เงินเฟ้อออสเตรเลียลดลงที่ 2.8% ต่ำสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง

ข้อมูลโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย พบว่า อัตราเงินเฟ้อไตรมาสเดือนกันยายน 2567 ขยายตัวในอัตราชะลอตัวลงที่ร้อยละ 0.2 ลดลงจากร้อยละ 1 ในไตรมาสก่อนหน้า และมีการขยายตัวตลอดทั้งปีจนถึงไตรมาสเดือนกันยายน 2567 ที่ร้อยละ 2.8 (ต่ำสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง) ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เป็นผลจากการลดลงของราคาค่าพลังงานที่ลดลงร้อยละ 1.4 ได้แก่ ค่าไฟฟ้า (ลดลงร้อยละ 17.3) และค่าน้ำมันเชื้อเพลิง (ลดลงร้อยละ 6.7) เนื่องจากราคาน้ำมันโลกที่ลดลงและมาตรการช่วยเหลือ/ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าแก่ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจของรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น (Energy Bill Relief Fund) ในขณะที่ราคาสินค้าและบริการยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากการเพิ่มขึ้นของราคาค่าตั๋วเดินทางระหว่างประเทศรวมถึงที่พักร้อยละ 1.9 ราคาค่าตั๋วเดินทางในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 และราคาสินค้าอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ไตรมาสเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 ราคาเนื้อสัตว์และอาหารทะเลเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 และราคาผักและผลไม้เพิ่มขึ้นร้อยละ 1

สำหรับราคาค่าบริการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 4.6 ในไตรมาสเดือนกันยายน จากการเพิ่มขึ้นของราคาค่าเช่าที่พักอาศัย (ร้อยละ 1.6) ค่าประกัน และค่าดูแลเด็กที่สูงขึ้น (ร้อยละ 3.2)

การเติบโตของอัตราเงินเฟ้อตลอดทั้งปี ได้รับแรงขับเคลื่อนจากราคาค่าอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.3 โดยเฉพาะราคาผักและผลไม้เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.6 เช่น ผลไม้ตระกูลเบอรี่ องุ่น มะเขือเทศ พริก Capsicum เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยในพื้นที่เพาะปลูก ประกอบกับการปรับเพิ่มขึ้นของราคาเนื้อสัตว์และอาหารทะเลที่จัดส่งให้กับภาคธุรกิจบริการอาหารทำให้ต้นทุนของร้านอาหารและร้าน Takeaways สูงขึ้นและผลักภาระด้านต้นทุนโดยเพิ่มราคาอาหารให้ผู้บริโภคแบกรับ ส่งผลให้การรับประทานอาหารนอกบ้านเป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายที่ภาคครัวเรือนปรับลดลง

อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางออสเตรเลียยังเห็นว่าอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง และปัญหาค่าเช่าที่พักอาศัย ค่าบริการประกันภัย ค่าบริการสาธารณะและบริการทางการแพทย์ยังเป็นปัญหาเรื้อรังที่กระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศ คาดว่า ธนาคารกลางจะยังคงรักษาอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 4.35 ต่อไปจนถึงสิ้นปี 2567 และมีแนวโน้มสูงที่ธนาคารปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงภายในช่วงกลางปี 2568 เพื่อให้อัตราเงินเฟ้อลดลงต่อเนื่องอย่างยั่งยืน

……………………………………………………………………………………………

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์

ที่มา: