นักลงทุนเห็นโอกาสเกี่ยวกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเวียดนาม

ในปี 2567 บริษัท Savills Vietnam ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเวียดนามได้แสดงความคิดเห็นเชิงบวกเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของการพัฒนาตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเวียดนาม โดยเฉพาะสำนักงานให้เช่าและโรงงานอุตสาหกรรม

จากรายงานของ บริษัท Savills Vietnam กล่าวว่าแม้ในปัจจุบันจะเผชิญกับความยากลำบากมากมาย แต่ในภาพรวม
นักลงทุนต่างชาติในตลาดเวียดนามมีความสนใจด้านอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น นอกจากนั้น เมื่อเร็วๆ นี้ Fitch Ratings ได้ปรับอันดับความน่าเชื่อถือ (Sovereign Credit Rating) ของเวียดนามจากระดับ BB เป็น BB+ ในปี 2567 อัตราการเติบโตของ GDP ของเวียดนามคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 6-6.5 เนื่องจากการลงทุนจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment: FDI) ที่เพิ่มขึ้น และความพยายามของรัฐบาลในการดำเนินมาตรการลดอุปสรรคของภาคอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มการลงทุนภาครัฐ และบริหารจัดการนโยบายเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ในไตรมาสที่สี่ของปี 2566 เวียดนามมีโครงการลงทุนจำนวนมากที่ลงทุนในนิคมอุตสหกรรมต่างๆ HiteJinro ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ ได้ลงทุนตั้งโรงงานในจังหวัด Thai Binh (ท้ายบิ่ญ) ของเวียดนามบนพื้นที่มากกว่า
51.25 ไร่ คิดเป็นูลค่ามากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้ บริษัท Deli Group จากจีนทุ่มเงินลงทุน 270 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อขยายนิคมอุตสาหกรรม Dai An ในจังหวัด Hai Duong (จังหวัดฮายเซือง) อีกทั้งยังมี บริษัท Hyosung Group จากเกาหลีใต้ ที่เข้ามาลงทุนสร้างโรงงานผลิตเส้นด้ายและวัสดุคาร์บอนด้วยเงินลงทุนรวมประมาณ 720 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในนิคมอุตสาหกรรม Phu My ของจังหวัด Ba Ria-Vung Tau (จังหวัดบ่าเหรี่ยะ-หวุงเต่า)

ในกรุงฮานอย ในส่วนของพื้นที่สำนักงานให้เช่าภายในปี 2569 จะมีโครงการใหม่ 15 โครงการ จัดสรรสำหรับพื้นที่สำนักงานมากกว่า 389,770 ตารางเมตร โดยส่วนใหญ่เป็นสำนักงานเกรด A ที่คาดว่าจะมีสัดส่วนเป็นร้อยละ 86  โดยโครงการหลักๆ ได้แก่ Grand Terra, Taisei Square Hanoi, Tien Bo Plaza และ  Gelex Ly Thai To เป็นต้น

นอกจากนี้ นาย Matthew Powell ผู้จัดการบริษัท Savills Vietnam กล่าวว่า เวียดนามมีการแก้ไขกฎหมายที่อยู่อาศัยหลายฉบับ เช่น กฎหมายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กฎหมายบ้านที่อยู่อาศัย และกฎหมายที่ดิน ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อการลงทุนในปี 2567 ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน โดยเวียดนามมีความต้องการสำหรับสำนักงาน ที่อยู่อาศัย และโรงงานอุตสาหกรรมเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม กฎหมายฉบับแก้ไขดังกล่าวเป็นเพียงกรอบภาพรวม ยังคงต้องรอกฏระเบียบต่างๆ เช่น กฤษฎีกาและระเบียบที่เป็นแนวทางการดำเนินการที่เป็นรายละเอียดชัดเจน

นาย Alex Crane ผู้จัดการบริษัท Knight Frank Vietnam กล่าวว่า ความต้องการเช่าโรงงานสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น
สามเท่าตั้งแต่ ปี 2559 และคาดว่าโรงงานสำเร็จรูปจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 65 ในอีกสามปีข้างหน้าเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เช่าและความต้องการของนักลงทุนรายใหม่

(จาก https://en.vietnamplus.vn/)

ข้อคิดเห็น สคต

เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีแนวโน้มการฟื้นตัวด้านเศรษฐกิจในเชิงบวก รวมทั้งการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการคาดการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะโรงงานอุตสหกรรม สำนักงานให้เช่าและบ้านที่อยู่อาศัยที่ฟื้นตัวในปี 2567 รวมทั้งการก่อสร้างโรงานของนักลงทุนต่างชาติที่เพิ่มขึ้น จะเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทย ในการส่งเสริมการส่งออกสินค้าในกลุ่มวัสดุก่อสร้างและกลุ่ม supply chain ที่ใช้ในการผลิตมายังเวียดนามมากขึ้น

de_DEGerman