การจดทะเบียนบริษัทในฮ่องกงสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2567

ธุรกิจท้องถิ่นทะลุ 1.45 แสนราย-บริษัทต่างชาติกว่าพันรายเลือกฮ่องกงเป็นฐานธุรกิจ

ฮ่องกงประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการดึงดูดการลงทุน หลังยอดจดทะเบียนบริษัททั้งในและต่างประเทศพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2567

 

สำนักงานจดทะเบียนบริษัทเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า นอกจากการปรับกระบวนการจดทะเบียนให้คล่องตัวแล้ว ความสำเร็จครั้งนี้ยังเป็นผลจากนโยบายเชิงรุกของรัฐบาลในการดึงดูดบริษัทจากต่างประเทศ

 

ตัวเลขล่าสุดชี้ว่า ในปี 2567 มีธุรกิจท้องถิ่นจดทะเบียนใหม่พุ่งทะลุ 145,053 ราย ส่งผลให้จำนวนบริษัทที่จดทะเบียนภายใต้พระราชบัญญัติบริษัทขยับขึ้นแตะ 1.46 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 29,736 ราย นับเป็นสถิติสูงสุดครั้งใหม่ ในด้านการลงทุนจากต่างประเทศ มีบริษัทต่างชาติ 1,079 ราย เลือกเปิดสำนักงานในฮ่องกง ส่งผลให้จำนวนบริษัทต่างชาติที่จดทะเบียน ณ สิ้นปี 2567 เพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อน แตะระดับ 15,126 ราย ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเช่นกัน

กฎหมายใหม่เสริมความแข็งแกร่งฮ่องกงสู่จุดหมายของนักลงทุน

แรงหนุนสำคัญมาจากการแก้ไขบทบัญญัติการจัดตั้งบริษัท 2 ประการ ประการแรกคือ การอนุญาตให้บริษัทจดทะเบียนในฮ่องกงถือครองและจำหน่ายหุ้นคงคลังได้ และประการที่สอง การเปิดทางให้บริษัทต่างชาติย้ายภูมิลำเนามาฮ่องกง โดยยังคงสถานะทางกฎหมายและความต่อเนื่องทางธุรกิจ พร้อมลดขั้นตอนทางศาลที่ยุ่งยากและค่าใช้จ่ายที่สูง

 

Mr. Christopher Hui Ching-yu, Secretary for Financial Services and the Treasury ระบุว่าตัวเลขดังกล่าวสะท้อนความเป็นเลิศของระบบนิเวศทางธุรกิจในฮ่องกง ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการพัฒนาที่สมบูรณ์แบบสำหรับทั้งบริษัทท้องถิ่นและต่างชาติ พร้อมย้ำว่า รัฐบาลจะเร่งผลักดันมาตรการส่งเสริมการจดทะเบียนที่ตั้งบริษัทต่างประเทศ เพื่อยกระดับความน่าสนใจของฮ่องกงในฐานะจุดหมายปลายทางของการลงทุนระดับโลก

 

กองทุนเติบโตแข็งแกร่ง เสริมฮ่องกงเป็นผู้นำการบริหารสินทรัพย์

 

ฮ่องกงประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในการเสริมสร้างบทบาทการเป็นศูนย์กลางการจัดการสินทรัพย์และความมั่งคั่งระดับนานาชาติ โดย ณ สิ้นปี 2567 มีกองทุนหุ้นส่วนจำกัดประมาณ 1,000 กองทุน และกองทุนเปิดมากกว่า 470 กองทุน เพิ่มขึ้น 35% และ 93% ตามลำดับเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

 

Mr. Rock Chen Chung-nin, a member of the Legislative Council’s financial affairs panel กล่าวว่า ความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากการดำเนินนโยบายดึงดูดบุคลากรและบริษัทต่างชาติอย่างจริงจัง “ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง และสะท้อนถึงผลจากความพยายามอันหลากหลายของรัฐบาลในการชักนำทั้งบริษัทและบุคลากรจากทั่วโลกให้มาลงหลักปักฐานในฮ่องกง”

 

เขายังชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลได้ทุ่มเทอย่างมากในการประชาสัมพันธ์ฮ่องกงในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน ตะวันออกกลาง และผ่านโครงการ Belt and Road Initiative ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์ของจีนในการเสริมสร้างเครือข่ายการค้าโลก

 

“แม้เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอน แต่บริษัทเหล่านี้มองเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจฮ่องกงและจีน จึงเลือกวางรากฐานธุรกิจในฮ่องกงเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต เปรียบเสมือนการหว่านเมล็ดพันธุ์ก่อนที่การฟื้นตัวครั้งใหญ่จะมาถึง” Mr. Chen กล่าวเพิ่มเติม

 

รัฐบาลเดินหน้าดึงดูดบริษัทและนักลงทุนระดับโลก

 

Mr. John Lee Ka-chiu ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง เปิดเผยในการแถลงนโยบายเมื่อปี 2565 ถึงการจัดตั้งสำนักงาน Office for Attracting Strategic Enterprises โดยมีเป้าหมายในการเจรจากับบริษัทชั้นนำกว่า 350 แห่งภายในปี 2568 พร้อมเสนอมาตรการจูงใจที่ครอบคลุม อาทิ การสนับสนุนด้านภาษี การจัดสรรที่ดิน การช่วยเหลือด้านการศึกษาบุตร และการอำนวยความสะดวกด้านวีซ่า

 

Mr. Paul Chan Mo-po, Financial Secretary Paul เปิดเผยถึงความสำเร็จภายหลังการจัดตั้งสำนักงานดังกล่าวเมื่อปลายปี 2565 ว่า ฮ่องกงสามารถดึงดูดบริษัทนวัตกรรมและเทคโนโลยีกว่า 100 แห่งให้จัดตั้งหรือขยายกิจการในฮ่องกง โดยมีมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 6.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และสามารถสร้างตำแหน่งงานใหม่ถึง 15,000 ตำแหน่ง พร้อมกันนี้ รัฐบาลยังได้จัดสรรงบประมาณ 30,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง เพื่อจัดตั้งกองทุนร่วมลงทุนสำหรับดึงดูดและสนับสนุนการเติบโตของภาคธุรกิจ

 

 

ความคิดเห็นของ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง

 

 ด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อธุรกิจของฮ่องกง เงินทุนมีการหมุนเวียนอย่างเสรี และกรอบการกำกับดูแลที่โปร่งใส ทำให้อุตสาหกรรมต่างๆ ในฮ่องกงดำเนินไปอย่างราบรื่น โดยเฉพาะ การเงิน เทคโนโลยี โลจิสติกส์ และการท่องเที่ยว ทั้งนี้โครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมต่อระดับโลกของฮ่องกงยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ ในขณะที่แรงงานที่มีทักษะและหลากหลายสามารถตอบสนองความต้องการทางธุรกิจต่างๆ ได้ดี  นอกจากนี้ ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญที่มีโอกาสในการสร้างเครือข่ายมากมายผ่านงานแสดงสินค้าและสมาคมธุรกิจต่าง ๆ การขยายธุรกิจในฮ่องกงสร้างโอกาสในการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ การร่วมทุน และการเข้าถึงเงินทุนจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการเติบโตทางธุรกิจอย่างรวดเร็วและยั่งยืน สำหรับนักลงทุนและผู้ประกอบการไทยที่มีความสนใจจัดตั้งธุรกิจให้เติบโตในต่างประเทศ ฮ่องกงจึงเป็นอีกจุดหมายที่น่าสนใจ

 

 

แหล่งข้อมูล: https://www.scmp.com/news/hong-kong/hong-kong-economy/article/3295152/hong-kong-saw-record-company-registrations-2024-authorities?module=top_story&pgtype=subsection

thThai