ความเปลี่ยนแปลงด้านทัศนคติและไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ในไต้หวัน ทำให้จำนวนเด็กเกิดใหม่มีน้อยลงทุกที โดยในปี 2566 ไต้หวันมีอัตราการเกิดต่ำที่สุดในโลก โดยมีจำนวนเด็กเกิดใหม่ 135,571 คน สวนทางกับจำนวนสัตว์เลี้ยง (สุนัขและแมว) ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจากสถิติของกระทรวงเกษตรไต้หวัน ในปี 2566 จำนวนสุนัขและแมวที่จดทะเบียนสัตว์เลี้ยงในไต้หวันมีจำนวนมากกว่า 230,000 ตัว โดยจำนวนสุนัขซึ่งขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงในไต้หวันมีจำนวนรวม 1.48 ล้านตัว และจำนวนแมวที่ขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงมีจำนวน 1.31 ล้านตัว โดยจำนวนการเลี้ยงแมวเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าการเลี้ยงสุนัข เนื่องจากแมวต้องการพื้นที่ในการเลี้ยงน้อยกว่าสุนัข ซึ่งสอดคล้องกับสภาพความเป็นอยู่ของชาวไต้หวันที่มักอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมที่มีพื้นที่จำกัด นอกจากนี้ ทุกๆ 3 ครัวเรือนในไต้หวัน จะมี 1 ครัวเรือนที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงในบ้าน โดยคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดรวมของสินค้าสัตว์เลี้ยงในไต้หวันมีมูลค่าประมาณ 66,000 ล้านบาทต่อปี
ไทยถือเป็นแหล่งนำเข้าสำคัญของไต้หวันในสินค้าสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะในส่วนของอาหารสุนัขและแมว (HS-Code: 230910) ซึ่งในปี 2566 ไต้หวันนำเข้าสินค้าอาหารสุนัขและแมวจากต่างประเทศคิดเป็นมูลค่ารวม 263.72 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยเป็นการนำเข้าจากไทยมากที่สุดคิดเป็นมูลค่า 87.18 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 33.05 ของการนำเข้าอาหารสุนัขและแมวทั้งหมด ล่าสุด ไต้หวันจัดงานแสดงสินค้าสัตว์เลี้ยง Taipei Pets Show 2024 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าสัตว์เลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน โดยในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-8 กรกฎาคม 2567 ณ อาคารแสดงสินค้า Taipei Nangang Exhibition Center Hall 1 ซึ่งงานในปีนี้มีจำนวนคูหามากถึง 1,800 คูหาจากจำนวนผู้ร่วมจัดแสดงประมาณ 400 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้ประกอบการต่างชาติ 21 รายจากเกาหลีใต้ สิงคโปร์ ไทย จีน และญี่ปุ่น และมีผู้เข้าชมงานประมาณ 160,000 ราย โดยเป็น Buyer ต่างชาติ ประมาณร้อยละ 10 ซึ่ง 10 อันดับแรกของประเทศ/พื้นที่ที่มีผู้มาเข้าชมงานมากที่สุด คือ ฮ่องกง มาเลเซีย จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ สหรัฐฯ ไทย อินโดนีเซีย และมาเก๊า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) โดย สคต. ณ กรุงมะนิลา (ส่วนที่ 2) ซึ่งรับผิดชอบตลาดไต้หวันจึงอาศัยโอกาสนี้ในการนำคณะผู้ส่งออกสินค้าสัตว์เลี้ยงของไทย 18 ราย มาร่วมจัดแสดงในงานแสดงสินค้า ในรูปแบบคูหาประเทศไทย ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้นำเข้าทั้งจากไต้หวันและต่างประเทศ
การที่ไทยเป็นแหล่งนำเข้าอาหารสัตว์เลี้ยงที่สำคัญลำดับที่ 1 ของไต้หวัน ทำให้มีผู้นำเข้าสนใจเจรจาธุรกิจกับผู้ส่งออกไทยในสินค้าทีเกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก และนอกจากอาหารสัตว์เลี้ยงแล้ว สินค้าไลฟ์สไตล์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของไทยก็ถือเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่มีศักยภาพในตลาดไต้หวัน เพราะสินค้ามีความสวยงามและดึงดูดสายตาผู้เข้าชมงาน อีกทั้งยังเข้ากับแนวคิดการบริโภคในสมัยใหม่ที่ชื่นชอบสินค้าที่มาจากวัตถุดิบธรรมชาติ ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคไต้หวันได้เป็นอย่างดี
ที่มา: Economic Daily News / Yahoo! News / Chan Chao (July 5-10, 2024)
ข้อเสนอแนะ/ความคิดเห็นของ สคต.
ในระหว่างการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า Taipei Pets Show ในครั้งนี้ สคต. ณ กรุงมะนิลา (ส่วนที่ 2) ได้เชิญผู้นำเข้ารายสำคัญมาเยี่ยมชมคูหาไทยและเจรจาธุรกิจกับผู้ส่งออกไทยในคูหา เช่น Pet Park, Bone Bone Store, Asia Pet รวมถึงเจ้าหน้าที่จัดซื้อจากไฮเปอร์มาเก็ตยักษ์ใหญ่ของไต้หวันทั้ง RT-Mart และ Carrefour และเชนสโตร์ที่เป็นร้านขายยาชื่อดังของไต้หวัน คือ Great Tree ซึ่งสินค้าไทยต่างก็ได้รับกระแสตอบรับจากผู้เข้าชมงานในปีนี้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในรูปแบบคูหาไทยทำให้สังเกตเห็นได้โดยง่าย ประกอบกับสินค้าไทยมีคุณภาพและได้รับการยอมรับอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้มีผู้ประกอบการทั้งไต้หวันและต่างชาติสนใจเข้ามาเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไทยเป็นจำนวนมาก
การเจรจาธุรกิจในครั้งนี้ ผู้ส่งออกไทยได้มีโอกาสเจรจากับผู้นำเข้าประมาณ 200 รายจากไต้หวัน ฮ่องกง ญี่ปุ่น อาเซียน ตะวันออกกลาง และฝรั่งเศส เป็นต้น โดยคาดว่าจะมีมูลค่าการสั่งซื้อมากกว่า 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี
Thai 
English 
Chinese 
Japanese 
German