ในปี 2567 เศรษฐกิจของนครเซี่ยงไฮ้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเซี่ยงไฮ้ในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2567 ขยายตัวถึง 4.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ทำให้มูลค่า GDP รวมอยู่ที่ 3.44 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 482 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
แหล่งที่มาของรูป : https://www.sohu.com/a/291218595_204131?_f=index_chan29news_68
ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2568 รัฐบาลจีนได้ดำเนินมาตรการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศอย่างเข้มข้น โดยเมืองต่างๆ รวมถึงเซี่ยงไฮ้ ได้แจกคูปองส่วนลดและเงินอุดหนุนเพื่อส่งเสริมการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน หลายเมืองในจีน เริ่มมอบเงินอุดหนุนสินค้าหลากหลายประเภทและบริการต่าง ๆ เพื่อดึงดูดให้ประชาชนหันมาใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน ที่มีระยะเวลานาน 8 วัน โดยบรรดานักลงทุนต่างจับตาดูสัญญาณการฟื้นตัวของอุปสงค์ หลังจากที่มาตรการจูงใจให้ประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอยนั้น ช่วยหนุนให้ยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1 ล้านล้านหยวน (1.38 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อปีที่ผ่านมา
แหล่งที่มาของรูป : http://www.nnnews.net/yaowen/p/3146652.html
Kelvin Lam นักเศรษฐศาสตร์จาก Pantheon Macroeconomics ระบุว่า แม้คูปองเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย แต่ก็เป็นเพียงการดึงอุปสงค์ล่วงหน้ามาใช้ และอาจไม่ได้ส่งผลระยะยาว หากอัตราการจ้างงานและรายได้ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ความนิยมของคูปองยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยในช่วงปลายเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ประชาชนกว่า 10 ล้านคน พยายามแย่งกันรับคูปองเพื่อใช้ในร้านค้าและร้านอาหาร หลังรัฐบาลท้องถิ่นประจำมณฑลหูเป่ยแจกคูปองเหล่านี้โดยให้สิทธิ์แบบมาก่อนได้ก่อน ขณะที่เว็บไซต์จองตั๋วออนไลน์แห่งหนึ่ง ซึ่งแจกบัตรชมภาพยนตร์ภายใต้มาตรการอุดหนุน 30 ล้านใบในปี 2024 ระบุว่า บัตรเหล่านี้ถูกขายหมดภายในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง ด้านประชาชนรายหนึ่งระบุว่า “คูปองร้านอาหารเป็นที่นิยมมากที่สุด ซึ่งมักจะถูกแจกหมดภายในไม่กี่นาทีเท่านั้น”
แหล่งที่มาของรูป : https://news.sohu.com/a/795647634_267106
ขณะที่นครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีจำนวนประชากรอยู่อาศัยเทียบเท่ากับประเทศออสเตรเลีย เปิดตัวคูปองมูลค่า 500 ล้านหยวนในเดือนกันายน 2567 สำหรับใช้จ่ายในโรงแรม ร้านอาหาร และโรงภาพยนตร์ ซึ่งถือเป็นมาตรการกระตุ้นครั้งใหญ่ที่สุดของเซี่ยงไฮ้ โดยมาตรการดังกล่าว เกิดขึ้นก่อนช่วงวันหยุดยาวครั้งล่าสุดที่เรียกว่า “โกลเด้นวีค” และเพื่อเป็นการกระตุ้นการบริโภคอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นครเซี่ยงไฮ้ ได้ประกาศแจกคูปองรอบใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังรายงานยอดขายปลีกที่ลดลงในปี 2567 ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 40 ปี
มาตรการเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลจีนในการกระตุ้นการบริโภคและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม การกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น ตรุษจีน อาจเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจจีนในปี 2568 และทำตลาดจีนให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ข้อคิดเห็น สคต.เซี่ยงไฮ้
จากรายงานข่าวสามารถพิจาราณาเห็นได้ว่า
- ใช้โอกาสจากมาตรการกระตุ้นการบริโภค
- ผู้ประกอบการไทยควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับคูปองและเงินอุดหนุนที่รัฐบาลจีนแจกให้ประชาชน เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการทำการตลาด เช่น การร่วมมือกับร้านค้าหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เข้าร่วมโครงการเหล่านี้
- เน้นกลุ่มสินค้าและบริการที่ได้รับความนิยม
เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหาร และบริการด้านความบันเทิง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลบวกจากมาตรการกระตุ้นการบริโภค
- เตรียมความพร้อมสำหรับเทศกาลสำคัญ
โดยเฉพาะช่วงตรุษจีนและวันหยุดยาวอื่นๆ ที่มีการใช้จ่ายสูง ผู้ประกอบการควรวางแผนการตลาดและสต็อกสินค้าให้พร้อม
- ติดตามแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน
โดยเฉพาะอัตราการจ้างงานและรายได้ของประชาชน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจใช้จ่ายในระยะยาว
- สร้างความร่วมมือกับท้องถิ่น
เช่น การร่วมมือกับรัฐบาลท้องถิ่นหรือพันธมิตรทางธุรกิจในจีน เพื่อเข้าถึงมาตรการสนับสนุนและกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเข้าใจนโยบายและพฤติกรรมผู้บริโภคในจีนจะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถปรับกลยุทธ์การตลาดได้อย่างเหมาะสม และใช้โอกาสจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนให้เกิดประโยชน์สูงสุด
แหล่งที่มา
- https://www.prnewswire.com/news-releases/figures-show-shanghais-gdp-economy-growing-302291093.html
- https://www.bangkokbiznews.com/world/1164073?utm
- https://www.efinancethai.com/LastestNews/LatestNewsMain.aspx?id=QkdxREY3bDBOcGM9
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้
กุมภาพันธ์ 2568