- อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ (GDP Growth)
สำนักงานวิเคราะห์เศรษฐกิจสหรัฐฯ (U.S. Bureau of Economic Analysis) กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ (U.S. Department of Commerce) รายงานมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติแท้จริง (Real GDP) สหรัฐฯ ไตรมาสที่ 2 ปี 2567 ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 และมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติไตรมาสที่ 3 ปี 2567ประมาณการครั้งที่ 2 (Second Estimate) ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8
แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 เป็นผลมาจากการขยายตัวของการใช้จ่ายภาคประชาชน การส่งออก การใช้จ่ายภาครัฐ และการลงทุนคงที่ไม่ใช่สำหรับที่อยู่อาศัย รวมถึงภาคการนำเข้าที่ชะลอตัวลงในช่วงดังกล่าวซึ่งล้วนส่งผลดีต่อการขยายตัวของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติสหรัฐฯ
สถิติอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจสหรัฐฯ* ปี 2563 – 2567
หน่วย: ร้อยละ
ปี | ไตรมาส 1 (ม.ค. – มี.ค.) | ไตรมาส 2 (เม.ย. – มิ.ย.) | ไตรมาส 3 (ก.ค. – ก.ย.) | ไตรมาส 4 (ต.ค. – ธ.ค.) |
2563 | -5.5 | -28.1 | 35.2 | 4.4 |
2564 | 5.6 | 6.4 | 3.5 | 7.4 |
2565 | -1.0 | 0.3 | 2.7 | 3.4 |
2566 | 2.8 | 2.4 | 4.4 | 3.2 |
2567 | 1.6 | 3.0 | 2.8 | – |
*ปรับฤดูกาลรายปี หรือ Seasonally adjusted at annual rates
ที่มา: Bureau of Economic Analysis, U.S. Department of Commerce
- อัตราการว่างงาน
สำนักงานสถิติแรงงาน (Bureau of Labor Statistics) กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ (U.S. Department of Labor) รายงานอัตราการว่างงานสหรัฐฯ ประจำเดือนตุลาคม 2567 (ข้อมูลล่าสุด) ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนที่ผ่านมามากนัก อัตราการว่างงานรักษาตัวอยู่ที่ร้อยละ 4.1 มีผู้ว่างงานในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนทั้งสิ้น 7.0 ล้านคน การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm Payroll Employment) เพิ่มขึ้นทั้งสิ้น 12,000 ตำแหน่ง
- กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น ได้แก่ อุตสาหกรรมบริการด้านสุขภาพ 52,000 ตำแหน่ง อุตสาหกรรมการจ้างงานภาครัฐ 40,000 ตำแหน่ง และอุตสาหกรรมก่อสร้าง 8,000 ตำแหน่ง
- กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานลดลง ได้แก่ อุตสาหกรรมบริการทางธุรกิจ 49,000 ตำแหน่ง และอุตสาหกรรมการผลิต 46,000 ตำแหน่ง
- ส่วนการจ้างงานในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และขุดเจาะพลังงาน อุตสาหกรรมค้าส่ง อุตสาหกรรมค้าปลีก อุตสาหกรรมการขนส่งและคงคลังสินค้า อุตสาหกรรมสารสนเทศ อุตสาหกรรมการเงิน อุตสาหกรรมการโรงแรมและการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมการบริการอื่นๆ ไม่เปลี่ยนแปลงมากนักฃ
สถิติอัตราการว่างงานสหรัฐฯ ย้อนหลัง 12 เดือน
เดือน | ร้อยละ | เดือน | ร้อยละ |
พ.ย. 66 | 3.7 | พ.ค. 67 | 4.0 |
ธ.ค. 66 | 3.7 | มิ.ย. 67 | 4.1 |
ม.ค. 67 | 3.7 | ก.ค. 67 | 4.6 |
ก.พ. 67 | 3.9 | ส.ค. 67 | 4.2 |
มี.ค. 67 | 3.8 | ก.ย. 67 | 4.1 |
เม.ย. 67 | 3.9 | ต.ค. 67 | 4.1 |
ที่มา: Bureau of Labor Statistics, U.S. Department of Labor
- ภาวะเงินเฟ้อ (Consumer Price Index: CPI)
สำนักงานสถิติแรงงาน (Bureau of Labor Statistics) กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ (U.S. Department of Labor) รายงานภาวะเงินเฟ้อสหรัฐฯ ประจำเดือนตุลาคม 2567 (ข้อมูลล่าสุด) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนที่ผ่านมาเป็นร้อยละ 2.6 (ไม่ปรับฤดูกาล หรือ Not Seasonally Adjusted)
โดยในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาราคาสินค้าไม่ปรับฤดูกาล (Not Seasonally Adjusted) กลุ่มสินค้าอื่นๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.3 กลุ่มสินค้าอาหารปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 และกลุ่มสินค้าพลังงานปรับตัวลดลงร้อยละ 4.9 รายละเอียด ดังนี้
3.1 กลุ่มสินค้าอาหาร ได้แก่ เนื้อสัตว์และไข่ (+ร้อยละ 1.9) เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (+ร้อยละ 1.7) ผลิตภัณฑ์จากนม (+ร้อยละ 1.3) ผักและผลไม้สด (+ร้อยละ 0.9) และซีเรียลและเบเกอรี (+ร้อยละ 0.9)
3.2 กลุ่มสินค้าพลังงาน ได้แก่ ไฟฟ้า (+ร้อยละ 4.5) ก๊าซธรรมชาติ (+ร้อยละ 2.0) และน้ำมันเชื้อเพลิง (-ร้อยละ 12.2)
3.3 กลุ่มสินค้าและบริการอื่น ได้แก่ บริการขนส่ง (+ร้อยละ 8.2) บุหรี่และยาสูบ (+ร้อยละ 6.8) ที่พักอาศัย (+ร้อยละ 4.6) บัตรโดยสารเครื่องบิน (+ร้อยละ 4.1) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (+ร้อยละ 1.6) วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ (+ร้อยละ 1.0) เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม (+ร้อยละ 0.3) รถยนต์ใหม่ (-ร้อยละ 1.3) และรถยนต์มือสอง (Used Cars) (-ร้อยละ 3.4)
สถิติอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ย้อนหลัง 12 เดือน
เดือน | ร้อยละ | เดือน | ร้อยละ |
พ.ย. 66 | 3.1 | พ.ค. 67 | 3.3 |
ธ.ค. 66 | 3.4 | มิ.ย. 67 | 3.0 |
ม.ค. 67 | 3.1 | ก.ค. 67 | 2.9 |
ก.พ. 67 | 3.2 | ส.ค. 67 | 2.5 |
มี.ค. 67 | 3.5 | ก.ย. 67 | 2.4 |
เม.ย. 67 | 3.4 | ต.ค. 67 | 2.6 |
ที่มา: Bureau of Labor Statistics, U.S. Department of Labor
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence Index: CCI)
The Conference Board (CB) รายงานผู้บริโภคชาวอเมริกันมีความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2567 โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence Index) ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดิม 109.6 ในเดือนตุลาคม 2567 (ปีฐาน: ปี 2528 = 100) เป็น 111.7 ในเดือนพฤศจิกายน 2567 ดัชนีความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบัน (Present Situation Index) ที่วัดแนวโน้มสภาวะเศรษฐกิจและตลาดแรงงานในปัจจุบันปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดิม 136.1 ในเดือนตุลาคม 2567 เป็น 140.9 ในเดือนพฤศจิกายน 2567 และดัชนีความคาดหวังของผู้บริโภค (Expectations Index) ซึ่งวัดจากมุมมองของผู้บริโภคต่อสถานการณ์ทางด้านรายได้ การดำเนินกิจการ และการจ้างงานในตลาดแรงงานในระยะสั้นปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดิม 91.9 ในเดือนตุลาคม 2567 เป็น 92.3 ในเดือนพฤศจิกายน 2567 (สูงกว่าระดับ 80.0 ซึ่งเป็นสัญญาณแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ในอนาคต)
ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวอเมริกันในตลาดในเดือนพฤศจิกายน 2567 ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคในตลาดมีความเชื่อมั่นต่อสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันโดยเฉพาะตลาดแรงงาน นอกจากนี้ ผู้บริโภคในตลาดยังมีความเชื่อมั่นต่อตลาดการจ้างงานว่าจะปรับตัวดีขึ้นในอนาคตซึ่งเป็นระดับที่ดีที่สุดในรอบสามปี ในขณะที่ภาคธุรกิจยังคงมีความกังวลต่อสถานการณ์ในอนาคตอยู่พอสมควร
ที่มา: The Conference Board
- ภาวะการค้าปลีกของสหรัฐฯ
สำนักงานสถิติสหรัฐฯ (U.S. Census Bureau) กระทรวงพาณิชย์ สหรัฐฯ รายงานภาวะการค้าปลีกและ การบริการด้านอาหารประจำเดือนล่วงหน้า (Advance Monthly Sales for Retail and Food Services) สหรัฐฯ ประจำเดือนตุลาคม 2567 (ข้อมูลล่าสุด) สามารถสรุปได้ ดังนี้
- มูลค่าการค้าปลีกสินค้าและการบริการด้านอาหาร (Retail & Food Services) ขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.4 เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 718,867 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- มูลค่าการค้าปลีก (Retail Trade Sales) ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 621,590 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- มูลค่าการค้าปลีกไม่ผ่านร้านค้า (Nonstore Retailers) ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 124,475 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
กลุ่มสินค้าและบริการที่มียอดค้าปลีกขยายตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ สินค้าครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ (ร้อยละ 2.3) สินค้ารถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ (+ร้อยละ 1.6) การบริการร้านอาหารและเครื่องดื่ม (+ร้อยละ 0.7) สินค้าวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง (+ร้อยละ 0.5) สินค้าปลีกผ่านช่องทางร้านค้าอื่นๆ (ร้อยละ 0.3) และสินค้าปลีกทั่วไป (+ร้อยละ 0.2) ตามลำดับ
กลุ่มสินค้าและบริการที่มียอดค้าปลีกหดตัวลง ได้แก่ สินค้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน (-ร้อยละ 1.3) สินค้าเพื่อสุขภาพและสุขอนามัยส่วนบุคคล (-ร้อยละ 1.1) สินค้าอุปกรณ์กีฬา (-ร้อยละ 1.1) และสินค้าเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม (-ร้อยละ 0.2) ตามลำดับ
ส่วนสินค้าอาหารและเครื่องดื่มและสินค้าน้ำมันเชื้อเพลิงไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก
ที่มา: U.S. Census Bureau, U.S. Department of Commerce
- ภาวะการค้าระหว่างประเทศ
สำนักงานสถิติสหรัฐฯ (U.S. Census Bureau) กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานสถิติดุลการค้า (ส่งออก – นำเข้า) สหรัฐฯ ประจำเดืนกันยายน 2567 (ข้อมูลล่าสุด) สรุปได้ ดังนี้
สหรัฐฯ ขาดดุลการค้า ในเดือนกันยายน 2567 สุทธิทั้งสิ้น 84,359 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 13,572 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.17 เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา
สหรัฐฯ มีมูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการในเดือนกันยายน 2567 เป็นมูลค่า 267,948 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3,241 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลงร้อยละ 1.20 เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา แบ่งเป็น
- การส่งออกสินค้าเป็นมูลค่า 176,030 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3,224 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลงร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา
- การส่งออกบริการเป็นมูลค่า 91,917 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงเล็กน้อยเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลงร้อยละ 02 เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา
โดยกลุ่มสินค้าและบริการที่สหรัฐฯ มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ สินค้าและบริการภาครัฐ และการบริการขนส่ง เป็นต้น
สหรัฐฯ มีมูลค่าการนำเข้าสินค้าและบริการในเดือนกันยายน 2567 เป็นมูลค่า 352,306 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 10,330 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.02 เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา แบ่งเป็น
- การนำเข้าสินค้าเป็นมูลค่า 285,016 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 10,932 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 99 เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา
- การนำเข้าบริการเป็นมูลค่า 67,291 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลงร้อยละ 0.88 เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา
โดยกลุ่มสินค้าและบริการที่สหรัฐฯ มีมูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้น ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค ยาและเวชภัณฑ์ คอมพิวเตอร์ ชิ้นส่วนกึ่งตัวนำไฟฟ้า ทองคำ (ไม่ใช่สำหรับการเงิน) โลหะขึ้นรูป ชิ้นส่วนยานยนต์ รถยนต์ ทรัพย์สินทางการค้า และการบริการขนส่ง เป็นต้น
ที่มา: U.S. Census Bureau, U.S. Department of Commerce
- ภาวะการค้าระหว่าง สหรัฐฯ – ไทย
ในเดือนกันยายน 2567 (ข้อมูลล่าสุด) สหรัฐฯ และไทยมีมูลค่าการค้าสุทธิทั้งสิ้น 7,289.82 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (อันดับที่ 17) เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.75 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยสหรัฐฯ มีดุลการค้า ขาดดุล ไทยเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 4,678.08 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นร้อยละ 46.93 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา
- สหรัฐฯ นำเข้าจากไทย เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 5,983.95 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (อันดับที่ 11) เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.37 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยสินค้าหลักนำเข้าจากไทย ได้แก่ อุปกรณ์โทรศัพท์ (HS Code 8517) เพิ่มขึ้นร้อยละ 697 เครื่องประมวลผลข้อมูล (HS Code 8471) เพิ่มขึ้นร้อยละ 84.00 ยางรถยนต์ (HS Code 4011) เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.75 หม้อแปลงไฟฟ้า (HS Code 8504) เพิ่มขึ้นร้อยละ 39.91 และชิ้นส่วนกึ่งตัวนำไฟฟ้า (HS Code 8541) ลดลงร้อยละ 36.02
ตารางแสดง: เปรียบเทียบมูลค่าสหรัฐฯ นำเข้าสินค้าจากไทย 10 อันดับแรกเดือนกันยายน 2567
มูลค่า: ล้านดอลลาร์สหรัฐ
HS Code | สินค้า | กันยายน
2566 |
กันยายน
2567 |
เปลี่ยนแปลง % |
8517 | Telephone Sets Incl Smartphones | 520.47 | 858.60 | 64.97 |
8471 | Automatic Data Processing | 334.26 | 615.04 | 84.00 |
4011 | New Pneumatic Tires, or Rubber | 298.49 | 324.61 | 8.75 |
8504 | Electrical Transformers | 183.10 | 256.16 | 39.91 |
8541 | Semiconductor Devices | 387.51 | 247.91 | -36.02 |
8525 | Transmission Apparatus for Radiotelephony | 134.77 | 150.54 | 11.70 |
8543 | Electrical Machines | 84.48 | 149.61 | 77.10 |
8473 | Part and Accessories for Typewriters | 94.51 | 143.76 | 52.11 |
8443 | Printing Machinery | 117.10 | 127.08 | 8.53 |
8708 | Parts and Accessories for Tractors | 95.24 | 126.28 | 32.60 |
– | Others | 2,411.38 | 2,984.36 | 23.76 |
รวม | 4,661.31 | 5,983,951,665 | 28.37 |
- สหรัฐฯ ส่งออกไปไทย เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,305.87 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (อันดับที่ 25) ลดลงร้อยละ 61 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยสินค้าหลักส่งออกไปไทย ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียม (HS Code 2709) ลดลงร้อยละ 60.16 แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (HS Code 8542) เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.27 เศษอะลูมิเนียม (HS Code 7602) เพิ่มขึ้นร้อยละ 41.31 ชิ้นส่วนกึ่งตัวนำไฟฟ้า (HS Code 8541) เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.39 และชิ้นส่วนรถแทรกเตอร์ (HS Code 8708) ลดลงร้อยละ 37.09
ตารางแสดง: เปรียบเทียบมูลค่าสหรัฐฯ ส่งออกสินค้าไปไทย 10 อันดับแรกเดือนกันยายน 2567
มูลค่า: ล้านดอลลาร์สหรัฐ
HS Code | สินค้า | กันยายน
2566 |
กันยายน
2567 |
เปลี่ยนแปลง % |
2709 | Petroleum Oils | 362.10 | 144.24 | -60.16 |
8542 | Electronic Integrated Circuits | 54.75 | 68.59 | 25.27 |
7602 | Aluminum Waste | 43.15 | 60.98 | 41.31 |
8541 | Semiconductor Devices | 47.68 | 55.49 | 16.39 |
8708 | Parts and Accessories for Tractors | 72.88 | 45.85 | -37.09 |
8802 | Aircraft, Powered | – | 43.29 | N/A |
7204 | Ferrous Waste And Scrap | 21.31 | 43.10 | 102.25 |
8473 | Part and Accessories for Typewriters | 8.63 | 37.94 | 339.42 |
8517 | Telephone Sets Incl Smartphones | 36.32 | 33.83 | -6.87 |
8800 | Civilian Aircraft, Engines, and Parts | 21.75 | 32.42 | 49.04 |
– | Others | 808.84 | 740.14 | -8.49 |
รวม | 1,477.41 | 1,305.87 | -11.61 |
ที่มา: Global Trade Atlas
มูลค่าการค้าระหว่างสหรัฐฯ – ไทย (เฉพาะรัฐในเขตพื้นที่อาณาดูแลของ สคต. ชิคาโก)
ในเดือนกันยายน 2567 สหรัฐฯ และไทย มีมูลค่าการค้าระหว่างประเทศเฉพาะในเขตพื้นที่อาณาดูแลของ สคต. ชิคาโก เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,642.12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.44 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยรัฐในเขตพื้นที่ดูแลมีมูลค่าการนำเข้าจากไทยทั้งสิ้น 1,268.29 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.71 และรัฐในเขตพื้นที่อาณาดูแลมีมูลค่าการส่งออกไปไทยทั้งสิ้น 373.83 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.34 โดยรวมรัฐในเขตพื้นที่อาณาดูแลมีมูลค่าการค้าระหว่างประเทศ ขาดดุล ไทยทั้งสิ้น 894.46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 41.63 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา
- รัฐที่นำเข้าจากไทยเป็นสัดส่วนสูง ได้แก่ รัฐอิลลินอยส์ (ร้อยละ 37.72) รัฐเคนทักกี (ร้อยละ 17.90) รัฐโอไฮโอ (ร้อยละ 12.09) รัฐอินดีแอนา (ร้อยละ 8.90) และรัฐมิชิแกน (ร้อยละ 8.84) ตามลำดับ สินค้าส่งออกสำคัญของไทยในรัฐเขตพื้นที่อาณาดูแล ได้แก่ เครื่องประมวลผล (HS Code 8471) ร้อยละ 14.59 โทรศัพท์ (HS Code 8517) ร้อยละ 13.27 เครื่องส่งสัญญาณวิทยุ (HS Code 8525) ร้อยละ 6.97 ชิ้นส่วนรถยนต์ (HS Code 8708) ร้อยละ 5.70 ยางรถยนต์ (HS Code 4011) ร้อยละ 3.98 หม้อแปลงไฟฟ้า (HS Code 8504) ร้อยละ 43 อาหารสัตว์เลี้ยง (HS Code 2309) ร้อยละ 2.40 อุปกรณ์ไฟฟ้า (HS Code 8543) ร้อยละ 1.92 ชิ้นส่วนเครื่องพิมพ์ (HS Code 8473) ร้อยละ 1.89 และเครื่องสูบลม (HS Code 8414) ร้อยละ 1.74 ตามลำดับ
- รัฐที่ส่งออกไปไทยเป็นสัดส่วนสูง ได้แก่ รัฐมิชิแกน (ร้อยละ 22.82) รัฐแคนซัส (ร้อยละ86) รัฐมินนิโซตา (ร้อยละ 13.38) รัฐอิลลินอยส์ (ร้อยละ 12.55) และรัฐโอไฮโอ (ร้อยละ 11.83) ตามลำดับ สินค้านำเข้าสำคัญของไทยจากรัฐในเขตพื้นที่อาณาดูแล ได้แก่ อากาศยาน (HS Code 8802) ร้อยละ 11.58 ชิ้นส่วนรถยนต์ (HS Code 8708) ร้อยละ 11.40 ชิ้นส่วนกึ่งตัวนำไฟฟ้า (HS Code 8541) ร้อยละ 6.37 น้ำมันปิโตรเลียม (HS Code 2710) ร้อยละ 5.89 ชิ้นส่วนอากาศยาน (HS Code 8800) ร้อยละ 3.97 เศษโลหะ (HS Code 7204) ร้อยละ 3.73 เศษอะลูมิเนียม (HS Code 7602) ร้อยละ 3.40 เครื่องยนต์สันดาป (HS Code 8407) ร้อยละ 3.15 ถั่วเหลือง (HS Code 1201) ร้อยละ 3.01 และอาหารแปรรูป (HS Code 2106) ร้อยละ 1.98 ตามลำดับ
สถิติการค้าสหรัฐฯ – ไทย (เฉพาะรัฐในเขตพื้นที่ดูแลของ สคต. ชิคาโก)
มูลค่า: ดอลลาร์สหรัฐ
ไทยนำเข้า | ไทยส่งออก | |||||||
รัฐ | ก.ย. 66 | ก.ย. 67 | ปป % | รัฐ | ก.ย. 66 | ก.ย. 67 | ปป % | |
1. มิชิแกน | 98.32 | 85.32 | -13.22 | 1. อิลลินอยส์ | 329.53 | 478.46 | 45.19 | |
2. แคนซัส | 4.51 | 55.54 | 1,130.47 | 2. เคนทักกี | 147.35 | 226.97 | 54.03 | |
3. มินนิโซตา | 25.21 | 50.02 | 98.44 | 3. โอไฮโอ | 133.62 | 153.39 | 14.80 | |
4. อิลลินอยส์ | 31.37 | 46.93 | 49.63 | 4. อินดีแอนา | 79.55 | 112.88 | 41.89 | |
5. โอไฮโอ | 48.90 | 44.24 | -9.53 | 5. มิชิแกน | 104.98 | 112.09 | 6.78 | |
6. ลุยเซียนา | 51.94 | 27.37 | -47.31 | 6. วิสคอนซิน | 25.90 | 38.94 | 50.36 | |
7. วิสคอนซิน | 26.35 | 20.85 | -20.87 | 7. มิสซูรี | 16.31 | 31.92 | 95.70 | |
8. อินดีแอนา | 14.01 | 11.55 | -17.58 | 8. มินนิโซตา | 56.51 | 30.36 | -46.27 | |
9. มิสซูรี | 7.36 | 8.58 | 16.57 | 9. ไอโอวา | 8.00 | 21.47 | 168.27 | |
10. เคนทักกี | 9.12 | 7.02 | -23.08 | 10. โอคลาโฮมา | 11.97 | 19.24 | 60.75 | |
11. ไอโอวา | 11.45 | 5.06 | -55.80 | 11. แคนซัส | 8.61 | 15.40 | 78.88 | |
12. เนบราสกา | 3.18 | 3.43 | 7.87 | 12. เนบราสกา | 27.82 | 10.15 | -63.53 | |
13. อาร์คันซอ | 3.12 | 3.22 | 3.18 | 13. ลุยเซียนา | 4.99 | 9.83 | 96.90 | |
14. โอคลาโฮมา | 3.29 | 2.92 | -11.02 | 14. อาร์คันซอ | 5.30 | 4.38 | -17.42 | |
15. นอร์ทดาโกตา | 0.18 | 1.66 | 813.06 | 15. นอร์ทดาโกตา | 8.97 | 1.82 | -79.68 | |
16. เซาท์ดาโกตา | 0.48 | 0.11 | -76.05 | 16. เซาท์ดาโกตา | 0.91 | 0.98 | 7.13 | |
รวม | 338.79 | 373.83 | 10.34 | รวม | 970.34 | 1,268.29 | 30.71 | |
ที่มา: U.S. Census Bureau, U.S. Department of Commerce
******************************
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก