รายงาน Business Creation and Networking ประจำเดือนมีนาคม 2568 (ตลาดค้าส่งผลไม้จินหม่าเจิ้งชาง) สคต.คุนหมิง

ข้อมูลบุคคลองค์กรที่เข้าพบ

บริษัท : ตลาดค้าส่งผลไม้จินหม่าเจิ้งชาง (Kunming Jinma Zhengchang Fruit Market)

ชื่อ : Mr. Xiong Xiaojiang (Director of the Fruit Market Office)

ตำแหน่ง : ผู้อำนวยการสำนักงาน

อีเมล : 2421993164@qq.com

ที่อยู่บริษัท : Jinma Road, Guandu District, Kunming City, Yunnan Province

Tel. : 0871-68061289

รายละเอียดบริษัท/องค์กร

2.1 ก่อตั้งเมื่อ : …….ปี 2537…………………….

2.2 ประวัติความเป็นมา : ตลาดค้าส่งผลไม้จินหม่าเจิ้งชาง (Kunming Jinma Zhengchang Fruit Market) เป็นกิจการของเอกชน เป็นตลาดค้าส่งผลไม้ที่ใหญ่เป็นอันดับ 10 ของจีน มีขนาดพื้นที่ 180 หมู่ และถือเป็นตลาดค้าส่งอาหารที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของนครคุนหมิง ก่อตั้งในเขตกวนตู้ ในปี 2553 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตลาดผลไม้นำร่องของมณฑลยูนนานจากกรมพาณิชย์มณฑลยูนนาน เป็นตลาดค้าส่งผลไม้สดจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น แตงโม ส้ม แอปเปิ้ล ในจำนวนนี้เป็นผลไม้ไทย ได้แก่ ทุเรียน มังคุด ส้มโอ ลำไย และผลไม้อื่น ๆ ปัจจุบันตลาดมีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 75 ไร่ ภายในตลาดมีผู้ประกอบการที่มีร้านค้าประจำอยู่จำนวน 500 ราย และมีผู้ประกอบการที่เป็นพ่อค้าเร่จำนวน 3,000 กว่าราย

ในปี 2565 ตลาดค้าส่งผลไม้จินหม่าเจิ้งชางมีมูลค่าการค้าทั้งสิ้น 9,000 ล้านหยวน มีปริมาณการค้าผลไม้ทั้งสิ้น 1,500,000 ตัน ถือเป็นตลาดผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในนครคุนหมิง อีกทั้งเป็นตลาดกลางที่รวบรวมผลไม้จากประเทศในทวีปเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และเมียนมา และกระจายไปสู่เมืองอื่น ๆ 17 มณฑลทั่วจีน เช่น มณฑลจี๋หลิน ฝูเจี้ยน ไห่หนาน เหอหนาน และซีอาน เป็นต้น

ตลาดค้าส่งผลไม้จินหม่าเจิ้งชางเป็นตลาดค้าส่งผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลยูนนาน โดยมีข้อได้เปรียบทางด้านที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่มีความสำคัญในการเชื่อมโยงกับการขนส่งสินค้าผ่านเส้นทาง R3A ซึ่งสะดวกใน การนำเข้าผลไม้จากประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นอย่างมาก ทำให้มีผลไม้เมืองร้อนนำเข้าสู่ตลาดปริมาณมาก โดยมีปริมาณการนำเข้าต่อปีเฉลี่ยประมาณ 100,000 ตัน นอกจากนี้ ตลาดค้าส่งผลไม้จินหม่าเจิ้งชางได้วางแผนสร้าง “เขตการค้าผลไม้อาเซียน” โดยจะดำเนินการนำเข้าและจำหน่ายสินค้าผลไม้จากประเทศในอาเซียนเป็นหลัก

2.4 สินค้าและบริการของบริษัท/องค์กร : ค้าส่งผลไม้

2.5 สินค้าและบริการที่นำเข้าและสนใจนำเข้าจากประเทศไทย: ผลไม้

คาดการณ์มูลค่าการสั่งซื้อ : ……….-……………………………………………………………………………………………………….
สรุปผลการหารือ/เข้าพบ :

ตลาดค้าส่งผลไม้จินหม่าเจิ้งชางเป็นตลาดค้าส่งผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลยูนนาน โดยมีข้อได้เปรียบทางด้านที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่มีความสำคัญในการเชื่อมโยงกับการขนส่งสินค้าผ่านเส้นทาง R3A เส้นทางรถไฟลาว-จีน และท่าเรือกวนเหล่ย ซึ่งสะดวกในการนำเข้าผลไม้จากประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นอย่างมาก ทำให้มีผลไม้เมืองร้อนนำเข้าสู่ตลาดปริมาณมาก ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ตลาดมีสถิติการค้าผลไม้ไทย ดังนี้

– ในปี 2561 ตลาดค้าส่งผลไม้จินหม่าเจิ้งชางมีปริมาณการค้าผลไม้ไทยรวมทั้งสิ้น 2,000 ตู้ รวม 40,000 ตัน ในจำนวนนี้เป็นทุเรียน ปริมาณ 15,000 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 38 มังคุด 12,000 ตัน คิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 30 ลำไย 8,000 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 ส้มโอ 4,000 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 2

– ในปี 2562 ตลาดค้าส่งผลไม้จินหม่าเจิ้งชางมีปริมาณการค้าผลไม้ไทยรวมทั้งสิ้น 2,200 ตู้ รวม 44,000 ตัน ในจำนวนนี้เป็นทุเรียน ปริมาณ 17,000 ตัน มังคุด 13,000 ตัน ลำไย 8,800 ตัน ส้มโอ 4,400 ตัน และผลไม้อื่น ๆ 1,000 ตัน

– ในปี 2563 ตลาดค้าส่งผลไม้จินหม่าเจิ้งชางมีปริมาณการค้าผลไม้ไทยรวมทั้งสิ้น 2,600 ตู้ รวม 52,000 ตัน ในจำนวนนี้เป็นทุเรียน ปริมาณ 19,800 ตัน มังคุด 15,600 ตัน ลำไย 10,000 ตัน และส้มโอ 5,000 ตัน

– ในปี 2564 ตลาดค้าส่งผลไม้จินหม่าเจิ้งชางมีปริมาณการค้าผลไม้ไทยรวมทั้งสิ้น 3,200 ตู้ รวม 64,000 ตัน ในจำนวนนี้เป็นทุเรียน 24,000 ตัน มังคุด 19,000 ตัน ลำไย 13,000 ตัน และส้มโอ 7,000 ตัน

– ในปี 2565 ตลาดค้าส่งผลไม้จินหม่าเจิ้งชางมีปริมาณการค้าผลไม้ไทยรวมทั้งสิ้น 4,000 ตู้ รวม 80,000 ตัน ในจำนวนนี้เป็นทุเรียน 30,000 ตัน ลำไย 24,000 ตัน ลำไย 16,000 ตัน และส้มโอ 8,000 ตัน

ทั้งนี้ ผลไม้ไทยที่สำคัญที่มีการนำเข้ามาจำหน่ายในตลาดค้าส่งผลไม้จินหม่าเจิ้งชาง ได้แก่ ทุเรียน มังคุด ลำไย ส้มโอ ส่วนผลไม้อื่น ๆ เช่น ชมพู่ มะขามหวาน มะม่วงและมะพร้าวนำเข้าปริมาณน้อย สำหรับในปี 2567 ตลาดมีมูลค่าและปริมาณการนำเข้าผลไม้ไทยเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 20 สัดส่วนผลไม้นำเข้ามากสุด คือ ทุเรียน ซึ่งปัจจุบันมีทุเรียนคู่แข่งที่สำคัญ คือ ทุเรียนเวียดนาม สัดส่วนการนำเข้าของทุเรียนไทยในปี 2566 ร้อยละ 90 ทุเรียนเวียดนามร้อยละ 10 แต่ในปี 2567 สัดส่วนการนำเข้าทุเรียนเวียดนามเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 40 ส่วนทุเรียนไทยลดลงเหลือเพียงร้อยละ 60 อย่างไรก็ตาม ชาวจีนยังคงมองว่าทุเรียนไทยมีคุณภาพและมาตรฐาน และชื่นชอบในรสชาติของทุเรียนไทย

จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น แสดงให้เห็นว่า แม้ว่าในช่วง 3 ปีที่เกิดโรคระบาด แต่ยอดขายผลไม้ไทยในตลาดค้าส่งผลไม้จินหม่าเจิ้งชางมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี แสดงให้เห็นว่าผลไม้ไทยได้รับความนิยมอย่างมากในจีน เมื่อมาตรการป้องกันและควบคุมโรคระบาดมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเศรษฐกิจภายในประเทศฟื้นตัว อย่างต่อเนื่อง ยอดขายผลไม้ไทยจะมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ราคาค้าส่งผลไม้ไทยที่จำหน่ายในตลาดค้าส่งผลไม้จินหม่าเจิ้งชาง

5. ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ :

จากการประชุมกับตลาดค้าส่งผลไม้จินหม่าเจิ้งชาง พบว่า ปัจจุบันทุเรียนไทยที่นำเข้ามายังจีนประสบปัญหาการตรวจพบสาร Basic Yellow 2 (BY2) ซึ่งตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2568 เป็นต้นไป สำนักงานศุลกากรแห่งชาติจีน (GACC) ได้กำหนดให้ทุเรียนไทยทุกล็อตที่ส่งออกมายังจีน ต้องแนบผลวิเคราะห์ (Lab Report) สาร BY2 และผลตรวจจะต้องไม่พบสารดังกล่าว โดยขณะนี้ด่านโม่ฮานและด่านรถไฟโม่ฮานมีการใช้มาตรการตรวจสาร B2Y ในทุเรียนไทยที่ส่งออกมายังจีนร้อยละ 100 โดยในเบื้องต้นเป็นการตรวจสอบทุเรียนที่ขนส่งเข้ามายังจีนครบทุกตู้ตามเอกสารประกอบการส่งออกในแต่ละล็อต ซึ่งจีนจะสุ่มตรวจทุเรียนไทยในแต่ละตู้ประมาณ 3 – 5 ลูก โดยคิดรวมเป็น 1 ตัวอย่างต่อ 1 ตู้ ปกติใช้ระยะเวลาการตรวจใน Lab ที่อำเภอเหมิงล่า (ห่างจากด่านโม่ฮาน 30 นาที) ประมาณ 3 – 5 วันทำการ แต่ในช่วงเทศกาลตรุษจีนใช้ระยะเวลาการตรวจมากถึง 10 วันทำการ ทั้งนี้ ปัจจุบัน Lab ที่อำเภอเหมิงล่าสามารถรองรับการตรวจได้ 500 – 600 ตู้/วัน

ตัวอย่างการสุ่มตรวจสาร BY2 ของทุเรียนไทย โดยขนส่งมาทางด่านโม่ฮาน 1 ตู้ ปริมาณ 1,080 กล่อง ทางการจีนจะสุ่มตรวจ 3 แถว ประมาณ 30 กล่อง (เปิดทุกกล่อง) โดยแต่ละกล่องจะหยิบมาตรวจ 1 – 2 ลูก ซึ่งแต่ก่อนตรวจทุเรียนเพียงแค่ 2 กล่องเท่านั้น เนื่องจากระยะเวลาการตรวจที่ยาวนาน รวมถึงในช่วงเทศกาลต่าง ๆ ของจีน ที่ทางการจีนเพิ่มระยะเวลาในการตรวจนานขึ้น ส่งผลกระทบแก่ทั้งผู้นำเข้าและผู้ส่งออกทุเรียนไทยเป็นอย่างมาก จากการหารือกับผู้นำเข้าทุเรียนไทย พบว่า ผู้นำเข้าต้องการให้จีนผ่อนปรนมาตรการตรวจสอบสาร BY2 ในทุเรียนไทย โดยลดจำนวนตัวอย่างทุเรียนที่สุ่มตรวจ เนื่องจากมีผลการตรวจมาจากไทยอยู่แล้ว

ด้านมาตรการตรวจสอบผลไม้ไทยอื่น ๆ เช่น 1.ส้มโอ จีนมีมาตรการตรวจที่เข้มงวดขึ้น โดยมีการเพิ่มจำนวนสุ่มตรวจเป็น 10 – 20 ลัง จากเมื่อก่อนสุ่มตรวจเพียง 2 ลังเท่านั้น 2.ลำไย จีนมีมาตรการสุ่มตรวจสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ถี่มากขึ้น โดยเฉพาะการขนส่งทางเรือจะมีความเข้มงวดมากกว่าการขนส่งทางบก

อย่างไรก็ดี สคต. ณ นครคุนหมิง เห็นว่า การหารือกับตลาดค้าส่งผลไม้จินหม่าเจิ้งชาง และผู้นำเข้าผลไม้ไทยทำให้ได้ทราบรายละเอียดของปัญหาการนำเข้าทุเรียนไทยปัจจุบัน รวมถึงเป็นการสำรวจ ศึกษาสถานการณ์การนำเข้า ซึ่งล้วนแต่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาและปรับปรุงด้านการส่งออกผลไม้ของไทยต่อไป

ภาพประกอบ