การส่งออกของอินเดียโดยรวม (สินค้าและบริการรวมกัน) สำหรับเดือนตุลาคม 2567 มีมูลค่า 73.21พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 19.08 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของ ปีก่อนหน้า ส่วนการนำเข้า (สินค้าและบริการรวมกัน) สำหรับเดือนตุลาคม 2567 มีมูลค่า 83.33 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว ร้อยละ 7.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของ ปีก่อนหน้า
การส่งออกรวมภาคสินค้าและบริการของอินเดียสะสมระหว่างเดือนเมษายน – ตุลาคม 2567 มีมูลค่า 468.27 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 7.28 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่วนการนำเข้าสะสมระหว่างเมษายน – กันยายน 2567 มีมูลค่า 531.51 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 7.05 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
- การค้าสินค้า
การส่งออก เดือนตุลาคม 2567 มีมูลค่า 39.20 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 33.43 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและ อัญมณีและเครื่องประดับมีมูลค่า 31.36 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 24.56 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกที่ขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า ได้แก่ ข้าว(85.79%) , สินค้า electronic(45.69%), วัสดุก่อสร้าง(39.37%) ,วัสดุปูพื้น(37%) ,สิ่งทอ(35.06%) ตามลำดับ
ประเทศที่อินเดียมีมูลค่าการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นในเดือนตุลาคม 2567 เทียบกับปีที่ผ่านมามากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ สิงคโปร์ (197.39%),ออสเตรเลีย (60.41%), สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (43.32%),สหราชอณาจักร (42.12%) , และ สหรัฐอเมริกา (11.47%)
ขณะที่ภาพรวมการส่งออกสินค้า 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2024 (เมษายน – ตุลาคม 2567) มีมูลค่า 252.28 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 244.51 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและอัญมณีและเครื่องประดับแล้วมีมูลค่า 194.17 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 178.28 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
การนำเข้า เดือนตุลาคม 2567 มีมูลค่า 66.34 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 63.86 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและอัญมณี และเครื่องประดับแล้วมีมูลค่า 39.21 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 37.23 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้านำเข้าที่หดตัวอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ เครื่องเงิน(-74.76%) , ไข่มุกและเศษหินมีค่า(-29.46), ถ่านหิน(-28.34%) , เครื่องหนังและผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง (-19.41%) กระดาษหนังสือพิมพ์ (-16.85%) ตามลำดับ
ประเทศที่อินเดียมีมูลค่าการนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นในเดือนตุลาคม 2567 เทียบกับปีที่ผ่านมามากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ แองโกลา (425.33%), เปรู (142.69%) ,ไต้หวัน (82.76%), สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (70.37%), และ รัสเซีย (25.98%)
ขณะที่ภาพรวมการนำเข้าสินค้า 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2024 (เมษายน – ตุลาคม 2567) มีมูลค่า 416.93 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 394.18 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและอัญมณีและเครื่องประดับแล้วมีมูลค่า 261.92 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 248.57 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
ดุลการค้าสินค้า เดือนตุลาคม 2567 ขาดดุลการค้า 27.14 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าขาดดุลที่ระดับ 30.43 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้อินเดียขาดดุลการค้าสินค้าสะสม 7 เดือนแรกมูลค่า 164.65 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งขาดดุลมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ระดับ 149.67 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
2. การค้าบริการ*
เดือนตุลาคม 2567 การส่งออกบริการมีมูลค่า 34.02 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 28.05 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การนำเข้า มีมูลค่า 17 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 13.46 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ดุลการค้า เกินดุลมูลค่า 17.02 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 14.59 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
ภาพรวมการบริการ 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2024 (เมษายน – ตุลาคม 2567) มีมูลค่าเกินดุล 101.41 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ระดับ 89.64 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
ข้อคิดเห็น
1.ทางอินเดียได้เริ่มกลับมาส่งออกข้าวตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2567 ที่ผ่านมาหลังจากหยุดการส่งออกไปเมื่อ 20 กรกฎาคม 2566 และผลจากการหยุดการส่งออกนั้นทำให้ ปริมาณสต๊อกข้าวของอินเดียปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 38.60 % และการลดภาษีการส่งออกข้าวนึ่งเหลือ 10% การยกเลิกราคาขั้นต่ำในการส่งออกสำหรับข้าวที่ไม่ใช่บาสมาตี ส่งผลให้ตัวเลขการส่งออกของอินเดียเมื่อกลับมาส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ เห็นได้ชัดจากตัวเลขการส่งออกข้าวของอินเดียในเดือนตุลาคม 2567 ที่เพิ่มขึ้น 85.79% ส่งผลเชิงบวกต่อภาพรวมของเศรษฐกิจของอินเดียแต่อาจส่งผลเชิงลบต่อราคาข้าวในตลาดโลกที่จะลดลงเมื่อปริมาณข้าวในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น
- การกลับมาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี คนที่ 47 ของสหรัฐอเมริกาของนาย โดนัลป์ ทรัมป์ จากพรรครีพลับบีกัน นั้น ทำให้หลายประเทศเริ่มให้ความสำคัญต่อนโยบายการค้าของโลก หนึ่งในนั้นคือนโยบายการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน และกลุ่มประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐอเมริกา สะท้อนจากตัวเลขการส่งออกสินค้า Electronic ของอินเดียในเดือนตุลาคม 2567 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ แสดงให้เห็นถึงการเตรียมพร้อมในการรับมือสงครามการค้าที่อาจจะเกินขึ้นในอนาคต ทั้งการเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าจำพวก Electronic หรือแม้กระทั่งในอนาคตการนำไปสู่การเพิ่มการลงทุนประเภท FDI ของนักลงทุนต่างชาติ ในอีกทางนึงด้วย
3.กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของอินเดียเติบโตขึ้นในเดือนตุลาคม 2567 ทั้งนี้ได้รับแรงหนุนจาก ภาคบริการและภาคการผลิตที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยอ้างอิงจากดัชนี Purchasing Manger Index (PMI) ซึ่งเป็นการบ่งบอกสัญญาณความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจต่อเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงการจ้างงานโดยรวมที่ขยายตัวในอัตราที่แข็งแกร่งในเดือนดังกล่าว
———————————————————-
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ
ณ กรุงนิวเดลี
* หมายเหตุ: จากข้อมูลล่าสุดของธนาคารกลางอินเดีย ข้อมูลภาคบริการเปิดเผยถึงเดือนกันยายน 2567 ในส่วนของข้อมูลของเดือนตุลาคม 2567 เป็นเพียงการประมาณการ ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในการเปิดเผยข้อมูลครั้งต่อไป
ข้อมูลอ้างอิง:- Ministry of Commerce and Industry, 16 October 2024, Latest Trade Figures
– The Times of India, 22 October 2024, Deloitte projects Indian economy to grow 7-7.2% in FY25