แอฟริกาใต้จะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ปี 2568

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 ในที่ประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ณ นครริโอ เดจาเนโร ประเทศบราซิล ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า แอฟริกาใต้รับไม้ต่อจากบราซิล ในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม G20               ปี 2568 (วันที่ 1 ธันวาคม 2567 ถึง 30 พฤศจิกายน 2568)   นับเป็นครั้งแรกที่ประเทศในทวีปแอฟริกาเป็นเจ้าภาพจัดประชุม G20 โดยตลอดช่วงการเป็นเจ้าภาพแอฟริกาใต้จะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมประมาณ 130 ครั้ง

แนวคิดของการประชุม G20 ปี 2568 คือ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ความเสมอภาพ และการพัฒนาที่ยังยืน (Solidarity, Equality, Sustainability) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดการกับความท้าทายระดับโลกที่สำคัญ นอกจากนี้ ประเด็นสำคัญสำหรับการเป็นเจ้าภาพของแอฟริกาใต้จะรวมถึงการจัดการกับความท้าทายต่างๆ อาทิ ความยากจน การว่างงาน และความไม่เทียมกัน รวมทั้งตั้งเป้าที่จะเผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์หลายประการ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความมั่งคงทางอาหาร ปัญหาพลังงาน และหนี้สิน ซึ่งเป็นความท้าทายที่ส่งผลกระทบต่อทวีปแอฟริกาและประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ นอกจากนี้ จะเน้นย้ำถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการปฏิรูปธรรมาภิบาลโลกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติมและความเห็นของสำนักงานฯ:  กลุ่ม G20 ก่อตั้งเมื่อปี 2542 ปัจจุบัน ประกอบด้วย สมาชิก 19 ประเทศ (ประกอบด้วย อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย, อินโดนีเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ ตุรกี สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา) และ 2 สหภาพ ได้แก่ สหภาพยุโรป (EU) และสหภาพแอฟริกา (African Union : AU) โดย AU ได้เข้าร่วมเมื่อปี 2566 ที่ผ่านมาในช่วงต้นของการประชุม G20 ได้ให้ความสำคัญกับประเด็นเศรษฐกิจ แต่ปัจจุบันครอบคลุมถึงประเด็นการพัฒนาที่ยังยืน สุขภาพ พลังงาน การต่อต้านคอร์รัปชัน    อนึ่ง G20 ไม่ใช่สถาบันที่มีสำนักงานหรือเจ้าหน้าที่ แต่ผู้นำจะหมุนเวียนกันไปในแต่ละปีในกลุ่มสมาชิกโดยการตัดสินใจขึ้นอยู่กับฉันทามติ

แม้ว่าการประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ในครั้งนี้ (วันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2567) สามารถสร้างฉันทามติได้ในระดับหนึ่ง แต่ความท้าทายต่อประชาคมโลกยังคงมีอยู่ เนื่องจากเมื่อ        “โดนัลด์ ทรัมป์” เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในต้นปี 2568 นโยบายของสหรัฐฯ จะเป็นอย่างไร จะส่งผลกระทบต่อเจตนารมณ์ของกลุ่ม G20 หรือไม่ ต้องติดตามต่อไป

ที่มาข่าว www.ewn.co.za   www.esastap.org.za

ประมวลโดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงพริทอเรีย

พฤศจิกายน 2567

 

thThai