Food Network คาดการณ์ 8 เทรนด์อาหารที่น่าจับตามองในปี 2025

คุณ Heath Goldman ทำงานเป็นบรรณาธิการให้กับ Food Network มามากกว่า 5 ปี โดยมีความเชี่ยวชาญในการเขียนบทความแนะนำการทำอาหารหลากหลายรสชาติ

และมีประสบการณ์ในการเขียนเนื้อหาเกี่ยวกับการทำอาหารให้กับสื่อระดับประเทศมา กว่า 10 ปี และได้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการทำอาหารกว่า 30 คน คาดการณ์ 8 เทรนด์อาหารที่น่าจับตามองแลแนวโน้มการบริโภคที่คาดว่าจะได้รับความนิยมในกลุ่มชาวอเมริกันในปี 2025 ไว้ดังนี้

  • ขนมอบแห้งด้วยความเย็น (Freeze-Dried Treats)

ในอดีต “ขนมอบแห้งด้วยความเย็น” อาจทำให้ชาวอเมริกันหลายคนคิดถึงอาหารสำหรับการเดินป่า แต่ปัจจุบันด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การอบแห้งด้วยความเย็นที่มีประสิทธิภาพและราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น ทำให้ขนมอบแห้งด้วยความเย็นกลายเป็นที่นิยมและอร่อยมากขึ้น เช่น ขนมกัมมี่แบบอบแห้ง ทั้งกัมมี่แบร์และกัมมี่รสพีชรูปวงแหวนจากบริษัท Sweety Treaty Co ที่ได้รับความนิยมใน TikTok หรือขนมชีสเค้กอบแห้งจาก Freezecake ข้อดีของการอบแห้งด้วยความเย็นคือสามารถกำจัดความชื้นออกจากขนม ทำให้ขนมมีความกรอบและมีขนาดเพิ่มขึ้น พร้อมกับรสชาติที่เข้มข้นขึ้น เช่น ขนมมาร์ชเมลโลว์อบแห้งจาก Lucky Charms ด้วยความที่ขนมอบแห้งด้วยความเย็นเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ราคาไม่แพง ทำให้หลายคนเลือกที่จะลองขนมในรูปแบบนี้

  • นวัตกรรม AI กับการช็อปปิ้งสินค้าอาหาร

การเปลี่ยนแปลงวิธีการช็อปปิ้งสินค้าอาหารของผู้บริโภคค่อนข้างเป็นเรื่องยาก แต่ที่ผ่านมา AI  ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก บริษัทยักษ์ใหญ่ อย่าง Walmart Amazon และ Instacart ได้เปิดตัวฟีเจอร์การค้นหาสินค้าอาหารด้วย AI ใหม่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ทำงานคล้ายกับเครื่องมือค้นหา แต่จะเรียนรู้จากการค้นหาและพฤติกรรมของผู้ใช้ และให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและชาญฉลาด กล่าวคือ ผู้ใช้สามารถค้นหาสินค้าโดยใช้คำถามว่า “อะไรที่นำไปทำอาหารได้ดีกับอกไก่” โดยผู้ใช้จะได้รับผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการอย่างเจาะจง อีกทั้งภายในร้านค้า ตะกร้าช็อปปิ้งอัจฉริยะ หรือ AI Smart Carts ก็กำลังเริ่มเข้ามามีบทบาทอย่างมาก พร้อมที่จะช่วยให้ผู้ซื้อประหยัดเงินจริง ๆ และทำให้การช็อปปิ้งมีความสนุกมากขึ้น

  • กระแสความนิยมคาลาแมนซี่ (Calamansi) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “มะนาวฟิลิปปินส์”

คาลาแมนซี่ เป็นส่วนผสมสำคัญในอาหารฟิลิปปินส์และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีรสเปรี้ยวที่

คล้ายกับการผสมระหว่างเลมอน มะนาว และส้ม ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงหลัง ๆ ตัวอย่างเช่น Trader Joe’s ที่ได้วางจำหน่ายไอศกรีมโซเบต์รสคาลาแมนซี่และมะม่วง ขณะเดียวกัน คาลาแมนซี่ได้ถูกนำไปใช้เป็นรสชาติของขนมที่วางจำหน่ายภายในซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านอาหารหรูทั่วประเทศ อย่างที่ปรากฎในรายการ Harry Potter Wizards of Baking ของ Food Network เชฟ Miko Kaw Hok Uy ได้คิดค้นเมนูเค้กเอิร์ลเกรย์ที่มีส่วนผสมประกอบด้วยคาลาแมนซี่ที่ทำเป็นคัสตาร์ด กานาชเอิร์ลเกรย์ และอัลมอนด์ ทั้งนี้ คาดว่าในอนาคตจะเห็นการนำคาลาแมนซี่มาเป็นส่วนผสมในรสชาติของขนมและในเมนูร้านอาหารแบบฟาสต์แคชชวล (Fast-casual dining) มากยิ่งขึ้น

  • เครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับประกอบอาหารที่ควบคุมอย่างง่าย (One-Trick Appliances)

เทรนด์ที่กำลังมาแรงที่สุดในหมวดการช็อปปิ้ง คือ เครื่องใช้ไฟฟ้ารูปแบบน่ารักๆ ที่ใช้งานง่ายเพียงกดปุ่ม

เดียว ตัวอย่างเช่น Ninja Creami ที่โด่งดังใน TikTok ซึ่งสามารถผสมส่วนผสมเพียงไม่กี่อย่างให้กลายเป็นไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้ เครื่องทำไอศกรีมมีมาเป็นเวลานานแล้ว แต่ Creami มีขนาดที่เล็กและมีอินเตอร์เฟซที่มีปุ่มไม่กี่ปุ่ม และอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์อย่าง Dash Mini Waffle Maker ตัวจิ๋วที่มีราคาต่ำกว่า 10 เหรียญสหรัฐฯ ก็เป็นตัวอย่างที่ดี ที่กำลังเป็นเทรนด์ในปัจจุบัน

  • อาหารสำหรับกลุ่มผู้ลดน้ำหนักที่ต้องเต็มไปด้วยสารอาหาร

ปัจจุบันผู้ที่ใช้ยาลดน้ำหนัก GLP-1 มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งผู้บริโภคกลุ่มนี้ มักต้องการของว่างและมื้ออาหารที่มีขนาดพอดี ไม่อ้วนแต่เต็มไปด้วยสารอาหาร และเพื่อให้ตอบสนองความต้องการนี้ของผู้บริโภคกลุ่มนี้ ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค จึงเริ่มเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่างเช่น เมื่อปลายปี 2024 บริษัท Nestle เปิดตัวอาหารแช่แข็งสำหรับผู้ใช้ GLP-1 ภายใต้ชื่อ Vital Pursuit ซึ่งเป็นมื้ออาหารที่มีโปรตีน มีใยอาหาร และสารอาหารสำคัญในขนาดพอดีคำ และบริษัท Daily Harvest ที่ผลิตผลิตภัณฑ์ก็มีเมนูตรงกับความต้องการของผู้ต้องการลดน้ำหนักใช้ GLP-1 เช่นกัน

  • เนื้อเดลี่ที่ทำจากพืช (Plant-Based Deli Meat)

ตามรายงานของ Good Food Institute ยอดขายอาหาร Plant Based ลดลงระหว่างปี 2021 ถึง 2023 โดยปัญหาหลักคือราคา เนื่องจากเนื้อจากพืชมีราคาสูงกว่าผลิตภัณฑ์จากสัตว์เฉลี่ยถึง 77 เปอร์เซ็นต์ แต่ในทางกลับกัน เนื้อจากพืชในรูปแบบเดลี่ อย่างเนื้อสไลซ์สำหรับแซนด์วิช กลับได้รับความนิยมและยังคงขายดี ผู้บริโภคไม่ค่อยกังวลเรื่องราคาเพราะคุ้นเคยกับการจ่ายเงินเพื่อผลิตภัณฑ์พรีเมียมสำหรับเนื้อสไลซ์อยู่แล้ว ปัจจุบันแบรนด์ต่าง ๆ กำลังเปิดตัวผลิตภัณฑ์โปรตีนที่ผ่านการแปรรูปน้อยลง และบางแบรนด์เริ่มปรับรูปแบบการวางขายแต่เฉพาะบนชั้นของผลิตภัณฑ์เดลี่ เช่น แบรนด์ Prime Roots ที่ขายผลิตภัณฑ์เดลี่จากพืชที่ไม่มีส่วนผสมของสารกันบูด ไนเตรต คอเลสเตอรอล ถั่วเหลือง หรือข้าวสาลี แต่ใช้เครื่องเทศและโคจิ (ข้าวหมักญี่ปุ่นที่มีรสอูมามิ เช่นเดียวกับที่เชฟมิชลินสตาร์บางคนใช้ เช่น René Redzepi

  • คลับสำหรับคนรักการทำอาหารและทดลองชิม (Cookbook Clubs)

คลับสำหรับคนรักอาหาร กำลังเป็นที่นิยมในเมืองต่าง ๆ ตั้งแต่ในนิวยอร์กซิตี้ไปจนถึงลอนดอน โดยสมาชิกแต่ละคนจะทำอาหารจากสูตรในตำราอาหาร  โดยตำราอาหารที่ได้รับความนิยมมากจะเป็นของ Ina Garten แล้วนำมาร่วมแชร์กันในงานพบปะสังสรรค์  เทรนด์นี้กำลังได้รับความสนใจบน TikTok ด้วย “สเตฟานี เลา” ผู้ก่อตั้งคลับสำหรับคนรักอาหาร ที่กลายเป็นไวรัล ได้กล่าวในการสัมภาษณ์กับ Food Network ว่าผู้คนต้องการมีปฏิสัมพันธ์ด้านอาหารกับคนอื่น ๆ ผู้คนต้องการลิ้มลองอาหารที่หลากหลาย ไม่ใช่แค่เห็นผ่านฟีดของ Social media เท่านั้น

  • อาหารบำรุงสมองสำหรับเด็ก (Brain Food for Kids)

แบรนด์อาหารเด็กกำลังเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่บำรุงสมองมากขึ้น ปัจจัยส่งเสริมมาจากพ่อแม่ในปัจจุบัน ที่ลงทุนทั้งเวลาและการเงินในการส่งเสริมพัฒนาการของลูกๆ พ่อแม่หลายคนพร้อมจ่ายเงินสำหรับขนมในหมวดนี้ ยกตัวอย่างได้จากแบรนด์ เช่น Cerebelly หรือ Braniac ที่โฆษณาว่ามี “สารอาหารที่บำรุงสมอง” และช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางสมองของเด็ก ซึ่งได้รับความนิยมมากในสหรัฐฯ

ความคิดเห็นของสคต. นิวยอร์ก: แนวโน้มในปี 2025 สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมอาหาร ที่มีการมุ่งเน้นไปที่การตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ การให้ความสำคัญกับคุณภาพของวัตถุดิบและการพัฒนาอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยให้ผู้บริโภครู้สึกมั่นใจในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากขึ้น ผู้ส่งออกและผู้ประกอบการไทยสามารถใช้แนวโน้มอาหารในปี 2025 ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดโลก โดยการเน้นที่คุณภาพของวัตถุดิบ การพัฒนาโปรตีนและอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และการใช้นวัตกรรมทางการตลาดผ่านช่องทางดิจิทัลเพื่อสร้างแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์และดึงดูดผู้บริโภค

ข้อมูลอ้างอิงจาก: https://www.cnn.com/wbd/food-network-predicts-the-biggest-food-trends-of-2025/index.html สคต. นิวยอร์ก เดือนมกราคม 2568

thThai