แนวโน้มการบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชในเนเธอร์แลนด์

Good Food Institute Europe (GFI Europe) ได้ทำการศึกษาตลาดค้าปลีกผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช (Plant-based Food) พบว่าตลาดค้าปลีกผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช (Plant-based Food) ของเนเธอร์แลนด์มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของยุโรป และผู้บริโภคชาวเนเธอร์แลนด์มีอัตราการบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชต่อคนสูงที่สุดในยุโรป

จากการศึกษาวิจัยของ ProVeg International พบว่าผู้บริโภคเนเธอร์แลนด์เกือบครึ่ง (ร้อยละ 49) ลดปริมาณการบริโภคเนื้อสัตว์ต่อปีลงและหันมาบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชมากขึ้น ร้อยละ 35 ของผู้ที่ตอบแบบสอบถามมองตัวเองว่าเป็น Flexitarians ร้อยละ 6 มองตัวเองว่าเป็น Vegetarians ร้อยละ 3 มองตัวเองว่าเป็น Pescatarian และร้อยละ 3 มองตัวเองว่าเป็น Vegan ปัจจัยหลักและแรงจูงใจที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ผู้บริโภคเนเธอร์แลนด์ลดการบริโภคเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์ลง และเลือกที่จะบริโภคอาหารจากพืชมากขึ้น ได้แก่ สุขภาพ (ร้อยละ 45) รองลงมาคือ สวัสดิภาพสัตว์ (ร้อยละ 40) และสิ่งแวดล้อม (ร้อยละ 34) ผู้บริโภคส่วนใหญ่วางแผนที่จะบริโภคผัก ผลิตภัณฑ์จากผัก ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์จากพืชทางเลือก และผลิตภัณฑ์นมทางเลือก เพื่อทดแทนการบริโภคอาหารจากเนื้อสัตว์ โดยผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช (Plant-based Food) ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์จากพืช (Plant-based meat) ร้อยละ 29 รองลงมาคือ ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่จากพืช (ร้อยละ 25) ปัจจัยสำคัญสำหรับผู้บริโภคเนเธอร์แลนด์ในการเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช ได้แก่ รสชาติ (ร้อยละ 59) ราคาที่จับต้องได้ (ร้อยละ 51) และสุขภาพ (ร้อยละ 43) โดยร้อยละ 59 ของผู้บริโภคเนเธอร์แลนด์เลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชทางเลือกจากซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้อยละ 37 เลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชทางเลือกจากห้างจำหน่ายสินค้าลดราคา (Discount Store)

เมื่อเปรียบเทียบกับ 3 ปีที่แล้ว ปัจจุบันผู้บริโภคชาวเนเธอร์แลนด์มีความเชื่อมั่นมากขึ้นต่อผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชทางเลือก และเชื่อว่าผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชทางเลือกมีความปลอดภัยมากขึ้น มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น และข้อมูลบนฉลากสินค้ามีความแม่นยำมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคต้องการให้ผู้กำหนดนโยบายเพิ่มมาตรฐานความโปร่งใสในการรับรองผลิตภัณฑ์ และสนับสนุนให้มีการยกเลิกภาษีอาหารเพื่อสนับสนุนการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ที่มีสุขภาพดี

บทวิเคราะห์และความเห็นของ สคต.

เนเธอร์แลนด์มีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำระดับโลกด้านเกษตรกรรมแบบหมุนเวียนภายในปี 2030 โดยมีวิสัยทัศน์ที่จะเปลี่ยนรูปแบบอาหารให้มีผักมากขึ้นและมีผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้อยลง และให้มีการผลิตโปรตีนจากสัตว์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งอาจผลักดันการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมสำหรับอาหารจากพืช ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเพิ่มการบริโภคอาหารจากพืชด้วยเช่นกัน

แม้ว่าตลาดจะยังคงมีการเปลี่ยนแปลงอยู่มาก แต่ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าส่ง และค้าปลีกต่างก็ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงและความนิยมที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคในการบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชและอาหารมังสวิรัติ รวมถึงร้านอาหารจำนวนมากที่มีการนำเสนอเมนูทางเลือกที่เป็นมังสวิรัติหรือวีแกนเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน ทำให้ความตั้งใจของผู้บริโภคชาวเนเธอร์แลนด์ที่จะลดการบริโภคเนื้อสัตว์ให้น้อยลงเป็นไปได้ไม่ยาก เนื่องจากมีผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชทางเลือกจำนวนมากให้เลือกซื้อและเลือกบริโภค ผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชที่เป็นที่นิยมและขายดีที่สุดในตลาดเนเธอร์แลนด์ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์จากพืช ผลิตภัณฑ์นมจากพืช ผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตจากพืช และผลิตภัณฑ์เบเกอรี่จากพืช เป็นต้น ตลาดผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชในเนเธอร์แลนด์เป็นตลาดที่มีศักยภาพ จึงเป็นโอกาสทางการตลาดสำหรับผู้ผลิตและผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชของไทยที่จะขยายตลาดมายังเนเธอร์แลนด์ หากผู้ผลิตและผู้ส่งออกสามารถผลิตผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชหรือผลิตภัณฑ์ทดแทนเนื้อสัตว์ที่มีรสชาติดีและมีเนื้อสัมผัสใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์จริง รวมถึงมีราคาที่จับต้องได้ ก็จะสามารถเข้าถึงผู้บริโภคและขยายตลาด Plant-based Food ในเนเธอร์แลนด์ได้

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเ ทศ ณ กรุงเฮก