อิหร่านและเติร์กเมนิสถานได้ลงนามในเอกสารความร่วมมือระหว่างกัน (MOU) ด้านการค้าและศุลกากรจำนวน 4 ฉบับ ได้แก่ 1) ด้านก๊าซธรรมชาติโดยมีประธานของบริษัทก๊าซแห่งชาติอิหร่านและเติร์กเมนิสถานเป็นผู้ลงนาม 2) ด้านความร่วมมือด้านการทูต มีรัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านและรัฐมนตรีต่างประเทศเติร์กมานิสถานเป็นผู้ลงนามในบันทึกข้อตกลง 3) ความร่วมมือด้านเมืองท่าของสองประเทศคือเมืองท่าอามิราบัด (ในอิหร่าน) และเติร์กเมนบาชิ (ในเติร์กเมนิสถาน) มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมอิหร่านร่วมกับประธานบริษัทเติร์กเมนิสถานเป็นผู้ลงนามในโอกาสนี้ 4) ลงนามความร่วมมือด้านศุลกากรของสองประเทศ ซึ่งในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากประธานาธิบดีคนใหม่ของอิหร่าน นายเพเซนเคียนและผู้นำระดับชาติของเติร์กเมนิสถานร่วมเป็นสักขีพยานในโอกาสนี้
อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าระบบทรานซิสสินค้าของสองประเทศจะสามารถทรานซิสสินค้าได้จำนวน 20 ล้านตัน ภายในปี 2025 นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายได้เจรจาถึงเรื่อง การเพิ่มขีดความสามารถทางรถไฟระหว่างทั้งสองประเทศ และการใช้ความสามารถในการขนส่งทั้งทางบก น้ำ และอากาศ ให้ครอบคลุมเขตแดนทั้งสองประเทศ การให้บริการทางวิศวกรรม และการให้วิศวกรชาวอิหร่านเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบโยธาของเติร์กเมนิสถาน รวมถึงการยกเว้นภาษีสินค้าต่างๆ ลดอุปสรรคด้านศุลกากร
ประธานาธิบดีคนใหม่ของอิหร่านเดินหน้าตามนโยบายที่ว่า “ฉันจะไม่พักจนกว่าการคว่ำบาตรอันโหดร้ายจะถูกยกเลิก และเราต้องการสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของเรากับโลกให้เป็นปกติ