การค้าระหว่างประเทศของกัมพูชาทะลุเกือบ 55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2567

• ตามรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิตแห่งกัมพูชา (General Department of Customs and Excise: GDCE) ระบุว่า ในปี 2567 มูลค่าการค้าระหว่างกัมพูชาและประเทศคู่ค้า รวมทั้งหมดอยู่ที่ 54.74 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.9% เมื่อเทียบกับปี 2566 ซึ่งมีมูลค่า 46.83 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการส่งออกมีมูลค่า 26.20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.7% ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 28.54 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 18% ส่งผลให้กัมพูชามีการขาดดุลการค้ารวมเกือบ 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
•  ประเทศคู่ค้าสำคัญ 5 อันดับแรกของกัมพูชา ได้แก่ จีน สหรัฐอเมริกา เวียดนาม ไทย และญี่ปุ่น สินค้าส่งออกหลักของกัมพูชา ได้แก่ เสื้อผ้า ผลไม้ เครื่องจักร อุปกรณ์ไฟฟ้า รองเท้า ยางพารา และผลิตภัณฑ์จากยาง รวมถึงสินค้าอื่นๆ ที่มีความสำคัญ ส่วนสินค้านำเข้าหลักประกอบด้วย เครื่องจักร ยานพาหนะ ผลิตภัณฑ์โลหะ ผลิตภัณฑ์พลาสติก และผลิตภัณฑ์เคมี
• สหรัฐอเมริกายังคงเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในกัมพูชา โดยมีมูลค่าการส่งออก 9.91 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 11.4% จากปีก่อน รองลงมาคือเวียดนาม 3.61 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จีน 1.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และญีปุ่น 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
• นอกจากนี้ จากรายงานของสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (The Council for the Development of Cambodia: CDC) ระบุว่า ในปี 2567 CDC ได้อนุมัติโครงการลงทุนรวม 414 โครงการ เพิ่มขึ้น 54% หรือคิดเป็นจำนวน 146 โครงการ เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีเพียง 268 โครงการ โดยมูลค่าการลงทุนรวมในปี 2567 อยู่ที่ 6.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 40% จากมูลค่า 4.92 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566

ความเห็นของสำนักงานฯ

1. การเพิ่มขึ้นของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศของกัมพูชาประมาณ 17% ในปี 2567 สะท้อนถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและศักยภาพในการพัฒนาในด้านการค้าและการลงทุนของประเทศ ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตนี้ ได้แก่ สิทธิพิเศษทางภาษีที่กัมพูชาได้รับ เช่น CCFTA, CKFTA, EBA, CAM-UAE CEPA, RCEP และการเป็นสมาชิกของ WTO รวมถึงการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต และการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
2. การเติบโตดังกล่าวยังชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่น และการยกระดับความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก ทั้งนี้ คาดว่า รัฐบาลกัมพูชาจะให้ความสำคัญกับการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าส่งออก การสร้างความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศคู่ค้าอื่นๆ และการส่งเสริมอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มสูง
3. นอกจากนี้ เพื่อมุ่งสู่การก้าวออกจากกลุ่มประเทศพัฒนาน้อยที่สุด (LDC) ภายในปี 2572 คาดว่า กัมพูชาจะพยายามยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันและการพัฒนาเศรษฐกิจ เช่น การพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ และการแสวงหาตลาดใหม่ๆ เพื่อขยายโอกาสการส่งออกสินค้าให้เพิ่มมากขึ้น

————————————

ที่มา: Phnom Penh Posts & Khmer Times

มกราคม 2568