งานแสดงสินค้าที่มีศักยภาพ: Copenhagen Fashion Week

Copenhagen Fashion Week (CPHFW) เป็นงานแสดงสินค้าและอีเว้นท์กลุ่มอุตสาหกรรมเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม รองเท้า และแฟชั่นที่ใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของเดนมาร์ก จัดขึ้นควบคู่กับงานแสดงสินค้า Copenhagen International Fashion Fair ในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 – 9 สิงหาคม 2567 ตามจุดต่างๆ ในกรุงโคเปนเฮเกน เป็นแหล่งศูนย์รวมผู้ซื้อ เอเจ้นท์ ผู้ค้าส่ง ผู้ค้าปลีก ผู้นำเข้า นักออกแบบ ผู้ผลิต สื่อมวลชน และบุคคลในอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากในและต่างประเทศ มีแบรนด์ผู้เข้าร่วมจัดงานแสดงสินค้านี้กว่า 41 แบรนด์จาก 6 ประเทศ ได้แก่ เดนมาร์ก สวีเดน ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ สหราชอาณาจักร และยูเครน
นอกจากการจัดแสดงของแบรนด์แฟชั่นทั้ง 41 แบรนด์ ยังมีกิจกรรมต่างๆ เช่น การจัดแสดง แฟชั่นโชว์ (Show & Presentation) การสัมมนา (Talks) และกิจกรรมอื่นๆ (Events) หัวข้อการสัมมนาที่น่าสนใจ เช่น
• วัฒนธรรมแฟชั่นของเดนมาร์ก โดยเฉพาะการพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่นทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ที่ได้สร้างความเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ ซึ่งแฟชั่นเดนมาร์กเป็นที่รู้จักในด้านความเป็นฟังก์ชั่นที่สวมใส่ได้ ความมุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อม และดีไซเนอร์หน้าใหม่
• แนวทางความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ดนตรี แฟชั่น อาหาร กีฬา และศิลปะ ที่จะสามารถช่วยขับเคลื่อนการเติบโตในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ภายใต้ความท้าทาย และการสร้างโอกาสใหม่ๆ การแบ่งปันความรู้ และการส่งเสริมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ
นอกจากนี้ ยังมีการถ่ายทอดสด (Live) และการบันทึกเทปผ่านช่องทาง YouTube Channel: Copenhagen Fashion Weekลิ้งค์ https://www.youtube.com/@CopenhagenFashionWeek โดยงาน CPHFW เป็นการแสดงผลงานคอลเล็คชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อนปี 2568 (SS25: Spring/Summer 2025) ผู้ที่สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เวปไซต์ https://copenhagenfashionweek.com/

บทวิเคราะห์ผลกระทบต่อไทย ข้อเสนอแนะ โอกาสและแนวทาง และความคิดเห็นของสคต.:
• ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม – มิถุนายน) กลุ่มเครื่องนุ่งห่มเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยในตลาดเดนมาร์กอันดับที่ 7 มูลค่า 9.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 โดยสินค้าส่งออกหลักของกลุ่มนี้ คือ เสื้อผ้าสำเร็จรูป
• งานสัปดาห์แฟชั่น Copenhagen Fashion Week Spring/Summer 2025 นำเสนอเทรนด์ที่หลากหลายที่สะท้อนถึงวิวัฒนาการของแฟชั่นในกลุ่มประเทศนอร์ดิกในปัจจุบัน โดยมีเทรนด์หลักดังนี้:
1) ความสง่างามของเสื้อผ้าแบบ Tailored – หลายคอลเลกชันเน้นการตัดเย็บที่ประณีต โดยมีการผสมผสานระหว่างองค์ประกอบที่เป็นทั้งความเป็นผู้ชายและผู้หญิง เช่น เสื้อเบลเซอร์ที่เข้ารูป และชุดเดรสที่มีโครงสร้าง ซึ่งสะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างสไตล์คลาสสิกและสมัยใหม่
2) การใช้วัสดุโปร่งใสและการเลเยอร์ – ดีไซเนอร์หลายรายใช้ผ้าโปร่ง และผ้าถักในการออกแบบเพื่อสร้างลุคที่ดูทันสมัยและสนุกสนาน เหมาะสำหรับการเลเยอร์เสื้อผ้าในฤดูร้อน
3) การออกแบบที่ยั่งยืน – ความยั่งยืนยังคงเป็นหัวใจสำคัญของแฟชั่นวีคครั้งนี้ โดยแบรนด์ต่างๆ มุ่งมั่นในการเลือกใช้วัสดุและกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
4) สตรีทสไตล์ที่โดดเด่น – แฟชั่นแนวสตรีทสไตล์ในงานสัปดาห์แฟชั่นวีคนี้เน้นการใช้ลวดลายที่โดดเด่น การผสมผสานพื้นผิวต่างๆ เรียบง่ายแต่คลาสสิก สะท้อนถึงความทันสมัยและการสร้างสรรค์ของแฟชั่นในกรุงโคเปนเฮเกน
โดยรวมแล้ว งานสัปดาห์แฟชั่น ณ กรุงโคเปนเฮเกน SS25 ได้แสดงให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนของสไตล์คลาสสิก และการสร้างสรรค์ที่นอกกรอบของนักออกแบบหน้าใหม่ ทำให้งานนี้เป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญในปฏิทินแฟชั่นระดับโลก
• ในงาน Copenhagen Fashion Week Spring/Summer 2025 ความยั่งยืนยังคงเป็นหัวใจหลักของการจัดงานฯ โดยงานนี้นับเป็นหนึ่งในงานแฟชั่นวีคที่มีความยั่งยืนที่สุดในโลก ทุกแบรนด์ที่เข้าร่วมต้องปฏิบัติตามมาตรฐานความยั่งยืนที่เข้มงวดของงานฯ ซึ่งครอบคลุมทั้งการออกแบบ กระบวนการผลิต และการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การให้ความสำคัญกับความยั่งยืนนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่แนวคิด แต่เป็นการปฏิบัติจริง ที่สะท้อนผ่านการเลือกสรรแบรนด์และนักออกแบบที่เข้าร่วมงาน
• นอกจากนี้ ภายในงานฯ ยังมีโครงการ CPHFW NewTalent ซึ่งสนับสนุนดีไซเนอร์หน้าใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์และมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยให้ความสำคัญกับการออกแบบที่ยั่งยืนและมีจริยธรรม โดยโครงการนี้มอบการสนับสนุนทางการเงิน คำปรึกษา และโอกาสในการแสดงผลงานในระดับสากล ทำให้นักออกแบบเหล่านี้สามารถเติบโตเป็นธุรกิจที่ยั่งยืนได้ในอนาคต
• การเข้าร่วมงาน CPHFW เป็นโอกาสที่ดีสำหรับแบรนด์แฟชั่นของไทยในการเพิ่มการรับรู้ในตลาดนอร์ดิก อย่างไรก็ตาม ตลาดนอร์ดิกนับเป็นตลาดที่ค่อนข้างยากในการเข้าสู่ตลาด และสร้างแบรนด์ระยะยาว เนื่องจากแบรนด์ท้องถิ่นมีความแข็งแกร่ง ซึ่งการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ หรือการทำ collaboration project จะเป็นช่องทางหนึ่งในการเข้าสู่ตลาดได้
• CPHFW เป็นอีกงานหนึ่งที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล การเข้าร่วมงานนี้สามารถเพิ่มการรับรู้และการยอมรับในแบรนด์ของไทยในตลาดนอร์ดิก ช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจแนวโน้มและความต้องการของผู้บริโภคในตลาดนอร์ดิกมากขึ้น รวมทั้งสื่อมวลชนและบุคคลในอุตสาหกรรมแฟชั่นสามารถช่วยสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ไทยในกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ
• การพัฒนาสินค้า และนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในตลาดนอร์ดิกเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญ เช่น การใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการออกแบบที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมและรสนิยมของชาวนอร์ดิก