รายงานสถานการณ์การค้าการลงทุนของเวียดนามในเดือนมกราคม 2568

A. ด้านการค้า

  1. การค้าระหว่างประเทศของเวียดนาม

1.1 เดือนมกราคม 2568

ในเดือนมกราคม 2568 การค้ารวมของเวียดนามมีมูลค่า 63,249 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 10.3 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 และลดลงร้อยละ 3.3 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 โดยเป็นการส่งออกมูลค่า 33,188 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 6.6 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 และลดลงร้อยละ 4.0 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 และการนำเข้ามูลค่า 30,060 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 14.1 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 และลดลงร้อยละ 2.6 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 โดยเกินดุลการค้ามูลค่า 3,128 ล้านเหรียญสหรัฐ

ตารางที่ 1: สถิติการค้าระหว่างเวียดนามกับโลก

หน่วย: พันล้านเหรียญสหรัฐ

รายการ ในเดือนมกราคม
2566 2567 2568
มูลค่า %

การเปลี่ยนแปลง

มูลค่า %

การเปลี่ยนแปลง

มูลค่า %

การเปลี่ยนแปลง

ปริมาณการค้ารวม 46.6 -25.0 65.4 40.3 63.2 -3.3
– การส่งออก 23.6 -25.8 34.6 46.2 33.2 -4.0
– การนำเข้า 23.0 -24.1 30.9 34.2 30.1 -2.6
ดุลการค้า 0.7 -58.9 3.7 466.0 3.1 -15.5

ที่มา: กรมศุลกากรของเวียดนาม

1.2 การส่งออก

สินค้าส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และส่วนประกอบ มูลค่า 6,053 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 17.4 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.3 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 รองลงมาคือ โทรศัพท์ โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์และส่วนประกอบ มูลค่า 4,832 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.3 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 และลดลงร้อยละ 13.2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567) เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล มูลค่า 3,862 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลงร้อยละ 12.0 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 และลดลงร้อยละ 4.0 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567) สิ่งทอและเครื่องนุ่มห่ม มูลค่า 3,189 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลงร้อยละ 5.4 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567) และรองเท้า มูลค่า 1,898 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลงร้อยละ 9.9 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 และลดลงร้อยละ 3.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567) ตามลำดับ

ตลาดส่งออกสินค้าสำคัญของเวียดนาม 5 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา มูลค่า 10,498 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 รองลงมาคือ จีน มูลค่า 3,647 ล้านเหรียญสหรัฐ (-20.6%) เกาหลีใต้ มูลค่า 2,202 ล้านเหรียญสหรัฐ (-5.5%) ญี่ปุ่น มูลค่า 2,148 ล้านเหรียญสหรัฐ (-3.6%) และเนเธอร์แลนด์ มูลค่า 1,046 ล้านเหรียญสหรัฐ (-0.6%) ตามลำดับ ทั้งนี้ ไทยเป็นตลาดส่งออกสำคัญลำดับที่ 10 มูลค่า 643.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (-14.9%)

1.3 การนำเข้า

สินค้านำเข้าสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และส่วนประกอบ มูลค่า 9,733 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.8 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 รองลงมาคือ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล มูลค่า 3,993 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลงร้อยละ 14.8 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567) ผ้าผืน มูลค่า 1,080 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลงร้อยละ 18.8 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 และลดลงร้อยละ 7.9 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567) เม็ดพลาสติก มูลค่า 871 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลงร้อยละ 21.9 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 และลดลงร้อยละ 5.0 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567) และโทรศัพท์ โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์และส่วนประกอบ มูลค่า 856 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลงร้อยละ 12.1 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 และลดลงร้อยละ 3.8 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567) ตามลำดับ

ตลาดนำเข้าที่สำคัญของเวียดนาม 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน มูลค่า 12,046 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 รองลงมาคือ เกาหลีใต้ มูลค่า 4,197 ล้านเหรียญสหรัฐ (-0.9%) ไต้หวัน มูลค่า 2,193 ล้านเหรียญสหรัฐ (+13.1%) ญี่ปุ่น มูลค่า 1,664 ล้านเหรียญสหรัฐ (-14.4%) และสหรัฐอเมริกา มูลค่า 1,156 ล้านเหรียญสหรัฐ (-6.6%) ตามลำดับ ทั้งนี้ ไทยเป็นตลาดนำเข้าสำคัญลำดับที่ 6 มูลค่า 764.1 ล้านเหรียญสหรัฐ (-12.1%)

ตารางที่ 2: สถิติการส่งออกไปยังตลาดหลักของเวียดนามในเดือนมกราคม 2568

ที่ ตลาด สินค้าหลัก มูลค่า

(พันล้านเหรียญสหรัฐ)

%

การเปลี่ยนแปลง

1 สหรัฐอเมริกา –     เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และส่วนประกอบ

–     เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล

–     สิ่งทอ

10.50 4.6
2 จีน –     โทรศัพท์ โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์และส่วนประกอบ

–     เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และส่วนประกอบ

–     กล้องถ่ายรูป กล้องวิดีโอ และอุปกรณ์

3.65 -20.6
3 เกาหลีใต้ –     เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และส่วนประกอบ

–     โทรศัพท์ โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์และส่วนประกอบ

–     สิ่งทอ

2.20 -5.5
4 ญี่ปุ่น –     สิ่งทอ

–     ยานพาหนะการขนส่ง ชิ้นส่วน อุปกรณ์และส่วนประกอบ

–     เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล

2.15 -3.6
5 เนเธอร์แลนด์ –     เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และส่วนประกอบ

–     เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล

–     รองเท้า

1.05 -0.6
6 ฮ่องกง –     เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และส่วนประกอบ

–     โทรศัพท์ โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์และส่วนประกอบ

–     เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล

0.86 -1.3
7 เยอรมนี –     เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล

–     โทรศัพท์ โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์และส่วนประกอบ

–     เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และส่วนประกอบ

0.86 11.9
8 อินเดีย –     โทรศัพท์ โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์และส่วนประกอบ

–     เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และส่วนประกอบ

–     โลหะพื้นฐานอื่นๆ และผลิตภัณฑ์จากโลหะพื้นฐาน

0.83 2.9
9 สหราชอาณาจักร –     เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล

–     โทรศัพท์ โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์และส่วนประกอบ

–     รองเท้า

0.71 -8.3
10 ไทย –     เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล

–     โทรศัพท์ โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์และส่วนประกอบ

–     เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และส่วนประกอบ

0.64 -14.9

ที่มา: กรมศุลกากรของเวียดนาม

ตารางที่ 3: สถิติการนำเข้าตามตลาดหลักของเวียดนามในเดือนมกราคม 2568

ที่ ตลาด สินค้าหลัก มูลค่า

(พันล้านเหรียญสหรัฐ)

%

การเปลี่ยนแปลง

1 จีน –     เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และส่วนประกอบ

–      เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล

–     ผ้าผืน

12.05 1.5
2 เกาหลีใต้ –     เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และส่วนประกอบ

–      เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล

–     เม็ดพลาสติก

 

4.20

 

-0.9
3 ไต้หวัน –     เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และส่วนประกอบ

–     ผ้าผืน

–     เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล

2.19 13.1
4 ญี่ปุ่น –     เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และส่วนประกอบ

–     เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล

–     เหล็กและเหล็กกล้า

1.66 -14.4
5 สหรัฐอเมริกา –     เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และส่วนประกอบ

–     เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล

–     ถั่วเหลือง

1.16 -6.6
6 ไทย –     เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านและส่วนประกอบ

–     เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล

–     เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และส่วนประกอบ

0.76 -12.1
7 อินโดนีเซีย –     ถ่านหิน

–     ไขมันสัตว์และน้ำมันพืช

–     กลุ่มแร่โลหะพื้นฐานอื่นๆ

0.69 -2.4
8 มาเลเซีย –     เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และส่วนประกอบ

–     ผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียม

–     เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล

0.65 -23.7
9 ออสเตรเลีย –      ถ่านหิน

–      แร่และผลิตภัณฑ์จากแร่

–      กลุ่มแร่โลหะพื้นฐานอื่นๆ

0.57 -18.4
10 สิงคโปร์ –      ผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียม

–      เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และส่วนประกอบ

–      ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมอื่น ๆ

0.49 43.3

ที่มา: กรมศุลกากรของเวียดนาม

  1. การค้าระหว่างเวียดนามกับไทย

2.1 การค้ารวม

ในเดือนมกราคม 2568 การค้าระหว่างเวียดนามกับไทยมีมูลค่า 1,407.58 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 21.9 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 และลดลงร้อยละ 13.4 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 โดยเวียดนามส่งออกสินค้าไปไทยมูลค่า 643.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567  และลดลงร้อยละ 14.9 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 และเวียดนามนำเข้าสินค้าจากไทยมูลค่า 764.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 35.9 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 และลดลงร้อยละ 12.1 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567

ตาราง 4: สถิติการค้าระหว่างเวียดนามกับไทย

หน่วย: พันล้านเหรียญสหรัฐ

รายการ ในเดือนมกราคม
2566 2567 2568
มูลค่า ขยายตัว

(%)

สัดส่วน (%) มูลค่า ขยายตัว

(%)

สัดส่วน (%) มูลค่า ขยายตัว

(%)

สัดส่วน (%)
ปริมาณการค้า 1.3 -16.4 2.8 1.6 22.8 2.5 1.4 -13.4 2.2
– การส่งออก 0.6 -1.3 2.4 0.8 35.6 2.2 0.6 -14.9 1.9
– การนำเข้า 0.8 -24.7 3.3 0.9 13.4 2.8 0.8 -12.1 2.5
ดุลการค้า -0.2 -54.0 31.8 -0.1 46 3.0 -0.1 7.0 3.9

ที่มา: กรมศุลกากรของเวียดนาม

2.2 การส่งออก

  • สินค้าส่งออกไปไทยที่สำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ โทรศัพท์ โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์และส่วนประกอบ มูลค่า 99.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 293.0 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 และลดลงร้อยละ 36.2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 รองลงมาคือ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล มูลค่า 89.6 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.2 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 และลดลงร้อยละ 5.9 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567) เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และส่วนประกอบ มูลค่า 60.7 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลงร้อยละ 59.2 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 และลดลงร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567) น้ำมันดิบ มูลค่า 51.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 100.0 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567) และ ยานพาหนะอื่น ๆ อุปกรณ์และส่วนประกอบ มูลค่า 51.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.0 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 และลดลงร้อยละ 9.4 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567) ตามลำดับ รายละเอียดตามภาคผนวก 1

สินค้าส่งออกไปไทยที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

– เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567: สารเคมี มูลค่า 11.63 ล้านเหรียญสหรัฐ (+0%) รองลงมาคือ โทรศัพท์ โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์และส่วนประกอบ มูลค่า 99.10 ล้านเหรียญสหรัฐ (+293.0%) น้ำมันดิบ มูลค่า 51.40 ล้านเหรียญสหรัฐ (+100.0%) ถ่านหิน มูลค่า 1.42 ล้านเหรียญสหรัฐ (+35.5%) และสายไฟฟ้าและสายเคเบิลหุ้มฉนวน มูลค่า 6.93 ล้านเหรียญสหรัฐ (+16.8%) ตามลำดับ

– เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2567: สารเคมี มูลค่า 11.63 ล้านเหรียญสหรัฐ (+3%) รองลงมาคือ อัญมณี โลหะมีค่า และเครื่องประดับ มูลค่า 1.30 ล้านเหรียญสหรัฐ (+145.7%) ถ่านหิน มูลค่า 1.42 ล้านเหรียญสหรัฐ (+100.0%) เม็ดมะม่วงหิมพานต์ มูลค่า 5.87 ล้านเหรียญสหรัฐ (+42.7%) และผลิตภัณฑ์จากเหล็กและเหล็กกล้า มูลค่า 10.82 ล้านเหรียญสหรัฐ (+12.8%) ตามลำดับ

2.3 การนำเข้า

  • สินค้านำเข้าจากไทยที่สำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และส่วนประกอบ มูลค่า 181.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 26.9 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 รองลงมาคือ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านและส่วนประกอบ มูลค่า 74.40 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.1 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.0 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567) เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล มูลค่า 63.12 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลงร้อยละ 33.8 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 และลดลงร้อยละ 8.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567) อุปกรณ์และส่วนประกอบรถยนต์ มูลค่า 46.96 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลงร้อยละ 31.1 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 และลดลงร้อยละ 14.0 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567) และกลุ่มแร่โลหะพื้นฐานอื่น ๆ มูลค่า 40.49 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลงร้อยละ 43.4 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567 และลดลงร้อยละ 26.3 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567) รายละเอียดตามภาคผนวก 2
  • สินค้านำเข้าจากไทยที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

– เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2567: นมและผลิตภัณฑ์นม มูลค่า 5.44 ล้านเหรียญสหรัฐ (+28.3%) รองลงมาคือ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านและส่วนประกอบ มูลค่า 74.40 ล้านเหรียญสหรัฐ (+19.1%) สายไฟฟ้าและสายเคเบิลหุ้มฉนวน มูลค่า 9.84 ล้านเหรียญสหรัฐ (+12.2%) ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (Liquefied Petroleum Gas) มูลค่า 1.27 ล้านเหรียญสหรัฐ (+3.7%) และยางพารา มูลค่า 11.70 ล้านเหรียญสหรัฐ (-7.5%)

-เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2567: กล้องถ่ายรูป กล้องวิดีโอ และอุปกรณ์ มูลค่า 3.66 ล้าน
เหรียญสหรัฐ (+6%) รองลงมาคือ ยาฆ่าแมลงและวัตถุดิบ มูลค่า 3.86 ล้านเหรียญสหรัฐ (+171.7%) นมและผลิตภัณฑ์นม มูลค่า 5.44 ล้านเหรียญสหรัฐ (+61.0%) สายไฟฟ้าและสายเคเบิลหุ้มฉนวน มูลค่า 9.84 ล้านเหรียญสหรัฐ (+46.5%) และไขมันสัตว์และน้ำมันพืช มูลค่า 4.0 ล้านเหรียญสหรัฐ (+28.0%) ตามลำดับ

B. การลงทุน

    1. การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign direct investment-FDI)

1.1 FDI ในเดือนมกราคม 2568

จากสถิติของกระทรวงการวางแผนและการลงทุนเวียดนาม (Vietnam’s Ministry of Planning and Investment) ในเดือนมกราคม 2568 มีต่างประเทศเข้ามาลงทุนในเวียดนามมูลค่า 4,334 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 48.6 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 โดยมีโครงการใหม่จำนวน 282 โครงการ รวมมูลค่า 1,286 ล้านเหรียญสหรัฐ (-43.6%) โครงการที่เพิ่มมูลค่าการลงทุนจำนวน 137 โครงการ รวมมูลค่า 2,725 ล้านเหรียญสหรัฐ (+509.6%) และโครงการที่นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นจากบริษัทเวียดนามจำนวน 260 โครงการ รวมมูลค่า 322.86 ล้านเหรียญสหรัฐ (+70.4%)

สาขาที่ได้รับการลงทุนมากที่สุดคือ อุตสาหกรรมการผลิตและการประมง (3,091 ล้านเหรียญสหรัฐ) อสังหาริมทรัพย์ (1,017 ล้านเหรียญสหรัฐ) กิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ (98.8 ล้านเหรียญสหรัฐ) การจัดหาน้ำการจัดการน้ำเสียและของเสียรวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง (73.8 ล้านเหรียญสหรัฐ) และการค้าส่งและการค้าปลีก และการซ่อมรถยนต์รถจักรยานยนต์ (72.4 ล้านเหรียญสหรัฐ)

ประเทศที่ลงทุนมากที่สุดในเวียดนาม คือ เกาหลีใต้ (1,254 ล้านเหรียญสหรัฐ) สิงคโปร์ (1,244 ล้านเหรียญสหรัฐ) ญี่ปุ่น (599.1 ล้านเหรียญสหรัฐ) จีน (489.9 ล้านเหรียญสหรัฐ) และฮ่องกง (161.0 ล้านเหรียญสหรัฐ)

ตั้งแต่ชายฝั่งตอนกลางใต้ถึงสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงของเวียดนาม จังหวัดที่ได้รับการลงทุนมากที่สุด คือ นครด่งนาย (958.8 ล้านเหรียญสหรัฐ) นครโฮจิมินห์ (151.1 ล้านเหรียญสหรัฐ) จังหวัดบิ่นห์เยือง (121.0 ล้าน
เหรียญสหรัฐ) จังหวัดเตนินห์ (121.0 ล้านเหรียญสหรัฐ) และจังหวัดบาเรีย – วุ๊งเต่า (115.0 ล้านเหรียญสหรัฐ)

1.2 การลงทุนสะสม (ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2530 – 31 มกราคม 2568)

จากสถิติของกระทรวงการวางแผนและการลงทุนเวียดนาม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2530 – 31 มกราคม 2568 ทั้งประเทศมีโครงการที่มีผลบังคับใช้จำนวน 42,272 โครงการ รวมมูลค่า 505,400 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าการลงทุนสะสมโดยตรงจากต่างประเทศมีมูลค่าเกือบ 324,000 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 64.1 ของมูลค่าโครงการที่มีผลบังคับใช้ทั้งหมด

สาขาที่ได้รับการลงทุนมากที่สุดคือ อุตสาหกรรมการผลิตและการประมง (310,420 ล้านเหรียญสหรัฐ) อสังหาริมทรัพย์ (73,999 ล้านเหรียญสหรัฐ) การผลิตและการจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า น้ำประปา ก๊าซ และเครื่องปรับอากาศ (41,927 ล้านเหรียญสหรัฐ) ธุรกิจบริการที่พักและอาหาร (13,842 ล้านเหรียญสหรัฐ) และการขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ (12,088 ล้านเหรียญสหรัฐ)

ประเทศที่ลงทุนมากที่สุดในเวียดนาม คือ เกาหลีใต้ (92,117 ล้านเหรียญสหรัฐ) สิงคโปร์ (84,136 ล้านเหรียญสหรัฐ) ญี่ปุ่น (78,280 ล้านเหรียญสหรัฐ) ไต้หวัน (41,028 ล้านเหรียญสหรัฐ) และฮ่องกง (38,811 ล้านเหรียญสหรัฐ)

ตั้งแต่ชายฝั่งตอนกลางใต้ถึงสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงของเวียดนาม จังหวัดที่ได้รับการลงทุนมากที่สุด คือ นครโฮจิมินห์ (58,966 ล้านเหรียญสหรัฐ) จังหวัดบิ่นห์เยือง (42,565 ล้านเหรียญสหรัฐ) นครด่งนาย (38,351 ล้านเหรียญสหรัฐ) จังหวัดบาเรีย – วุ๊งเต่า (36,605 ล้านเหรียญสหรัฐ) และจังหวัดลองอาน (14,347 ล้านเหรียญสหรัฐ)

ตาราง 5:  สาขาที่ได้รับการลงทุนมากที่สุดในเวียดนาม

ที่ ช่วงระหว่างวันที่ 1 – 31 มกราคม 2568 การลงทุนสะสม

(ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2530 – 31 มกราคม 2568)

สาขา โครงการใหม่ มูลค่ารวม

(ล้านเหรียญสหรัฐ)

สาขา โครงการ มูลค่า

(ล้านเหรียญสหรัฐ)

1 อุตสาหกรรมการผลิตและการประมง 119 3,091.2 อุตสาหกรรมการผลิตและการประมง 17,962 310,420.7
2 อสังหาริมทรัพย์ 9 1,017.1 อสังหาริมทรัพย์ 1,224 73,999.6
3 กิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ 31 98.8 การผลิตและการจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า น้ำประปา ก๊าซ และเครื่องปรับอากาศ 197 41,927.6
4 การจัดหาน้ำการจัดการน้ำเสีย
และของเสียรวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
3 73.8 ธุรกิจบริการที่พักและอาหาร 1,010 13,842.6
5 การค้าส่งและการค้าปลีก และ
การซ่อมรถยนต์รถจักรยานยนต์
84 72.4 การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ 8,168 12,088.8
อื่นๆ 36 -18.6 อื่นๆ 13,711 53,115.7
รวม 282 4,334.8 รวม 42,272 505,395.1

ที่มา: สำนักงานการลงทุนต่างประเทศ ภายใต้กระทรวงการวางแผนและการลงทุนเวียดนาม

 ตาราง 6: ประเทศที่ลงทุนมากที่สุดในเวียดนาม

ที่ ช่วงระหว่างวันที่ 1 – 31 มกราคม 2568 ที่ การลงทุนสะสม

(ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2530 – 31 มกราคม 2568)

ประเทศ โครงการใหม่ มูลค่ารวม

(ล้านเหรียญสหรัฐ)

ประเทศ โครงการ มูลค่า

(ล้านเหรียญสหรัฐ)

1 เกาหลีใต้     30 1,254.7 1 เกาหลีใต้ 10,128 92,117.9
2 สิงคโปร์ 39 1,244.9 2 สิงคโปร์ 3,951 84,136.9
3 ญี่ปุ่น 21 599.1 3 ญี่ปุ่น 5,512 78,280.9
4 จีน 85 489.9 4 ไต้หวัน 3,279 41,028.4
5 ฮ่องกง 32 161.0 5 ฮ่องกง 2,836 38,811.8
6 ไต้หวัน 18 138.8 6 จีน 5,195 31,262.0
7 หมู่เกาะเวอร์จินของอังกฤษ 4 101.9 7 หมู่เกาะเวอร์จินของอังกฤษ 929 23,893.0
8 ซามัว 3 81.0 8 เนเธอร์แลนด์ 457 14,959.0
9 มาเลเซีย 8 68.7 9 ไทย 757 14,355.2
10 สวิตเซอร์แลนด์ 1 45.3 10 มาเลเซีย 768 13,024.5
15 ไทย 1 19.4 11 สหรัฐอเมริกา 1,429 11,862.6
อื่น ๆ 40 130.1   อื่น ๆ 7,031 61,662.9
รวม 282 4,334.8   รวม 42,272 505,395.1

ที่มา: สำนักงานการลงทุนต่างประเทศ ภายใต้กระทรวงการวางแผนและการลงทุนเวียดนาม

ตาราง 7: จังหวัดที่ได้รับการลงทุนมากที่สุดตั้งแต่ชายฝั่งตอนกลางใต้ถึงสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงของเวียดนาม

ที่ ช่วงระหว่างวันที่ 1 – 31 มกราคม 2568 การลงทุนสะสม

(ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2530 – 31 มกราคม 2568)

บริเวณ โครงการใหม่ มูลค่ารวม

(ล้านเหรียญสหรัฐ)

บริเวณ โครงการ มูลค่า

(ล้านเหรียญสหรัฐ)

I ชายฝั่งตอนกลางใต้ 16 50.6   1,875 29,879.3
1 Binh Thuan 1 35.0 Da Nang 1,061 6,785.3
2 Da Nang 9 7.6 Quang Nam 241 6,453.0
3 Quang Nam 3 4.0 Khanh Hoa 124 4,435.6
4 Khanh Hoa 1 2.1 Binh Thuan 161 3,989.4
5 Ninh Thuan 1 1.8 Ninh Thuan 63 2,669.4
  จังหวัดอื่นๆ 1 0.1 จังหวัดอื่นๆ 225 5,546.6
II. ที่ราบสูงตะวันตก 1 0.8   171 1,933.6
1 Lam Dong 1 0.8 Dak Lak 32 722.3
2       Lam Dong 102 554.7
3       Dak Nong 21 320.2
4       Kon Tum 8 243.4
5       Gia Lai 8 93.0
III. ภาคใต้ 162 1,614.0 23,742 228,976.4
A. ตะวันออกเฉียงใต้ 151 1,499.4 21,634 192,069.0
1 Dong Nai 13 958.8 Ho Chi Minh City 13,727 58,966.9
2 Ho Chi Minh City 100 151.1 Binh Duong 4,427 42,565.1
3 Binh Duong 27 121.0 Dong Nai 2,012 38,351.0
4 Tay Ninh 3 121.0 Ba Ria – Vung Tau 590 36,605.9
5 Ba Ria – Vung Tau 4 115.0 Tay Ninh 391 10,205.4
6 Binh Phuoc 4 32.5 Binh Phuoc 487 5,374.7
B. สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง 11 114.6   2,108 36,907.4
1 Long An 10 102.8 Long An 1,506 14,347.6
2 Tien Giang 1 8.2 Kien Giang 68 4,832.0
3 Vinh Long 6.4 Bac Lieu 17 4,689.0
4 Can Tho 5.6 Tra Vinh 39 3,198.2
5 Kien Giang 0.3 Tien Giang 148 3,014.2
  จังหวัดอื่นๆ -8.61 จังหวัดอื่นๆ 330 6,826.4

ที่มา: สำนักงานการลงทุนต่างประเทศ ภายใต้กระทรวงการวางแผนและการลงทุนเวียดนาม

  1. การลงทุนของไทยในเวียดนาม

2.1 การลงทุนในเดือนมกราคม 2568 บริษัทไทยเข้ามาลงทุนในเวียดนามมูลค่า 38 ล้านเหรียญสหรัฐ สถานการณ์การค้าโดยมีโครงการใหม่จำนวน 1 โครงการ รวมมูลค่า 28.0 ล้านเหรียญสหรัฐ และโครงการที่ปรับมูลค่าการลงทุนจำนวน 3 โครงการ มูลค่าลดลงประมาณ 8.6 ล้านเหรียญสหรัฐ และโครงการที่นักลงทุนไทยซื้อหุ้นจากบริษัทเวียดนามจำนวน 2 โครงการ มูลค่า 0.04 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 15 จาก 55 ประเทศที่เข้ามาลงทุนในเวียดนาม

2.2 การลงทุนสะสม (ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2530 – 31 มกราคม 2568) ไทยเป็นผู้ลงทุนอันดับที่ 9 จาก 149 ประเทศที่เข้ามาลงทุนในเวียดนาม โครงการลงทุนรวม 757 โครงการ มูลค่า 14,355 ล้านเหรียญสหรัฐ

thThai