เมื่อวันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมอดีตผู้นำรัฐบาลเพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นของ สปป.ลาว ณ สถาบันสังคมศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ลาว โดยมีประธานคือ ดร. กองแก้ว ไชยสงคราม ประธานสถาบันและหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ 83/PM ที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้น โดยรัฐบาลได้ขอคำแนะนำจากอดีตนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ระดับสูงเกี่ยวกับแนวทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของลาวที่ยังคงดำเนินอยู่ โดยเฉพาะราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้นและภาวะเงินเฟ้อด้านอื่นๆ ซึ่งวิทยากรประกอบด้วยอดีตนายกรัฐมนตรี นายบัวสอน บุบผาวัน และอดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสมดี ดวงดี การประชุมครั้งนี้มีอดีตผู้นำระดับสูงของพรรคและรัฐบาล พร้อมด้วยนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ และข้าราชการเข้าร่วมด้วย
อดีตนายกรัฐมนตรีบัวสอน กล่าวถึงบทเรียนที่ได้เรียนรู้ระหว่างวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อกว่าสองทศวรรษที่แล้วซึ่งอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงถึงสามหลัก ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน “สถานการณ์เศรษฐกิจของเราเลวร้ายลงในช่วงปลายทศวรรษ 1990 โดยเฉพาะในปี 1997 เมื่อวิกฤตต้มยำกุ้งในประเทศไทยส่งผลให้เกิดวิกฤตการเงินในภูมิภาค ซึ่งลาวต้องใช้เวลาสองสามปีจึงจะฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์” เขากล่าว และได้เสนอขั้นตอนสำคัญหลายประการที่ต้องดำเนินการทันทีเพื่อให้แน่ใจว่าเศรษฐกิจฟื้นตัว สร้างความเชื่อมั่นของประชาชนขึ้นมาใหม่ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นคืนความไว้วางใจของประชาชน และหยุดไม่ให้ผู้ฉวยโอกาสใช้โซเชียลมีเดียเพื่อทำลายชื่อเสียงและแนวทางที่พรรคและรัฐบาลปฏิบัติตาม โดยได้แบ่งปันความคิดเห็นเกี่ยวกับบทเรียนที่ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ในอดีตขณะดำรงตำแหน่ง ซึ่งครอบคลุมประเด็นการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่หลากหลายการค้าและการลงทุน และสาขาอื่นๆ
นอกจากนี้ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสมดี ดวงดี ยังได้แบ่งปันประโยชน์ของประสบการณ์ที่ยาวนานในเรื่องเศรษฐกิจและการเงิน ซึ่งรัฐบาลสปป.ลาว ได้แต่งตั้งคณะทำงานพิเศษ 83/PM เพื่อสอบสวนและกำหนดมาตรการแก้ไข และประเมินผลของขั้นตอนที่ดำเนินการไปแล้วเพื่อแก้ไขปัญหาราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นและอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่สูงขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ คณะทำงานได้จัดการประชุมไปแล้วสองครั้งเพื่อขอความเห็นเกี่ยวกับแนวทางในการลดราคา ควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา และแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอื่นๆโดยการประชุมครั้งแรกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม โดยคณะทำงานได้หารือกับผู้นำธุรกิจเกี่ยวกับแนวทางในการลดต้นทุนการผลิตสินค้าและบริการ และลดการใช้สกุลเงินต่างประเทศเพื่อลดแรงกดดันต่อค่าเงินกีบและการประชุมครั้งที่สองเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ได้เชิญอดีตผู้นำรัฐบาล ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ว่าการธนาคารแห่ง สปป.ลาว มาหารือถึงแนวทางในการควบคุมราคาที่พุ่งสูงขึ้นและลดอัตราเงินเฟ้อ จากการประชุมเหล่านี้ คณะทำงานของลาวได้รับข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์จากผู้ประกอบการธุรกิจและอดีตผู้นำระดับสูงของพรรคและรัฐบาล ในการพยายามกำหนดมาตรการและนโยบายที่มีประสิทธิผลเพื่อแก้ไขปัญหาทางการเงินที่รัฐบาลเผชิญอยู่อย่างต่อเนื่อง และบรรเทาความยากลำบากของประชาชนชาวลาว และจัดทำรายงานเพื่อส่งให้รัฐบาลทราบต่อไป
*****************************************
ที่มา : Vientiane Times
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เวียงจันทน์ สปป.ลาว