ความตึงเครียดในทะเลแดงกระทบต่อคลองสุเอซ

 

หน่วยงานบริหารจัดการคลองสุเอซ (Suez Canel Authority: SCA) รายงานว่า เรือมากกว่า 6,600 ลำ ได้เลือกเดินทางไปที่แหลมกู๊ดโฮปของแอฟริกาใต้โดยไม่ผ่านเส้นทางคลองสุเอซ ตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2023 เนื่องจากความตึงเครียดในทะเลแดงที่ยังคงดำเนินอยู่

รายได้ของคลองสุเอซลดลงอย่างมีนัยสำคัญ 23.4 เปอร์เซ็นต์ โดยลดลงจาก 9.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีงบประมาณ 2022/2023 เหลือ 7.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีงบประมาณ 2023/2024 นอกจากนี้ จำนวนเรือที่ผ่านคลองลดลง 22.16 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งลดลงจาก 25,887 ลำในปีงบประมาณ 2022/2023 เหลือเพียง 20,148 ลำในปีงบประมาณ 2023/2024

สถานการณ์ปัจจุบันในทะเลแดงเป็นวิกฤตการณ์พิเศษที่เน้นย้ำถึงความท้าทายด้านความปลอดภัยที่สำคัญต่อความยั่งยืนของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก เป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญของคลองสุเอซในฐานะเส้นทางที่มีประสิทธิภาพ และสั้นที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับทางเลือกอื่นๆ

หน่วยงานบริหารจัดการคลองสุเอซ (Suez Canel Authority: SCA) ได้นำบริการทางทะเลต่างๆ มาใช้ เพื่อสนับสนุนผู้ใช้บริการในสถานการณ์ปกติและสถานการณ์พิเศษ บริการเหล่านี้ ได้แก่ การบำรุงรักษาและซ่อมแซมเรือ การควบคุมมลพิษ การจัดหาเชื้อเพลิง การกำจัดขยะมูลฝอย บริการทางการแพทย์ และบริการสับเปลี่ยนลูกเรือ

นอกจากนี้ ยังมีความพยายามในการสร้างพันธมิตรเพื่อการลงทุนใหม่ๆ ที่มุ่งหวังที่จะสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ การลงทุนเหล่านี้รวมถึงการพัฒนาท่าเรือและการจัดตั้งท่าเทียบเรือตู้คอนเทนเนอร์โดยร่วมมือกับกระทรวงคมนาคม

ความเห็น/ข้อเสนอแนะ

  • คลองสุเอซมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อโลกและอียิปต์ โดยร้อยละ 12 ของการค้าโลก และร้อยละ 7 ของการขนส่งน้ำมันโลก ใช้คลองสุเอซเป็นทางผ่าน อีกทั้งคลองสุเอซยังเป็นแหล่งรายได้สำคัญของอียิปต์ ควบคู่กับการท่องเที่ยวและรายได้ของแรงงานอียิปต์ที่ทำงานในต่างประเทศ
  • กรณีกองทัพฮูติโจมตีเรือขนส่งสินค้าได้ส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และมีแนวโน้มยืดเยื้อออกไปจนกว่าภาวะสงครามในอิสราเอลจะสิ้นสุดลง โดยมีการคาดการณ์ว่าอียิปต์จะเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าวอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะการเดินเรือผ่านคลองสุเอซลดลงซึ่งทำให้รายได้จากค่าธรรมเนียมผ่านคลองสุเอซลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่อียิปต์ยังไม่พร้อมรับมือหากสถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากความเปราะบางของเศรษฐกิจของอียิปต์เอง ได้แก่ ภาวะเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น ภาวการณ์ขาดแคลนเงินตราต่างประเทศอย่างรุนแรง โดยเฉพาะดอลลาร์สหรัฐ ภาระหนี้สาธารณะในระดับสูง และเงินปอนด์อียิปต์มีความอ่อนไหวสูง
  • อย่างไรก็ดี หน่วยงานบริหารจัดการคลองสุเอซ (Suez Canel Authority: SCA) ได้ขึ้นค่าธรรมเนียมผ่านคลองสุเอซ (transit dues) อีกร้อยละ 5-15 โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2567 เป็นต้นไป โดยการขึ้นค่าธรรมเนียมผ่านคลองสุเอซครั้งนี้ครอบคลุมเรือจำนวน 13 ประเภท แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่จะขึ้นค่าธรรมเนียมร้อยละ 15 ได้แก่ (1) เรือบรรทุกน้ำมันดิบ (2) เรือบรรทุกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (3) เรือบรรทุกก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) (4) เรือบรรทุกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) (5) เรือบรรทุกสารเคมีและของเหลวอื่นๆ (6) เรือขนส่งสินค้า (containerships) (7) เรือบรรทุกยานพาหนะ (vehicles carriers) (8) เรือบรรทุกผู้โดยสาร (cruise ships) และ (9) เรือลอยน้ำพิเศษ (special floating units) เช่น เรือยอร์ช เรือประมง เรือทหารต่างประเทศ เรือวิจัย และกลุ่มที่จะขึ้นค่าธรรมเนียมร้อยละ 5 ได้แก่ (1) เรือสินค้าเทกองแห้ง (dry bulk vessels) (2) เรือบรรทุกสินค้าทั่วไป เรืออเนกประสงค์ เรือบรรทุกหนัก (3) เรือ ro-ro (roll-on/roll-off) และ (4) เรืออื่นๆ ทั้งนี้ SCA จะยังไม่ขึ้นค่าธรรมเนียมผ่านคลองสุเอซตามข้อ ระหว่างวันที่ 15 มกราคม – 30 มิถุนายน 2567 สำหรับเรือขนส่งสินค้าที่มาจากยุโรปเหนือ-ตะวันตก (จากท่า Algeciras) เพื่อตรงไปยังท่าเรือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกไกล ซึ่ง SCA จะพิจารณาเป็นกรณี โดยจะต้องยื่นคำร้องผ่าน shipping agency และห้ามแวะจอดที่ท่าเรือใดระหว่างการเดินทางด้วยวัตถุประสงค์ทางการค้า หากจะแวะจอดด้วยวัตถุประสงค์ที่ไม่ใช่การค้าจะต้องแจ้งรายละเอียดของการแวะจอดล่วงหน้าด้วย
  • ผู้ส่งออกไทยควรพิจารณาวางแผนการจัดส่งสินค้า รวมถึงคำนวณต้นทุนสินค้า ด้วยความรอบคอบ เนื่องจากปัจจัยความเสี่ยงที่เกิดขึ้น รวมถึงต้องพิจารณาจัดทำเทอมการชำระเงินด้วยความระมัดระวัง เพื่อรองรับความเสี่ยงต่างๆ ทั้งที่เกิดจากการขนส่งสินค้า และความเปราะบางของเศรษฐกิจของอียิปต์เอง

——————————————————-

 

ที่มา : https://english.ahram.org.eg/News/533448.aspx

thThai