จับตาการเติบโตทางเศรษฐกิจจีนในไตรมาสที่สอง ส่อแววเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ

ภายในงานแถลงข่าวผลดำเนินงานของเศรษฐกิจจีนในช่วงไตรมาสแรกของปี ค.ศ. 2023 โฆษกประจำสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนได้ตอบข้อซักถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับการคาดการณ์สถานการณ์เศรษฐกิจจีนในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี ค.ศ. 2023 สรุปได้ดังนี้

ตั้งแต่ต้นปี ค.ศ. 2023 ที่ผ่านมาพบว่า เศรษฐกิจโดยรวมของจีนมีแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดี ตัวชี้วัดและดัชนีเศรษฐกิจหลักฟื้นตัวขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ การดำเนินธุรกิจมีชีวิตชีวา ตลาดการบริโภคคาดว่าจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นรากฐานที่ดีสำหรับการบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่คาดไว้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ ยังพบว่าแรงผลักดันภายในจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นโยบายเศรษฐกิจมหภาคมีประสิทธิภาพและการดำเนินงานทางเศรษฐกิจโดยรวมคาดว่าจะดีขึ้น โดยเมื่อพิจารณาจากฐานการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างต่ำของไตรมาสที่ 2 ในปีที่ผ่านมาที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรค COVID – 19 ระลอกใหม่ จึงคาดว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาส 2 ของปีนี้จะเร่งตัวขึ้น และเติบโตได้มากกว่าไตรมาสแรกอย่างชัดเจน ขณะที่ในไตรมาสที่ 3 และ 4 อัตราการเติบโตทางเศณาฐกิจอาจจะชะลอตัว เนื่องจากฐานที่สูงในปีก่อน ซึ่งหากไม่พิจารณาถึงผลกระทบจากฐานการเติบโตทางเศรษฐกิจของปีที่ผ่านมา โดยรวมแล้วการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนตลอดทั้งปี ค.ศ. 2023 นี้ก็คาดว่าจะมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลัก ดังนี้

  1.  การกระตุ้นการบริโภคเริ่มเห็นผลชัดเจนขึ้น โดยตั้งแต่ต้นปี ค.ศ. 2023 พบว่า แนวโน้มการบริโภคภายในประเทศฟื้นตัวอย่างชัดเจน และยังช่วยฉุดการเติบโตของเศรษฐกิจให้เติบโตได้มากขึ้นด้วย สืบเนื่องจากสถานการณ์การจ้างงานที่ดีขึ้น นโยบายส่งเสริมการบริโภคที่เพิ่มขึ้น เป็นต้น นอกจากนี้ ความสามารถในการบริโภคและความเต็มใจในการบริโภคก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการบริโภครถยนต์พลังงานใหม่ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอัจฉริยะที่ขยายกว้างขึ้น การส่งเสริมการบริโภคผสมผสานทางออนไลน์และออฟไลน์ การพัฒนารูปแบบการบริโภคใหม่ และการขยายตลาดชนบท ซึ่งนโยบายต่างๆ ที่สนับสนุนการบริโภคเหล่านี้ ล้วนมีส่วนช่วยทำให้การบริโภคภายในประเทศมีการขยายตัวและฉุดการเติบโตของเศรษฐกิจจีนให้เติบโตได้อย่างค่อยเป็นค่อยไปและมีเสถียรภาพที่ดีขึ้น

  2. การลงทุนมีแนวโน้มจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีเสถียรภาพและต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปี ค.ศ. 2023 เป็นต้นมา ในแต่ละพื้นที่ของจีนก็ได้มีการผลักดันการก่อสร้างโครงการที่สำคัญ โดยในช่วงไตรมาสแรกพบว่า มีการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 สืบเนื่องจากการยกระดับอุตสาหกรรมดั้งเดิม และอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นใหม่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งเสริมให้เศรษฐกิจเติบโตและเอื้อต่อการขยายตัวขณะที่ด้านการลงทุนในอุตสาหกรรมในไตรมาสแรก พบว่าการลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 โดยรัฐบาลจะได้ปรับใช้ยุทธศาสตร์ที่สำคัญและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 14 ระยะ 5 ปี ในการส่งเสริมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างแข็งขัน เพื่อให้เอื้อต่อการขยายตัวของการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในไตรมาสแรกพบว่าการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขยายตัวร้อยละ 8.8 และมีแนวโน้มที่จะขยายตัวอย่างต่อเนื่องในไตรมาสต่อไป ขณะเดียวกัน ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ก็มีการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก  ทำให้การลงทุนในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คาดว่าจะมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น

  3. การเปลี่ยนแปลงและการยกระดับอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง
    โดยพบว่าที่ผ่านมาจีนได้ดำเนินกลยุทธ์การพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมเชิงลึก เสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเทคโนโลยี ส่งเสริมการพัฒนายกระดับอุตสาหกรรม เครือข่าย 5G ข้อมูล ปัญญาประดิษฐ์ เป็นต้น นอกจากนี้ การพัฒนาเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมใหม่ในประเทศก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสแรกพบว่ามีมูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 ทำให้ความเข้มข้นของเทคโนโลยีอุตสาหกรรมของจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานสีเขียว และคาร์บอนต่ำก็เริ่มขยายตัวเพิ่มมากขึ้น จนทำให้เกิดความต้องการผลิตภัณฑ์ใหม่ขยายตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยในไตรมาสแรกนี้ยังพบว่ามีการผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ และโซล่าร์เซลล์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้ง อุตสาหกรรมไฮเอนด์ อุตสาหกรรมอัจฉริยะ และการพัฒนาสีเขียว ซึ่งล้วนแล้วแต่จะกลายเป็นกลไกใหม่ในการผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนให้มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น

  4. นโยบายมหภาคบรรลุผลสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปี ค.ศ. 2023 พบว่าหน่วยงานต่างๆ ของแต่ละพื้นที่ในประเทศจีนต่างดำเนินงานตามแผนการประชุมตามนโยบายของเศรษฐกิจจีนกลางและรายงานการทำงานของรัฐบาลจีนอย่างแข็งขัน ทำให้นโยบายการคลังและนโยบายการเงินมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นและราคาของสินค้ามีเสถียรภาพ และทำให้ในไตรมาสแรกเศรษฐกิจจีนมีการฟื้นตัวได้อย่างมีเสถียรภาพ และคาดว่านโยบายต่างๆ จะเห็นผลชัดเจนขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นแรงผลักดันในการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนให้เติบโตได้มากขึ้นและส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลกระทบด้านเศรษฐกิจต่อประเทศไทย และแนวทางการปรับตัวของภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการไทย

จีนถือเป็นประเทศผู้ผลิตและตลาดการบริโภคขนาดใหญ่ที่เป็นความหวังของนานาประเทศในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เช่นเดียวกับประเทศไทยที่ยังคงพึ่งพาการค้าระหว่างประเทศกับจีน และจากรายงานข้างต้นที่เปิดเผยว่าเศรษฐกิจจีนในไตรมาสแรกมีทิศทางที่สดใส และคาดว่าไตรมาสที่ 2 จะเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญก็ถือเป็นข่าวดีและโอกาสดีของผู้ประกอบการไทยเป็นอย่างมากในการแสวงหาโอกาสในการส่งออกมายังประเทศจีนได้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ภาครัฐและผู้ประกอบการไทยยังคงต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์การดำเนินงานด้านนโยบายและทิศทางเศรษฐกิจจีนอย่างใกล้ชิด รวมทั้ง แสวงหาโอกาสในการเจาะตลาดเมืองรองของจีนให้มากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการพึ่งพาตลาดเมืองหลักเพียงอย่างเดียว รวมทั้งหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและอุปสรรคทางการค้าระหว่างประเทศที่อาจขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางเศรษฐกิจของจีน ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถวางแผนกลยุทธ์การตลาดและปรับตัวในการทำธุรกิจการค้าระหว่างประเทศกับจีนได้อย่างทันท่วงที

แหล่งที่มา:  http://finance.china.com.cn/news/20230418/5971530.shtml

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองชิงต่าว

thThai