ฉันเห็น…” และชี้ให้เห็นถึงด้านบวกของไอเดียก่อนที่จะเสนอข้อเสนอใหม่ หากคุณจำเป็นต้องแสดงความไม่เห็นด้วยโดยตรง พยายามใช้คำพูดที่อ่อนโยน เช่น “ด้วยความเคารพทั้งหมด…” หรือ “ฉันอาจจะผิด แต่…” นอกจากนั้น การใช้ไวยากรณ์อย่างถูกต้องมีความสำคัญมากในภาษาสปนโดยเฉพาะในเชิงการทำงาน

 

หลายบริษัทในสเปนมีพนักงานที่พูดภาษาอังกฤษได้ในระดับที่ดี แต่การเริ่มต้นด้วยภาษาสเปนอาจเป็นวิธีที่ได้ผลมากกว่า หากคุณต้องการนำเสนอธุรกิจหรือขายสินค้าให้กับชาวสเปน การใช้ภาษาสเปนสื่อสารกับชาวสเปนจะได้ผลมากกว่า

 

 

การใช้ภาษากายในการสื่อสารกับชาวสเปน

ด้วยความที่ชาวสเปนส่วนใหญ่แล้วจะมีความเป็นกันเอง ชาวสเปนเลยมักจะใช้การแสดงออกทางร่างกายได้อย่างชัดเจนเมื่อสนทนาเพื่อแสดงความรู้สึกต่างๆ โดยที่จะมีการใช้ท่าทางหลากหลายรูปแบบในระหว่างการสนทนา แต่ชาวสเปนจะไม่ยืนใกล้คุณจนทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ แต่บางครั้งอาจะมีการสัมผัสที่ใกล้ชิดแทน เช่น การเอื้อมมือมาแตะที่แขนหรือไหล่ของคุณขณะพูดคุย ดังนั้นให้สังเกตสัญญาณที่ไม่ใช่คำพูดเพื่อจับความรู้สึกของคู่สนทนา

 

ในการสนทนาทางธุรกิจกับชาวสเปน Eye Contact มีความสำคัญมากในระหว่างสนทนา แต่ถ้าสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย การใช้ท่าทางต่างๆ หรือแสดงออกด้วยการส่งเสียงตอบรับหรือคำอุทานเพื่อแสดงให้เห็นว่าเรากำลังให้ความสนใจก็ได้ ในการสนทนา

 

 

การสร้างความสัมพันธ์ในภาคธุรกิจ: ปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จในการเจรจากับชาวสเปน

ในวัฒนธรรมธุรกิจของสเปน การสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ชาวสเปนมักจะเลือกทำงานกับคนที่เขารู้จักและเชื่อใจได้ ชาวสเปนชอบพบปะกันหน้าต่อหน้าเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นกันเองนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านการรับประทานอาหารกลางวันและอาหารเย็นและการพบปะสังสรรค์ในหลากหลายรูปแบบ แม้ว่าการโทรศัพท์หรือการส่งอีเมลอาจช่วยสร้างความสัมพันธ์ได้​บ้าง แต่การติดต่อกันแบบต่อหน้าก็ยังมีความสำคัญมากกว่าการสื่อสารผ่านรูปแบบอื่นๆ

 

ในการทำงาน คุณอาจพบว่าชาวสเปนกระตือรือร้นที่จะรู้จักคุณมากขึ้น โดยที่ชาวสเปนอาจมีการถามคำถามเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวและครอบครัวของคุณ แม้ว่าบางคำถามอาจดูเป็นการถามคำถามมีความเป็นส่วนตัวและตรงไปตรงมา แต่นี่เป็นการสร้างความสัมพันธ์แบบชาวสเปน และชาวสเปนก็คาดหวังว่าคุณจะถามคำถามเหล่านี้กลับไปเช่นกัน บางครั้งการมีความเชื่อมต่อกันผ่านเรื่องราวส่วนตัวหรือความสัมพันธ์ทางสังคมก็ช่วยให้การเจรจาง่ายขึ้น เช่น อาจบอกว่า “ปู่ของฉันเคยรู้จักกับปู่ของคุณ” เป็นต้น การใช้มุขตลกก็เป็นวิธีที่ดีในการสร้างความสนิทสนมอย่างรวดเร็ว

 

การติดต่อกับคู่ค้าชาวสเปนอย่างสม่ำเสมอจะแสดงถึงความใส่ใจและความสนใจของคุณในความสัมพันธ์ทางธุรกิจ พยายามเปิดเผยและพูดคุยกับชาวสเปนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะบุคลิกที่มีเสน่ห์ของคุณสามารถช่วยสร้างความไว้วางใจได้ ความประทับใจที่คุณทิ้งไว้กับชาวสเปนอาจมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจทางธุรกิจของชาวสเปนมาก ตัวอย่างเช่น หากคุณมีข้อเสนอที่ดี แต่ชาวสเปนไม่ชอบท่าทางของคุณ พวกชาวสเปนไม่รับข้อเสนอนั้น หากมีการพิจารณาการเลื่อนตำแหน่ง ส่วนมากชาวสเปนจะพิจารณาจากลักษณะนิสัยส่วนบุคคลมากกว่าความสามารถเฉพาะทางเทคนิค

 

เช่นเดียวกันกับการเจรจาด้านธุรกิจของชาวสเปน หากคุณคาดหวังว่าจะชนะการเจรจาเพียงเพราะมีข้อมูลสถิติหรือข้อมูลที่ดีที่สุด อาจไม่เหมาะกับการเจรจาในประเทศนี้ การแสดงความสนใจอย่างจริงใจและการสร้างความไว้วางใจมีความสำคัญเป็นอันดับแรก และนี่คือสิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์ในโลกธุรกิจเป็นระยะยาวกับชาวสเปน และถือเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้การเจรจาของคุณประสบความสำเร็จ

 

 

สิ่งที่ควรทราบในการเจรจารกับชาวสเปน

ตามคู่มือการเจรจาต่อรองธุรกิจระหว่างประเทศของ Lothar Katz กล่าวไว้ว่า การมีทัศนคติที่เป็นบวกและมุ่งมั่นเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการชนะความเคารพจากผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจรอบข้าง การพูดจาตรงไปตรงมาเกินไปอาจถูกมองว่าเป็นการรุกรานและอาจทำให้การทำธุรกิจล้มเหลว รวมถึงส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือทางวิชาชีพของคุณ กระบวนการเจรจาต่อรองในสเปนมักจะใช้เวลานาน และการรีบร้อนในการเจรจาต่อรองจะทำให้โอกาสในการบรรลุข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายพึงพอใจลดลง

 

ในการเจรจาต่อรองที่สเปน กระบวนการมักจะเป็นไปอย่างเปิดเผย โดยจะมีฝ่ายหนึ่งที่เป็นผู้นำในการเจรจา อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงที่เกิดขึ้นสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ และคุณต้องใจเย็นและติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อให้แน่ใจว่าทุกข้อผูกมัดนั้นมีการดำเนินการจริง และการทำธุรกิจกับชาวสเปนนั้น เป้าหมายของคุณควรเป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจในสเปนมากกว่าการนำเอาวัฒนธรรมการทำงานของคุณไปบีบบังคับให้ชาวสเปนทำตาม

 

หากกล่าวถึงการเจรจาภายในบริษัทเอง คุณต้องพิจารณาโครงสร้างองค์กรที่เข้มงวด นั่นหมายความว่าคุณจะต้องพูดคุยกับหัวหน้าของคุณเสมอ และไม่ควรไปติดต่อโดยตรงกับผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจสุดท้ายหากว่าเขาอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่า

 

 

การจัดการประชุม

หากถามชาวต่างชาติว่าการประชุมในสเปนเป็นอย่างไร คำตอบที่พบบ่อยที่สุดก็คือ “วุ่นวาย” การประชุมในสเปนไม่เหมือนที่อื่นๆที่คุณอาจเคยเจอ ซึ่งการประชุมที่นี้ไม่ใช่แค่การมานั่งหารือกันเพื่อแก้ปัญหาหรือสื่อสารการตัดสินใจที่เร็วที่สุด การประชุมที่นี่มีมากกว่านั้นมาก

 

การประชุมที่สเปนมักจะเริ่มด้วยการพูดคุยเรื่องส่วนตัวหรือครอบครัว สำหรับคนที่มาจากประเทศอื่นหรือวัฒนธรรมอื่น บางทีคุณอาจรู้สึกว่าเสียเวลาเพราะไม่ได้เจาะจงพูดถึงหัวข้อการประชุมตลอดเวลา แต่การสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นแบบนี้เป็นส่วนสำคัญในการทำงานที่ประเทศนี้ ส่วนใหญ่การประชุมไม่ได้เน้นการสร้างไอเดียร่วมกันมากนัก โดยวัตถุประสงค์หลักของการประชุมจะเป็นการสื่อสารของผู้บริหารระดับสูงที่ใช้เพื่อชี้แจงการตัดสินใจที่ได้ตัดสินใจไว้แล้วและสื่อสารคำสั่งไปยังลูกน้อง คุณไม่ควรคาดหวังว่าการประชุมในสเปนจะเป็นไปอย่างเคร่งคัด เพราะการประชุมอาจจะไม่ได้ดำเนินไปอย่างเป็นขั้นตอนมากนัก ปัญหาต่างๆมักจะถูกหยิบขึ้นมาพูดตามสถานการณ์ และอาจะมีการตัดข้ามไปที่ประเด็นอื่นบ้าง เพราะฉะนั้นคุณควรระมัดระวังในการทำให้การประชุมนั้นเป็นโครงสร้างหรือเป็นระเบียบอย่างเคร่งคัดจนเกินไป เพราะอาจทำให้คุณดูเป็นคนที่ยึดติดกับกฎระเบียบซึ่งแตกต่างกับมุมมองความคิดของชาวสเปน

 

ในขณะที่นำเสนอ บางครั้งเราอาจจะโดนพูดแทรกขึ้นมาได้ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ซึ่งอาจหมายความว่าผู้อื่นสนใจในสิ่งที่คุณพูดเลยมีการโต้ตอบกลับด้วย เราจึงควรเตรียมตัวในการรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ การนำเสนอควรละเอียดและครบถ้วน และควรนำเอกสารที่เกี่ยวกับบริษัทมาด้วย การเจรจาต่อลองมักจะใช้ค่อนข้างใช้เวลานาน และส่วนใหญ่แล้วชาวสเปนจะให้คู่ค้าเป็นผู้สนทนาและนำเสนอก่อน เวลาสื่อสารกับนักธุรกิจชาวสเปน เราควรที่จะหลีกเลี่ยงการพูดซ้ำๆในเรื่องเดิมและการถามถามคำถามในช่วงสุดท้ายของการนำเสนอ นอกจากนั้นยังควรหลีกเลี่ยงการพูดจาเชิงท้าทายและการพูดโอ้อวดถึงความสำเร็จของตัวเอง ควรมีความเข้าใจกันด้วยวาจาก่อนที่จะลงนามในสัญญาอย่างเป็นทางการ

 

 

รูปแบบของบทบาทผู้นำในสเปน

รูปแบบของบทบาทผู้นำในสเปนมักจะมีลักษณะการบริหารงานโดยทีมผู้บริหารระดับสูงในแบบที่มีการตัดสินใจแบบรวมศูนย์ทำให้พนักงานระดับล่างมักไม่มีอำนาจในการมีอิทธิพลมากนัก ในอดีตนั้นการที่พนักงานระดับล่างมีการออกความคิดเห็นจะถูกมองว่าเป็นการ ‘ล้ำเส้น’ สืบเนื่องมาจากแนวคิดที่ว่า “คุณควรจะทำหน้าที่ของคุณเท่านั้น” การทำเกินกว่าที่กำหนดไว้ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง แต่แนวโน้มนี้กำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหากพนักงานระดับล่างมีความคิดริเริ่มใหม่ๆที่ดีและมีประสิทธิภาพ

 

อย่างไรก็ตาม บริษัทหลายแห่งในสเปนกำลังนำวัฒนธรรมการทำงานที่จะนำให้บริษัทก้าวไปสู่รูปแบบที่เปิดกว้างกว้างและเสริมสร้างอำนาจให้กับพนักงานทุกระดับมากขึ้น โดยที่ผู้นำในบริษัทต้องเป็นผู้ที่มีความแข็งแกร่งและเด็ดเดี่ยว ด้วยเหตุนี้พนักงานส่วนใหญ่ในสเปนจึงให้ความสำคัญกับทักษะด้านการสื่อสารระหว่างบุคคลหรือทักษะทางอารมณ์ เช่น ความยืดหยุ่นหรือความเป็นผู้นำมากกว่าประสบการณ์หรือความรู้ทางเทคนิค การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะช่วยทำให้สภาพแวดล้อมการทำงานในสเปนมีความมีชีวิตชีวาและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกคนมากขึ้น และช่วยให้พนักงานทุกระดับสามารถรู้สึกได้ว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจและมีอิทธิพลต่อองค์กรที่พวกเขาทำงานอยู่

 

 

การจัดการเวลาของชาวสเปน

ในวัฒนธรรมธุรกิจของสเปน การมาตรงต่อเวลาถือเป็นสิ่งสำคัญในเชิงธุรกิจเพื่อรักษาความเป็นมืออาชีพ อย่างไรก็ตาม การมาสายเป็นเรื่องที่ถือว่ายอมรับได้ แม้ว่าชาวสเปนส่วนใหญ่จะพยายามมาถึงตรงเวลาสำหรับการประชุมทางธุรกิจ คุณก็อาจต้องรอเพื่อนร่วมงานบางคนที่มาสาย เพราะฉะนั้นคุณควรปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ พร้อมทั้งเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเริ่มและจบการประชุมที่อาจช้ากว่ากำหนดเล็กน้อย (ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ ในยุโรปโดยเฉพาะยุโรปทางเหนือนั้นให้ความสำคัญต่อการมาตรงเวลาเป็นอย่างมาก)

 

 

เวลาในการทำงาน

ในสเปน ตำแหน่งงานเต็มเวลามักจะมีชั่วโมงการทำงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยส่วนใหญ่เริ่มงานระหว่างเวลา 8.00 น. ถึง 9.00 น. ช่วงพักเที่ยงเวลาของสเปนคือ 14.00 น. โดยมีระยะเวลา 1 ถึง 2 ชั่วโมง และถึงแม้ว่าช่วงพักเที่ยงจะเป็นหนึ่งในช่วงพักที่สำคัญที่สุดของวัน แต่ก็ไม่ใช่ช่วงพักเพียงช่วงเดียวที่มีความสำคัญ ยังมีองค์ประกอบสำคัญอีกอย่างในวัฒนธรรมธุรกิจของสเปน นั่นคือช่วงพักดื่มกาแฟซึ่งอาจเป็นการทานอาหารเช้าที่ร้านกาแฟหรือหยุดพักสั้นๆ 15 นาทีเพื่อพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตาม บางคนอาจใช้เวลานี้ไปพบปะเพื่อนนอกสถานที่ทำงานหรืออาจจะจัดการประชุมกัน วันทำงานมักจะจบลงที่ประมาณ 18.00 น. หรือ 19.00 น. แต่ถือเป็นเรื่องปกติที่จะมีพนักงานอยู่ทำงานต่อในออฟฟิศจนถึง 20.00 น. หรือหลังจากนั้น

 

แม้ว่าบริษัทในสเปนโดยทั่วไปจะเปิดทำการตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ แต่ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2564 รัฐบาลสเปนได้มีการตกลงที่จะทดลองลดชั่วโมงการทำงานในหนึ่งสัปดาห์ลงเหลือสี่วัน แม้ว่ามาตรการนี้จะถูกนำมาใช้เพื่อลดการสัมผัสในช่วงที่มีโรคระบาด COVID-19 แต่การทดลองนี้กลับได้ผลลัพธ์ที่เป็นบวก เช่น การขาดงานของพนักงานลดลง ทำให้การทำงาน 32 ชั่วโมงต่อสัปดาห์กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับหลายๆบริษัทแม้การระบาดของโรค COVID 19 จะสิ้นสุดลงแล้วก็ตาม นอกจากนี้บางบริษัทยังมีนโยบายให้พนักงานเลิกงานหลังจากพักเที่ยงในวันศุกร์และลดชั่วโมงการทำงานในช่วงฤดูร้อน (เช่น ทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 3 โมงบ่าย) สำหรับเรื่องการนอนหลับระหว่างวันหรือ ‘siesta’ ที่หลายคนอาจคิดว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของวันทำงาน แต่จริงๆแล้วเป็นกิจกรรมที่คนส่วนใหญ่ทำในวันหยุดเท่านั้น ไม่ใช่ในวันทำงาน

 

อีกสิ่งสำคัญที่ทำให้ชาวสเปนมีความพิเศษ คือ วิถีการดำเนินชีวิตแบบ Work Life Balance อย่างมีความสุข โดยพวกเขาจะให้ความสำคัญกับช่วงเวลาส่วนตัวในการพบปะสังสรรค์ครอบครัว ญาติมิตร หรือทำกิจกรรมอย่างออกกำลัง ท่องเที่ยว และใช้เวลาวันหยุดของตนเอง รวมถึงเสาร์ อาทิตย์ ทุกสุดสัปดาห์อย่างเต็มที่ และจะไม่นิยมรบกวนเกี่ยวกับงานในเวลาพักผ่อน รวมทั้งจะพยายามหลีกเลี่ยงการสนทนาเรื่องงานกับเพื่อนในช่วงเวลาสังสรรค์ผ่อนคลาย

 

 

การรับประทานอาหารกลางวัน เสาหลักสำคัญของธุรกิจ

ในสเปน การรับประทานอาหารกลางวันไม่ได้เป็นเพียงแค่การรับประทานอาหารเท่านั้น แต่เป็นถึงส่วนสำคัญของวันทำงาน เพราะช่วงพักกลางวันเป็นเวลาที่ใช้สำหรับนัดพบปะกับลูกค้าในร้านอาหารเพื่อพูดคุยเรื่องธุรกิจ การได้นั่งรับประทานอาหารอร่อยๆ กับลูกค้าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและมิตรภาพได้เป็นอย่างดี บางครั้งการได้ลิ้มลองรสชาติอาหารอร่อยๆอาจมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการพูดคุยเรื่องธุรกิจเลยทีเดียว อีกทั้งมื้อกลางวันยังเป็นโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานที่ช่วยให้ทุกคนในทีมผ่อนคลายและรู้จักกันมากขึ้น ด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงไม่เป็นเรื่องน่าแปลกใจที่ช่วงเวลาสำหรับมื้ออาหารกลางวันในวันทำงานอาจยาวนานถึงสองชั่วโมง

 

 

มื้ออาหารเพื่อธุรกิจ

การรับประทานอาหารกลางวันเพื่อธุรกิจมักจะจัดขึ้นเพื่อฉลองการปิดดีล หารือเกี่ยวกับแนวคิด หรือสร้างความรู้จักกับคู่ค้า แต่ไม่ได้ใช้สำหรับการพูดคุยเรื่องธุรกิจโดยตรง หากคุณต้องการพูดคุยเรื่องธุรกิจในระหว่างมื้ออาหาร คุณควรแจ้งให้คู่ค้าชาวสเปนทราบล่วงหน้าเพื่อให้พวกเขาเตรียมตัวพูดคุยเรื่องนั้นกับคุณได้ เนื่องจากช่วงเวลามื้ออาหารในสเปนมักถูกมองว่าเป็นช่วงเวลาสำหรับการพักผ่อนและเพลิดเพลินมากกว่าการปิดดีล

 

โดยทั่วไปแล้ว หากชาวสเปนต้องการที่จะต้อนรับคุณอย่างเป็นดี ชาวสเปนมักจะเชิญคุณไปรับประทานอาหาร โดยผู้ที่เชิญคือผู้ที่จ่ายมื้ออาหารนั้น ชาวสเปนจะไม่ค่อยมีการแบ่งค่าใช้จ่ายกันในมื้ออาหาร และหากคุณได้รับเชิญไปรับประทานอาหารแล้ว คุณควรเชิญชาวสเปนกลับในมื้อต่อไป (เมื่อรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนใหญ่แล้วจะมีการให้ทิปอยู่ที่ประมาณ 5% ของมื้ออาหาร)

 

 

วันหยุดราชการ

ปีใหม่ 1 มกราคม
เทศกาล Epiphany (วันราชา) 6 มกราคม
Good Friday วันศุกร์ก่อนวันอีสเตอร์ (มีนาคม/เมษายน)
วันแรงงาน 1 พฤษภาคม
วันสมโภชแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ 15 สิงหาคม
วันชาติ (Día de la Hispanidad) 12 ตุลาคม
วันสมโภชนักบุญ 1 พฤศจิกายน
วันรัฐธรรมนูญ 6 ธันวาคม
วันสมโภชแม่พระผู้ปฏิสนธินิรมล 8 ธันวาคม
วันคริสต์มาส 25 ธันวาคม
วันนักบุญสตีเฟ่น 26 ธันวาคม

 

วันหยุดธนาคารและวันหยุดของพนักงาน

การสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานเป็นเรื่องสำคัญในสเปน และวันหยุดธนาคาร (festivos) ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของสมดุลนั้น วันหยุดธนาคารมักจะเป็นการหยุดเพื่อฉลองเหตุการณ์ทางศาสนาหรือชาติ และมักจะถูกกำหนดไว้ในวันที่เฉพาะเจาะจง ไม่ว่าจะเป็นวันใดของสัปดาห์ (ไม่เหมือนในประเทศอื่นที่มักจะเป็นวันจันทร์หรือวันศุกร์)  ยกตัวอย่างเช่น หากวันหยุดธนาคารตรงกับวันอังคาร พนักงานส่วนใหญ่จะเลือกใช้วันลาประจำปีในวันจันทร์เพื่อให้สามารถหยุดพักจากวันเสาร์ถึงวันอังคาร ซึ่งการหยุดแบบนี้จะเรียกว่า “puente” (หมายถึง ‘สะพาน’ ในภาษาสเปน นอกจากนี้ พนักงานชาวสเปนที่มีสิทธิ์ได้รับวันหยุดพักผ่อนประจำปีเฉลี่ย 30 วัน นอกจากนั้น ตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นมา สเปนได้กำหนดให้วันหยุดลาคลอดบุตรและลาบิดามารดาเป็นเวลา 16 สัปดาห์สำหรับทั้งสองฝ่าย

 

 

ช่วงเวลาที่บริษัทปิดทำการ

ช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคมถึง 6 มกราคม
ช่วงพักร้อนฤดูร้อน เดือนสิงหาคม
ช่วงสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ ตั้งแต่วันพฤหัสบดีถึงวันอาทิตย์ของเทศกาลอีสเตอร์

 

เวลาทำการของสถานที่ต่างๆ

ร้านค้าต่างๆในทุกๆเดือนจะปิดช่วงบ่ายระหว่าง 14.00 น. ถึง 16.00 น. และปิดช่วงเย็นประมาณ 20.00 น. (22.00 น. สำหรับซูเปอร์สโตร์/ไฮเปอร์มาร์เก็ต)  ยกเว้นในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมที่จะปิดเวลา 15.00 น. และธนาคารปิดทำการเวลา 14.00 น.ร้านส่วนใหญ่ก็จะปิดช่วงบ่ายวันเสาร์และวันอาทิตย์ (ยกเว้นแบรนด์ใหญ่ที่ปิดเฉพาะวันอาทิตย์) ถึงแม้ว่าการนอนกลางวัน  หรือที่เรามักจะรู้จักกันว่า ‘Siesta’ ที่เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของวิถีชีวิตชาวสเปน แต่ปัจจุบันสเปนไม่ได้ปิดกิจการทั้งหมดในช่วงบ่ายเหมือนที่เราเคยเข้าใจกัน

 

ธุรกิจหลายแห่งมักจะชะลอลงหรือปิดให้บริการจากวันที่ 24 ธันวาคมถึงวันที่ 8 มกราคม และในเดือนสิงหาคม ดังนั้นการเจรจากับบริษัทสเปนจึงควรวางแผนให้เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าที่อาจเกิดขึ้น

 

 

การให้ของขวัญ

ในการพบปะครั้งแรกควรหลีกเลี่ยงการให้ของขวัญเนื่องจากการให้ของขวัญที่ก่อนที่จะมีการทำข้อตกลงกันอย่างเป็นทางการอาจถูกมองว่าเป็นการติดสินบนโดยเฉพาะของขวัญที่มีราคาแพงหรือหรูหรา ซึ่งการให้ของขวัญในการพบปะครั้งต่อๆไปจะเป็นที่นิยมมากกว่า  ทางที่ดีที่สุดคือควรรอให้หลังจากการเจรจาที่ประสบความสำเร็จก่อนจึงค่อยให้ของขวัญกับชาวสเปน คุณควรให้ความสำคัญกับคุณภาพของของขวัญและห่อด้วยความประณีต โดยของขวัญที่มักจะได้รับความชื่นชมจากชาวสเปนจะไม่ใช่ของที่มีราคาสูงหรือหรูหรา แต่ของขวัญที่ได้รับความนิยมส่วนมากจะเป็นประเภทของที่ระลึกประจำถิ่นจากประเทศนั้นๆ หรือของขวัญประเภทของแต่งโต๊ะทำงานหรือปากกาที่มีคุณภาพดี ข้อควรระวังคือไม่ควรให้ของขวัญที่มีความหรูหราเกินไปเพราะอาจถูกมองว่าไม่เหมาะสม ในกรณีที่คุณได้รับของขวัญจากชาวสเปน คุณควรเปิดของขวัญนั้นทันทีและกล่าวคำขอบคุณ (Gracias!) ต่อหน้าผู้ให้เพื่อแสดงความเคารพและขอบคุณ ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่ หลายบริษัทในสเปนมักจะมอบของขวัญเป็นตะกร้าอาหารและเครื่องดื่มคุณภาพดีให้กับพนักงาน และยังนิยมจัดงานเลี้ยงฉลองในร้านอาหารที่มีความหรูหรา นอกจากนั้นบางบริษัทในสเปนยังส่งกระเช้าของขวัญ ไวน์หรือแชมเปญให้ลูกค้าสำคัญในช่วงนี้ด้วย

 

 

การแต่งกาย

ระเบียบแต่งกายในสเปนขึ้นอยู่กับประเภทของบริษัท ในสำนักงานกฎหมายหรือบริษัทที่ปรึกษาที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เรามักจะเห็นพนักงานผู้ชายสวมสูทและผูกไท้ ในขณะที่ผู้หญิงจะสวมชุดเดรส กางเกงขายาว และชาวสเปนจะหลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่ “ฉูดฉาด” หรือ “แสบสัน” เช่น สีสันสดใส อัญมณีขนาดใหญ่ หรือลวดลายที่โดดเด่น เพราะสิ่งเหล่านี้อาจลดความน่าเชื่อถือลงได้ การแต่งตัวในที่ทำงานของสเปนโดยทั่วไปค่อนข้างเป็นทางการและคลาสสิก แต่ถ้าเปรียบเทียบกับประเทศอื่นในสหภาพยุโรป ชาวสเปนให้ความสำคัญกับการแต่งตัวและการดูแลรูปลักษณ์อย่างมากเพื่อรักษาภาพลักษณ์ให้ดูดีในสายตาผู้อื่น แต่อย่างไรก็ตาม มุมมองเรื่องการแต่งกายกำลังเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ปัจจุบัน ในเมืองใหญ่ๆ เช่น บาร์เซโลนาและมาดริด หรือในอุตสาหกรรมที่มีวิธีการทำงานที่ทันสมัยกว่า อาจไม่จำเป็นต้องแต่งกายอย่างเป็นทางการ เช่น หลายบริษัทเทคโนโลยีหรือบริษัทสตาร์ทอัพ ได้ยกเลิกนโยบายเกี่ยวกับการแต่งกายและอนุญาตให้พนักงานสวมใส่สิ่งที่ต้องการ  แต่อย่างไรก็ตาม การแต่งตัวให้ดูดีก็ยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับชาวสปน ดังนั้น เมื่อทำธุรกิจในสเปน จึงแนะนำให้แต่งตัวให้ดูดีและเรียบร้อยเสมอ

 

หากคุณได้รับเชิญไปงานสังสรรค์ที่ระบุว่า “เป็นทางการ” การแต่งกายก็ควรที่จะเป็นทางการเช่นกัน เช่น ชุดทักซิโด้สีดำสำหรับผู้ชายและชุดค็อกเทลสำหรับผู้หญิง สีที่เลือกใส่ควรเป็นสีที่เป็นทางการ เช่น สีดำหรือสีเข้ม และผู้หญิงควรมีการแต่งหน้าจัดและทรงผมอย่างมืออาชีพ

 

 

นามบัตร

นามบัตรจำเป็นที่จะต้องมีความเป็นมืออาชีพและควรนำเสนอในตอนเริ่มต้นของการประชุม ที่สำคัญคือว่านามบัตรของคุณควรมีการแปลเป็นภาษาสเปนอย่างน้อยทางด้านใดด้านหนึ่ง

 

 

ภาษาในประเทศสเปน

แม้ว่าหลายคนอาจคิดว่าถ้าหากสามารถสื่อสารภาษาสเปนได้ก็สามารถย้ายไปทำงานที่สเปนได้อย่างสบาย แต่ความเป็นจริงแล้ว สเปนมีภาษาที่หลากหลายตามแต่ละพื้นที่ของประเทศ ตัวอย่างเช่น ในแคว้นกาตาลุนย่า หมู่เกาะบาเลียริก และบาเลนเซีย จะใช้ภาษากาตาลันเป็นภาษาหลัก แม้ว่าภาษากาตาลันจะมีความคล้ายคลึงกับภาษาสเปน แต่ก็มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างออกไป ส่วนในแคว้นกาลิเซียจะใช้ภาษากาลิเซียนเป็นภาษาหลักซึ่งมีความคล้ายคลึงกับภาษาโปรตุเกสและสเปนประสมกัน ส่วนในแคว้นบาสก์ ส่วนใหญ่จะใช้ทั้งสองภาษาคือภาษาบาสก์ (เอวสเกอรา) และภาษาสเปน โดยภาษาบาสก์เป็นภาษาที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้ยากต่อการเรียนรู้และเข้าใจ และนอกจากนี้ ภาษาอาราเนสยังเป็นภาษาราชการในสเปน ถึงแม้ว่าจะมีผู้พูดเพียง 3,000 คนในพื้นที่วัลดารันเท่านั้น หากคุณไม่พูดภาษาท้องถิ่น คนสเปนส่วนใหญ่จะเปลี่ยนมาพูดภาษาสเปนเมื่อคุยกับคุณ แต่จะดีกว่าหากคุณเรียนรู้คำศัพท์พื้นฐานบ้างเพื่อความสุภาพ

 

 

การสร้างเครือข่ายในสเปน

การสร้างเครือข่ายในสเปนเริ่มมีความเป็นดิจิทัลมากขึ้นเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆทั่วโลก โดยมีผู้เชี่ยวชาญเชื่อมต่อกันผ่านเว็บไซต์ระดับนานาชาติเช่น LinkedIn และ Xing นอกจากนั้นสเปนยังมีกลุ่มการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจในระดับชาติหลายกลุ่ม รวมถึง Business Network International และหอการค้าสเปน ซึ่งเป็นเครือข่ายธุรกิจใหญ่ที่สุดในประเทศมีองค์กรในท้องถิ่นหลายแห่ง

 

ผู้ที่สนใจเรื่องความเท่าเทียมทางเพศในที่ทำงานและการพัฒนาอาชีพสำหรับผู้หญิงสามารถติดต่อกับ Professional Women’s Network ที่มีสาขาในมาดริด, บาร์เซโลนา, และบิลเบา

 

ต้องระวังว่าในสเปนก็ยังคงมีบริษัทที่ยังอาจยังใช้วิธีการสร้างเครือข่ายแบบเดิมที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ทางสังคมหรืออาชีพที่มาจากความสัมพันธ์ในท้องถิ่น

 

การสร้างความสัมพันธ์ในสเปนนั้นขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพในการสนทนา ดังนั้นการพัฒนาทักษะการพูดภาษาสเปนจะช่วยให้คุณสร้างเครือข่ายได้สำเร็จง่ายขึ้น

 

 

สหภาพแรงงานในสเปน

สหภาพแรงงานในสเปนมีบทบาทสำคัญต่อภาคแรงงาน ด้วยการเป็นผู้แทนเรียกร้องสิทธิของคนงาน การเจรจาสัญญาร่วม และการแก้ไขปัญหาในสถานที่ทำงาน ประมาณหนึ่งในเจ็ดของคนงานในสเปนหรือราว 14% เป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน สหภาพแรงงานสององค์กรใหญ่ในสเปนคือ สหภาพแรงงานคอมมิชชันเวิร์กเกอร์ส (Comisiones Obreras, CCOO) และสหภาพแรงงานเจเนอรัล (Unión General de Trabajadores, UGT) ทั้งสององค์กรนี้มีประวัติอันยาวนานและมีอิทธิพลในการกำหนดนโยบายและความสัมพันธ์ด้านแรงงานในประเทศ

 

 

การจ่ายเงินพิเศษ

ในสเปน การจ่ายเงินเดือนโดยทั่วไปจะมีทั้งหมดสิบสี่งวด ประกอบด้วยเงินเดือนประจำที่จ่ายทุกเดือนสิบสองงวด และมีการจ่ายเงินพิเศษอีกสองงวดในเดือนกรกฎาคมและธันวาคม อย่างไรก็ดี วิธีการจ่ายเงินนี้อาจมีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละบริษัท ขึ้นอยู่กับข้อตกลงร่วมกันในแต่ละภาคส่วน

 

 

เกร็ดความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับสเปน

  • ชาวสเปนส่วนใหญ่ไม่ได้นอนหลับพักผ่อนช่วงกลางวันหรือที่เรียกว่า ‘ซีเอสตา’ (Siesta) จากการศึกษาพบว่ามีชาวสเปนถึง 60% ที่ไม่เคยนอนหลับพักผ่อนช่วงกลางวันเลย และพวกเขามักจะใช้เวลานี้ไปกับการรับประทานอาหารกลางวันแทน
  • สเปนขึ้นชื่อเรื่องวัฒนธรรมบาร์ที่คึกคัก
  • สเปนมีชายหาดยาวมากถึง 8,000 กิโลเมตร
  • สเปนมีแหล่งทองคำขนาดใหญ่และยังเป็นผู้ผลิตหินแกรนิตและหินอ่อนรายใหญ่ของโลก
  • ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 สเปนได้ให้ความเท่าเทียมในการสมรสสำหรับคู่รักเพศเดียวกัน

 

การทำธุรกิจกับชาวสเปนมีหลายสิ่งที่คุณควรให้ความสำคัญเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและประสบความสำเร็จในระยะยาว ก่อนอื่นควรศึกษาและเข้าใจวัฒนธรรมของสเปนโดยเฉพาะเรื่องของโครงสร้างองค์กรที่มีลำดับชั้นชัดเจน คุณควรเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการประชุมที่อาจเริ่มต้นด้วยการพูดคุยเรื่องส่วนตัวก่อนเข้าสู่หัวข้อทางธุรกิจ การทักทายควรใช้การจับมือในสภาพแวดล้อมทางวิชาชีพ และการใช้ภาษาสเปนหรือมีล่ามแปลภาษาติดตามจะช่วยให้การสื่อสารราบรื่นยิ่งขึ้น การเจรจาควรเป็นไปอย่างใจเย็นและหลีกเลี่ยงการพูดจาตรงไปตรงมามากเกินไป การให้ของขวัญควรทำหลังจากการเจรจาที่ประสบความสำเร็จและให้ความสำคัญกับคุณภาพของของขวัญ การสร้างเครือข่ายทางธุรกิจในสเปนสามารถทำได้ผ่านการพบปะหน้าต่อหน้า การรับประทานอาหารกลางวันเพื่อธุรกิจเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างความสัมพันธ์แต่ไม่ควรเร่งรีบพูดคุยเรื่องธุรกิจโดยตรง การแต่งกายควรเป็นทางการและดูดีเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ควรมีการจัดการเวลาที่ดีเพราะการมาสายเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ในวัฒนธรรมสเปน อย่างไรก็ตาม คุณควรพยายามไปตรงเวลาเพื่อแสดงถึงความเป็นมืออาชีพ สุดท้ายนี้ การปรับตัวและเข้าใจวัฒนธรรมการทำงานในสเปนจะช่วยให้คุณสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้าและประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจในประเทศนี้

 

 

แหล่งที่มาของข้อมูล

  1. ธนาคาร Santander
  2. สำนักงานกฎหมาย Balcells Group
  3. บริษัทอสังหาริมทรัพย์ Grupo Esmeralda
  4. thepolyglotgroup.com
  5. strongabogados.com

 

 

แหล่งที่มาของภาพ

  1. VentadeEmpresa.es
thThai