“จักรยานยนต์ไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่องในตลาดอินเดีย ในปี 2024 ปัจจัยหลักมาจากนโยบายสนับสนุนการผลิตจากรัฐบาล โดย Ola เป็นผู้นำตลาด ตามมาด้วย Bajaj Auto และ TVS Motor”
.
ตลาดจักรยานยนต์ไฟฟ้าเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2024 โดย 8 เดือนแรกมียอดจำหน่ายแล้วกว่า 850,000 คัน และจะทะลุเป้าหมาย 1 ล้านคันในเดือนกันยายนนี้ โดยหลังจากรัฐบาลมีการออกนโยบายจูงใจให้แก่ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ตลาดจักรยานยนต์ไฟฟ้ามีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จากปี 2021 ที่มียอดจำหน่าย 176,996 คัน เพิ่มเป็น 904,263 คัน ในปี 2023
.
ทั้งนี้ ยอดขายที่เพิ่มขึ้นได้รับการจูงใจจากการที่รัฐบาลออกนโยบายสนับสนุนสำหรับ ยานยนต์ที่ผลิตและส่วนประกอบที่ผลิตในประเทศ นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้มีการออกนโยบายจูงใจใหม่มาประกาศใช้ระหว่างเดือนเมษายน-กรกฎาคม 2024 ที่ผ่านมาด้วย โดยภายใต้แผน EMPS 2024 รัฐบาลได้จัดสรรเงินทุน 5,000 ล้านรูปี สำหรับสนับสนุนรถจักรยานยนต์ 2 ล้อ และ 3 ล้อ
.
นอกจากนี้ การตระหนักถึงความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นทำให้ผู้บริโภคหันมาพิจารณายานยนต์ไฟฟ้าเป็นทางเลือกของพลังงานที่สะอาดกว่าเมื่อเทียบกับยานยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงน้ำมันแบบดั้งเดิม รวมถึงต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำกว่า ท่ามกลางราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ยังช่วยกระตุ้นความต้องการจักรยานยนต์ไฟฟ้าให้เป็นตัวเลือกในการเดินทางที่ใช้งานได้จริงมากยิ่งขึ้น
.
หากพิจารณาผู้นำในตลาดจักรยานยนต์ไฟฟ้าในอินเดียขณะนี้ Ola Electric เป็นผู้นำตลาด ซึ่งมียอดขาย 290,305 คัน YTD 2024 (+111%) อันดับ 2 ได้แก่ Bajaj Auto ที่ยอดขาย 146,975 คัน (+295%) อันดับ 3 ได้แก่ TVS Motor ที่ยอดขาย 174,046 คัน (+23.9%) ตามมาด้วยค่าย Ather, Ampere และ Hero Electric
.
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จของ Ola Electric คือการเน้นพัฒนานวัตกรรมในผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ การที่ Ola มีความเข้าใจตลาดในประเทศอย่างลึกซึ้ง ทำให้สามารถปรับกลยุทธ์การตลาดให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าในอินเดีย ซึ่งเป็นผู้บริโภคที่มองหาความคุ้มค่าในด้านราคาและความสะดวกในการใช้งาน นอกจากนี้ การจัดการด้านโลจิสติกส์และเครือข่ายการให้บริการหลังการขายที่ครอบคลุมทุกภูมิภาค ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค
.
ในอนาคต ศักยภาพการเติบโตของตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในอินเดียมีความน่าจับตามอง ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า นโยบายสนับสนุนจากรัฐบาล และการตระหนักรู้ที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้บริโภค จักรยานยนต์ไฟฟ้าจะกลายเป็นทางเลือกการขนส่งหลัก การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแต่สนับสนุนความพยายามระดับโลกในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน แต่ยังทำให้อินเดียเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงไปสู่การขนส่งด้วยพลังงานไฟฟ้าระดับโลกอีกด้วย
.
ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ
ขนาดของตลาดจักรยานยนต์ไฟฟ้าในอินเดียคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 681.3 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2024 และจะเติบโตด้วยอัตราการเติบโตแบบทบต้น 66.4% ระหว่างปี 2024-2030 จนไปถึงระดับ 14,487.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2030 ปัจจัยหลักมาจากความต้องการการเดินทางที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้น นโยบายสนับสนุนจากรัฐบาล การคำนึงถึงผลกระทบด้านมลพิษ และราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยหน่วยงานภาครัฐได้ริเริ่มโครงการสนับสนุนมากมายแก่ผู้ซื้อ อาทิ การให้ส่วนลดการซื้อ การยกเว้นภาษี แรงจูงใจทางการเงินสำหรับผู้ซื้อด้านอื่นๆ ทั้งนี้ แนวโน้มราคาขายปลีกที่มีแนวโน้มลดลงจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนให้มูลค่าตลาดจักรยานยนต์ไฟฟ้าในอินเดียเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
.
ตลาดจักรยานยนต์ไฟฟ้าในอินเดียจึงเป็นอีกตลาดที่มีศักยภาพและน่าจับตามองสำหรับผู้ประกอบการที่มีความพร้อม โดยผู้ประกอบการอาจศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลอุตสาหกรรมนี้หรืออาจลองพิจารณามาเข้าร่วมงานแสดงสินค้ายานยนต์ที่จัดขึ้นเป็นประจำในอินเดีย อาทิ ACMA Automechanika Show, Bharat Mobility Global Expo, EV & ESS EXPO, India International EV Show เป็นต้น ซึ่งมีกำหนดจัดทุกปีหรือทุก 2 ปี ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการเห็นถึงแนวโน้มทางเทคโนโลยีใหม่ๆ ผู้เล่นในตลาดอินเดีย รวมถึงประเมินศักภาพและโอกาสในการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจในตลาดอินเดียที่กำลังเติบโต
***************************
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงนิวเดลี
6 กันยายน 2567
ที่มา:
– https://emobilityplus.com/2024/08/06/indias-electric-two-wheeler-surge-ola-electric-leads-with-30-2-market-share-in-july-2024/
– Motorcycles Data, 2 Sep 2024, Indian EV Motorcycles Is Booming In 2024. Ola Electric Is Market Leader
– PS Market Research, India Electric Scooter and Motorcycle Market Report: Size and Share Analysis, Trends, Forecasts (2024 – 2030)
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์
563 ถนน นนทบุรี ตำบล บางกระสอ
อำเภอเมืองนนทบุรี นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-507-7999
สายตรงการค้าระหว่างประเทศ: 1169
ผู้ใช้ที่กำลังออนไลน์ : 4 คน | จำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด : 6231074 คน
สงวนลิขสิทธิ์ © 2023 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ