ตลาดนมธัญพืชฝรั่งเศสขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

  • ตลาดนมธัญพืชในฝรั่งเศสเติบโตเพิ่มสูงขึ้นอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อการจัดวางพื้นที่สินค้าในห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ในอนาคต สินค้าที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด ได้แก่ นมอัลมอนด์คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของตลาดนมธัญพืชทั้งยอดขายและปริมาณ ถึงกระนั้นก็ตามในช่วงระยะเวลาสามปีที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์นมอัลมอนด์ไม่ได้รับการส่งเสริมด้านการตลาดเท่าที่ควรส่งผลให้ปริมาณการบริโภคเริ่มลดลงถึงแม้จะไม่มีการปรับขึ้นราคา ในขณะที่นมข้าวโอ๊ตซึ่งได้รับความนิยมเป็นอันดับที่สาม รองจากนมอัลมอนต์และนมถั่วเหลืองกลับมีการเติบโตด้วยตัวเลขสองหลัก
  • จากข้อมูลของบริษัทการตลาด Circana  ราคานมข้าวโอ๊ตปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 ในปี 2023 แต่ไม่ส่งผลต่อความนิยมในการบริโภคที่เพิ่มขึ้น โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมาอัตราการบริโภคขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 23    ซึ่งตรงกันข้ามกับผลิตภัณฑ์นมจากข้าวที่ความนิยมลดลงเป็นอย่างมาก แบรนด์ผู้ผลิตนมธัญพืชที่วางขายในฝรั่งเศส (แบรนด์ Bjorg บริษัท Ecotone, Alpro บริษัท Danone, Sojasun บริษัท Olga ex-Triballat Noyal และ Oatly จากสวีเดน) ต่างเล็งเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้และเริ่มส่งเสริมการพัฒนาสินค้านมข้าวโอ๊ตมากขึ้น
  • เป็นที่น่าสนใจว่า นอกเหนือจากอาหารเช้าที่ทำจากข้าวโอ๊ตชงในน้ำหรือนม (Porridge) จากแบรนด์ Quaker Oats และข้าวโอ๊ตที่คนฝรั่งเศสใช้เป็นอาหารม้าแล้ว  ผลิตภัณฑ์อาหารจากข้าวโอ๊ตชนิดอื่นๆไม่ได้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายฝรั่งเศส แต่เนื่องด้วยปัจจัยสนับสนุนหลายประการช่วยส่งเสริมให้สินค้าประเภทนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ได้แก่
    • ปัจจัยด้านราคา
    • ในส่วนของผู้ประกอบการ นาย Christophe Barnouin ผู้อำนวยการทั่วไปบริษัท Ecotone ของฝรั่งเศส(แบรนด์ Bjorg, Bonneterre)  กล่าวว่าราคาต้นทุนวัตถุดิบของข้าวโอ๊ตต่ำกว่าวัตถุดิบชนิดอื่น โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับการผลิตนมอัลมอนด์ที่ต้องใช้การนำเข้าวัตถุดิบ นอกเหนือจากนั้นราคาอัลมอนด์ในตลาดเพิ่มสูงขึ้นและมีราคาที่ไม่แน่นอน ส่งผลให้ผู้ประกอบการควบคุมต้นทุนการผลิตได้ยาก ข้าวโอ๊ตจึงมีความน่าสนใจมากกว่า
    • สำหรับในส่วนของผู้บริโภค จากเดิมนมธัญพืชมีราคาแพงกว่านมวัวถึงสามเท่า แต่เนื่องจากผู้ประกอบการปศุสัตว์วัวนมในประเทศเรียกร้องให้มีการปรับขึ้นราคาส่งผลให้ราคาต้นทุนนมวัวเพิ่มขึ้น เมื่อความแตกต่างระหว่างราคานมวัวและนมธัญพืชลดลงผู้บริโภคจึงเริ่มหันมาบริโภคนมธัญพืชมากขึ้น (นมข้าวโอ๊ต 2 ยูโร/ลิตร, นมถั่วเหลือง 1.75 ยูโร/ลิตร และนมวัว 1ยูโร/ลิตร)
    • คุณสมบัติของข้าวโอ๊ตตอบสนองความต้องการของทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี กล่าวคือ ข้าวโอ๊ตมีส่วนประกอบทั้งไฟเบอร์และโปรตีนสูง และสามารถนำมาใช้เป็นส่วนผสมร่วมกับวัตถุดิบธัญพืชชนิดอื่นๆได้เป็นอย่างดี เป็นส่วนประกอบอาหารได้ทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน ใกล้เคียงกับการใช้นมวัวซึ่งไม่ทำให้เสียรสชาติ ดังเช่นการนำมาใช้ชงกาแฟนม (Latte) ที่เป็นที่นิยม เนื่องจากสามารถตีขึ้นฟองได้เช่นเดียวกับนมวัวและไม่ทำให้รสชาติกาแฟเปลี่ยนแปลงไป จึงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภครุ่นใหม่
  • ด้วยคุณสมบัติที่กล่าวมาข้างต้นส่งผลให้แบรนด์ Oatly นมข้าวโอ๊ตจากสวีเดนต้องการขยายตลาดในฝรั่งเศสหลังจากที่เริ่มเข้าสู่ตลาดในช่วงหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา นาง Julie Duval ผู้อำนวยการแบรนด์ Oatly ฝรั่งเศสกล่าวว่า ฝรั่งเศสเป็นประเทศแห่งการบริโภคผลิตภัณฑ์จากนมวัว ซึ่งทำให้การขยายตลาดการบริโภคนมธัญพืชมีความท้าทายเป็นอย่างมาก โดยที่ส่วนแบ่งตลาดของ Oatly ยังคงต่ำกว่าร้อยละ 5 แต่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง  โดยในปี 2023 ผลประกอบการเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว เช่นเดียวกันกับในไตรมาสแรกของปี 2024 นี้
  • บริษัท Olga เจ้าของ  แบรนด์ Oatly เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กในปี 2021 ขายผลิตภัณฑ์สินค้าแปรรูปจากธัญพืชที่ผลิตมาจากข้าวโอ๊ต เพียงอย่างเดียวเท่านั้น โดยตลาดใหญ่ที่สุดอยู่ที่สหรัฐอเมริกา  ผลประกอบการทั่วโลกปี 2023 คิดเป็นมูลค่า 783 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • ถึงแม้ว่ามูลค่าตลาดนมจากธัญพืชทุกประเภทในฝรั่งเศส จะมีส่วนแบ่งตลาดเพียงร้อยละ 5 เท่านั้น (100 ล้านลิตร/ปี) เมื่อเทียบกับตลาดนมวัว (2 พันล้านลิตร/ปี) แต่มีปริมาณการบริโภคและยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละปี

ปริมาณการบริโภคปี 2022 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 ,ปี 2020 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 และร้อยละ 3.8 ในไตรมาสแรกของปี 2024 โดยยอดขายปี 2022 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.1 คิดเป็นมูลค่า 196 ล้านยูโร ,ปี 2023 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.7 (211 ล้านยูโร) และในไตรมาสแรกของปี 2024 ยอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3  (112 ล้านยูโร)  ในขณะที่การบริโภคนมวัวลดลง (ลดลงร้อยละ 3.2 ปี 2022, ลดลงร้อยละ 2.2 ปี 2023)

ความคิดเห็น สคต.

ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากธัญพืชที่วางขายในฝรั่งเศสมีความหลากหลาย ทั้งจากการแบ่งตามประเภทของผลิตภัณฑ์ (เครื่องดื่ม, นม, โยเกิร์ต ฯลฯ) และตามประเภทของวัตถุดิบ (อัลมอนด์, ถั่วเหลือง, ข้าวโอ๊ต, ข้าว,  มะพร้าว ฯลฯ) จากข้อมูลของ FranceAgrimer ตลาดผู้บริโภคสินค้าชนิดนี้เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ดี และเมื่อแบ่งตามช่วงอายุพบว่า ผู้บริโภคอายุต่ำกว่า 35 ปี นิยมสินค้าประเภทโยเกิร์ตหรือครีมธัญพืช ผู้บริโภคในช่วงอายุ 50-64 ปี นิยมสินค้าเครื่องดื่มธัญพืช ในขณะที่ผู้สูงอายุไม่ได้ให้ความสนใจต่อผลิตภัณฑ์ประเภทนี้แต่อย่างใด

แนวโน้มผลิตภัณฑ์อาหารที่ส่งเสริมการดูแลสุขภาพ ดังเช่นผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากธัญพืชยังมีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นอีกในฝรั่งเศส ดังนั้นผู้ประกอบการอาหารแปรรูปของไทยควรให้ความสำคัญในการสร้างสรรค์สินค้าที่เน้นจุดขายด้านสุขภาพเพิ่มมากขึ้น เช่น การลดปริมาณน้ำตาลหรือเกลือในผลิตภัณฑ์ ฯลฯ และเน้นการให้ข้อมูลบนฉลากที่ชัดเจน ซึ่งจะช่วยดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคและมีส่วนสำคัญในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคชาวฝรั่งเศสเป็นอย่างมาก

 ที่มาของข่าว    Marie-Josée Cougard

ข่าวจากหนังสือพิมพ์ออนไลน์ Les Echos

https://www.lesechos.fr/industrie-services/conso-distribution/letonnante-percee-du-lait-davoine-au-rayon-des-boissons-vegetales-2109123

thThai