ส่องพฤติกรรมการท่องเที่ยวของชาวอิตาเลียนในช่วงฤดูร้อน (summer 2024)

ชาวอิตาเลียนจำนวนไม่น้อยต่างตั้งตาคอยกับช่วงฤดูร้อนในปีนี้ จากผลสำรวจของสมาพันธ์เกษตรกรอิตาลี (Coldiretti)/หน่วยงานศึกษาข้อมูลด้านการตลาดและสังคม (Ixe) พบว่า ช่วงฤดูร้อนปี 2567 (ระหว่างเดือนกรกฎาคม – กันยายน) ชาวอิตาเลียนกว่า 38 ล้านคน จะใช้เวลาวันหยุดอย่างน้อย 1 วัน ในการท่องเที่ยวในอิตาลีหรือต่างประเทศ ซึ่งถือว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 5 แสนคน เมื่อเทียบกับปี 2566 โดยคาดว่าชาวอิตาเลียนจะมีค่าใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยวเฉลี่ย 746 ยูโร/คน (+12% เมื่อเทียบกับปี 2566) นอกจากนี้ Coldiretti/Ixe ได้สำรวจเกี่ยวกับการใช้วันหยุดของอิตาลี ซึ่งชาวอิตาเลียนจะนิยมใช้ท่องเที่ยวในเมืองเวนิส ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเมืองที่เป็นสัญลักษณ์ของการท่องเที่ยวที่สำคัญในอิตาลีสำหรับชาวอิตาเลียนและชาวต่างชาติ
ส่องพฤติกรรมการท่องเที่ยวของชาวอิตาเลียนในช่วงฤดูร้อน (summer 2024)
ตามข้อมูลของ Coldiretti/Ixe พบว่า ชาวอิตาเลียนใช้วันหยุดสำหรับการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ การใช้วันหยุด จำนวน 7 วันติดต่อกัน ซึ่งได้รับความนิยมมีสัดส่วนสูงถึง 28% และ 25% นิยมใช้วันหยุดนานถึง 2 สัปดาห์ติดต่อกัน โดย 14% นิยมใช้วันหยุดยาวนานขึ้นถึง 3 สัปดาห์ติดต่อกัน ในขณะที่ 7% นิยมใช้วันหยุดยาวนานถึง 1 เดือน และ 3% นิยมใช้วันหยุดมากกว่า 1 เดือน แต่อย่างไรก็ตาม 18% สามารถใช้วันหยุดได้ไม่เกิน 3 วันติดต่อกัน นอกจากนี้ Coldiretti/Ixe ได้สำรวจเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมในช่วงฤดูร้อนนี้ พบว่า ทะเลถือเป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับวันหยุดที่เป็นที่นิยมมากที่สุด รองลงมา ได้แก่ อุทยานแห่งชาติ/ต่างจังหวัด ภูเขา และสถานที่ทางศิลปะ โดยชาวอิตาเลียน 1 ใน 3 (สัดส่วน 32%) จะใช้เวลาช่วงวันหยุดในภูมิภาคที่อาศัยอยู่ และ 29% เลือกที่จะเดินทางไปต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศในยุโรป
โรงแรมและที่พักพร้อมอาหารเช้าถือเป็นรูปแบบที่พัก ที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้บริการมากที่สุด ในขณะที่ 13% เลือกพักผ่อนในบ้านหลังที่สอง (บ้านพักสำหรับในช่วงวันหยุด) ของตนเอง และ 19% เลือกพักอาศัยร่วมกับญาติและเพื่อนฝูง ในขณะที่ การท่องเที่ยวเชิงเกษตรมีแนวโน้มที่นักท่องเที่ยวเลือกใช้บริการเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากความพร้อมของโครงสร้างการท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่เปิดให้บริการเกือบ 26,000 แห่งทั่วอิตาลี ซึ่งมาจากการขับเคลื่อนโดย Terranostra และ Campagna Amica (สมาคมนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของ Coldiretti ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร (Agritourism) โดยมีจุดประสงค์เพื่อปกป้องและเสริมสร้างทรัพยากรธรรมชาติในต่างจังหวัด) ที่ตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวที่เน้นการท่องเที่ยวในรูปแบบที่ยั่งยืนมากขึ้น โดยมีการนำเสนอกิจกรรมต่างๆ ที่สร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ตลอดจนกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถค้นพบสถานที่ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักในอิตาลีเพิ่มขึ้น
Mr. Dominga Cotarella ประธาน Terranostra และ Campagna Amica เน้นย้ำว่า การท่องเที่ยวเชิงเกษตรถือเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวที่สำคัญสำหรับประเทศ ซึ่งช่วยให้นักท่องเที่ยวชาวอิตาเลียนและชาวต่างชาติได้
สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบ ผสมผสานความหลงใหลในอาหารและธรรมชาติ การจัดกิจกรรมและงานอดิเรกที่น่าสนใจ ส่งผลให้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในอิตาลี มีการพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวดังกล่าวให้สามารถตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวในยุคปัจจุบันอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
จากการสำรวจของ Coldiretti และ I Love Italian Food สมาคมที่ไม่แสวงหาผลกำไร (ซึ่งมีภารกิจในการส่งเสริมและปกป้องวัฒนธรรมอาหารและไวน์อิตาเลียนไปทั่วโลก)พบว่า นอกเหนือจากสถานที่ท่องเที่ยวในอิตาลีที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวแล้ว อาหารอิตาเลียนถือเป็นแรงผลักดันให้นักท่องเที่ยวหันมาใช้วันหยุดในอิตาลี (Bel Paese – ประเทศสวย) เพิ่มมากขึ้น ซึ่งค่าใช้จ่ายในการบริโภคอาหารในร้านอาหาร บาร์ และการซื้ออาหารเป็นของฝาก ของนักท่องเที่ยวชาวอิตาเลียนและชาวต่างชาติ คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของค่าใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยวทั้งหมด โดยนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน 90% แสดงความคิดเห็นว่า อาหารและไวน์อิตาเลียนถือเป็นเหตุผลหนึ่งในการเลือกใช้เวลาช่วงวันหยุดในอิตาลี
ส่องพฤติกรรมการท่องเที่ยวของชาวอิตาเลียนในช่วงฤดูร้อน (summer 2024)
ความคิดเห็นของ สคต. ณ เมืองมิลาน
1. ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของอิตาลีถือเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการสร้างรายได้และการจ้างงานของประชากรในประเทศเป็นจำนวนมาก หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้คลี่คลายลง ส่งผลให้ชาวอิตาเลียนหันกลับมาท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อน (ระดับเดียวกับช่วงก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาด) อีกครั้ง ถึงแม้ปัจจุบันสถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังคงมีความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอกที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งของประเทศตะวันออกกลาง อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น โดยในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวอิตาเลียนและชาวต่างชาติหันกลับมาเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น โดยอิตาลีถือเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างปักหมุดในการเยือนช่วงฤดูร้อน ซึ่งปกติช่วงฤดูท่องเที่ยวของชาวอิตาเลียนและชาวยุโรปจะอยู่ในช่วงฤดูร้อน (เดือนกรกฎาคม – กันยายน) ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาในการพักผ่อนประจำปีที่สำคัญของอิตาลี ดังนั้น ชาวอิตาเลียนส่วนใหญ่จะวางแผนในการท่องเที่ยวล่วงหน้าอย่างน้อย 3-6 เดือน เพื่อสามารถสำรองที่พัก สำรองการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
2. ปี 2566 อิตาลีมีจำนวนนักท่องเที่ยวมากกว่า 134 ล้านคน (เป็นนักท่องเที่ยวอิตาเลียนและต่างชาติรวมกัน) ขยายตัวเพิ่มขึ้น +13.41% เมื่อเทียบกับปี 2565 ซึ่งจำนวนดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าอิตาลีเป็นจุดหมายปลายทางที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ดังนั้น การที่อิตาลีมีนักท่องเที่ยวเยือนเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่องทุกปี ส่งผลให้ธุรกิจบริการอย่างเช่นร้านอาหารได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงหลังโควิดพบว่า ร้านอาหารไทยมีการเปิดให้บริการเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก อันเนื่องมาจากผู้บริโภคท้องถิ่นเปิดรับอาหารจากวัฒนธรรมต่างชาติเพิ่มขึ้น ประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการลิ้มลองอาหารไทย/เอเชียเพิ่มขึ้น จึงถือเป็นโอกาสสำคัญของร้านอาหารไทยในการสร้างการรับรู้ให้กับอาหารไทยในอิตาลี ปัจจุบันในอิตาลีมีร้านอาหารไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT จำนวน 12 ร้าน และภายในปี 2567 คาดว่าจะมีจำนวนร้านอาหาร Thai SELECT เพิ่มขึ้น
3. ตั้งแต่เดือนกรฏาคมเป็นต้นไป บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้กลับมาเปิดให้บริการเที่ยวบินตรงกรุงเทพฯ – มิลาน – กรุงเทพฯ (หลังจากที่ได้มีการปิดให้บริการเที่ยวบินตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19) โดยการเปิดให้บริการเที่ยวบินดังกล่าวจะช่วยเชื่อมโยงทั้ง 2 ประเทศ ให้กลับมามีความใกล้ชิดทางด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างกันเพิ่มขึ้น โดยปี 2567 (มกราคม – พฤษภาคม) พบว่า มีนักท่องเที่ยวชาวอิตาเลียนเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย จำนวน 103,544 คน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 47.20% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ดังนั้น การที่สายการบินไทยกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง จะยิ่งส่งผลให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากอิตาลี/ยุโรปเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ไทยมีรายได้เข้าประเทศจากการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังช่วยเปิดโอกาสในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้นำเข้า/ผู้ซื้อจากอิตาลี เดินทางเยือนงานแสดงสินค้าในประเทศไทย ช่วยขยายมูลค่าการค้าระหว่างไทย-อิตาลี ให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นด้วย
——————————————————————-
ที่มา: 1. Food Affairs
2. กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา
3. https://www.ministeroturismo.gov.it/wp-content/uploads/2024/06/Andamento-turistico-italiano-2023.pdf
4. รูปภาพประกอบของ Moira Nazzari, Andy Crone และ Kristof Van Rentergem

de_DEGerman