Schaeffler ผู้นำการผลิตอะไหล่รถยนต์ของเยอรมนีสั่งปลดพนักงานครั้งใหญ่

เดือนตุลาคมที่ผ่านมา บริษัท Schaeffler AG ผู้นำการผลิตอะไหล่รถยนต์ของเยอรมนี ได้เข้าควบรวมกิจการบริษัท Vitesco Technologies Group AG เป็นที่เรียบร้อย และในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ประกาศแผนลดพนักงาน 4,700 ตำแหน่งในยุโรป รวมถึง 2,800 ตำแหน่งในประเทศเยอรมนี ซึ่งจะกระทบต่อโรงงานผลิต 10 แห่งในประเทศ และ 5 แห่งในยุโรป ทั้งนี้ บริษัท Schaeffler AG เดิมมีพนักงานมากกว่า 120,000 ตำแหน่งทั่วโลก โดยภายหลังควบรวมกิจการได้รับพนักงานจากบริษัทใหม่มาเพิ่มอีก 35,000 ตำแหน่ง

กรรมการบริษัท Schaeffler AG ได้ชี้แจงสาเหตุการลดตำแหน่งงาน เนื่องมาจากสถานการณ์เศรษฐกิจและอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ซบเซาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปลดลง และการลดการใช้เทคโนโลยีเครื่องยนต์สันดาปมากขึ้น ดังนั้น การย้ายที่ตั้งการผลิตไปยังประเทศค่าแรงต่ำในยุโรปจะช่วยลดการขาดทุนได้ อย่างไรก็ตาม ฐานการผลิตในประเทศเยอรมนีจะได้รับผลกระทบมากที่สุด จากการเลิกจ้างงานเพียงแห่งเดียวถึง 2,800 ตำแหน่ง นอกจากนี้ การควบรวมกับบริษัท Vitesco ยังส่งผลต่อการเลิกจ้างฝ่ายบริหารจัดการ 600 ตำแหน่ง ในการนี้ บริษัท Schaeffler AG ได้ประกาศเพิ่มเติมว่าแผนการเปลี่ยนแปลงนี้จะดำเนินการระหว่างปี พ.ศ. 2568 ถึงปี พ.ศ. 2570 โดยคณะกรรมการบริหารคาดการณ์ว่าแผนดังกล่าวจะช่วยให้ลดรายจ่ายให้แก่บริษัทได้ถึง 290 ล้านยูโรต่อปี ภายในปี พ.ศ. 2572

นาย Klaus Rosenfeld ซีอีโอของบริษัท Schaeffler Group กล่าวว่าแผนการลดพนักงานมีความความจำเป็นสำหรับสถานการณ์ของบริษัทในปัจจุบัน โดยได้เตรียมการรับมือมาระยะหนึ่งแล้ว แต่สภาพเศรษฐกิจกลับซบเซาลงอีก ดังเห็นได้จากตัวเลขรายไตรมาสที่ผ่านมาพบว่ามีมูลค่าการค้าและกำไรลดลง บริษัทจึงมีความจำเป็นต้องดำเนินมาตรการดังกล่าว และจะทำอย่างสมเหตุสมผล นอกจากนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาบริษัท Schaeffler ได้เข้าซื้อกิจการในอุตสาหกรรมหลายแหล่ง การเปลี่ยนแปลงมาตรการนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อบริษัทที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Schaeffler ด้วย

ความยากลำบากของการเปลี่ยนผ่านนี้ปรากฏให้เห็นในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ขนาดใหญ่เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์สันดาปมีน้อยลงเรื่อย ๆ ในขณะที่ การผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าไม่สามารถชดเชยส่วนนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเผชิญกับการแข่งขันด้านราคา ซึ่งในมุมมองของคณะกรรมการบริหารนั้น สถานการณ์ในยุโรปขณะนี้มีความตึงเครียดอย่างยิ่ง กล่าวคือ การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยานยนต์กำลังส่งผลกระทบเชิงลบต่อการจ้างงานในยุโรป ในทางกลับกัน อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้ากำลังไปได้ดีในตลาดจีน และเทคโนโลยีไฮบริดเป็นที่ต้องการมากขึ้นในตลาดสหรัฐอเมริกา

มาตรการปรับลดขนาดองค์กรจะส่งผลต่อฐานการผลิตในยุโรป และส่วนหนึ่งในประเทศเยอรมนี โดยโรงงานหนึ่งในสามแห่งในเมือง Homburg ซึ่งเป็นที่ผลิตชิ้นส่วนประกอบสำหรับระบบขับเคลื่อน และระบบเมคคาทรอนิกส์สำหรับ linear technology จะถูกปิดตัวลง และย้ายฐานการผลิตไปยังที่ตั้งใหม่ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าที่ใด โดยทางบริษัทได้หารือกับตัวแทนพนักงานเกี่ยวกับมาตรการปรับลดแรงงานก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งนี้ นาง Astrid Fontaine ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัทฯ กล่าวว่า ในปี พ.ศ. 2561 บริษัทฯ ได้ทำข้อตกลงกับสหภาพแรงงาน IG Metall กำหนดว่าตัวแทนพนักงานจะต้องได้รับแจ้งเกี่ยวกับมาตราการปรับลดแรงงานล่วงหน้า และจะต้องดำเนินการอย่างยุติธรรมและมีความรับผิดชอบต่อสังคม ในการนี้ นาย Jürgen Schenk ประธานสภาแรงงาน Schaeffler ในเมืองชไวน์เฟิร์ต ได้แถลงข่าวว่าสหภาพแรงงาน IG Metall จะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน และจะไม่มีการพูดอ้อมค้อมให้ดูดี เพราะนี่เป็นการโจมตีแรงงานฐานการผลิตครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี

ที่มา: Frankfurter Allgemeine Zeitung