รายงานตลาดอิสราเอลเชิงลึกสินค้าส่งออกหลักจากไทย

ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสงครามอิสราเอลฮามาสจะมากหรือน้อย และเศรษฐกิจอิสราเอลจะฟื้นตัวได้หรือไม่นั้นขึ้นกับปัจจัยหลายประการ เช่น เศรษฐกิจของอิสราเอลเข้มแข็งขนาดไหน เศรษฐกิจโลกเป็นอย่างไร รายงานข่าวบทความที่วิเคราะห์เศรษฐกิจจากมหาวิทยาลัย KOC อิสตันบุล ในตุรกี สะท้อนภาพแง่ลบที่จะเกิดกับเศรษฐกิจอิสราเอลในอนาคตในระยะกลางและระยะยาว เพราะสงครามได้ยืดเยื้อมานานเกือบปี ส่วนในฝั่งอิสราเอลมีรายงานข่าวเผยแพร่ในแง่ของความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจอิสราเอลแม้ว่าจะเติบโตแบบถดถอยในช่วงต้นปี 2024 แต่เมื่อใดที่สงครามยุติ (คาดว่าน่าจะเร็วๆนี้) เศรษฐกิจอิสราเอลน่าจะกลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว เพราะเศรษฐกิจเข้มแข็งพึ่งพาตนเองและการส่งออกภาคบริการเทคโนโลยีขั้นสูง
ก่อนจะไปดูและผลกระทบจากสงครามต่อประเทศอิสราเอล มีรายงานอัพเดทข้อมูลสถิติตัวชี้วัดของอิสราเอลและภาวะเศรษฐกิจการค้าในปัจจุบัน ดังนี้
1. อัพเดทข้อมูลสถิติตัวชี้วัดของอิสราเอล
อิสราเอลเป็นประเทศขนาดเล็ก อยู่ในตะวันออกกลาง ชายฝั่งทะเลตะวันตกติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีประชากร ประมาณ 10 ล้านคน

จุดแข็งจุดอ่อนของอิสราเอล
จุดแข็งของประเทศ ได้แก่
 ความสามารถในการแข่งขันสูงด้านเทคโนโลยี
 มีเงินสำรองต่างประเทศสูง
 หนี้สาธารณะต่อ GDP ค่อนข้างต่ำ
 มีก๊าซธรรมชาติและพลังงานทดแทน
 ความสัมพันธ์ทางการค้าที่ดีกับประเทศต่างๆ เช่น อินเดีย ยุโรป จอร์แดน
 แนวโน้มการท่องเที่ยวที่ดีแต่ต้องเสี่ยงกับความไม่ปลอดภัยด้วย
 พึ่งพาการส่งออกไปยังประเทศตะวันตก
จุดอ่อนของอิสราเอล เช่น
 ภูมิรัฐศาสตร์ สงครามกับฮามาส
 เศรษฐกิจขนาดเล็ก
 การส่งออกก๊าซธรรมชาติขึ้นกับความปลอดภัยและความสัมพันธ์กับอียิปต์
 ขาดแคลนแรงงานก่อสร้างและแรงงานทักษะด้านเทคโนโลยี
 การเมืองที่แตกแยกและรุนแรง นำไปสู่ความไม่มั่นคงทางการเมืองและการเลือกตั้งกะทันหันบ่อยครั้ง
 ความแตกแยกทางสังคม การเมือง และเศรษฐกิจระหว่างฝ่ายขวาที่ยึดมั่นในศาสนาและฝ่ายซ้ายที่ไม่ยึดมั่นในศาสนา ซึ่งขยายวงกว้างขึ้นจากร่างกฎหมายปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมของรัฐบาล
 ปัญหาการอยู่ร่วมกันกับชาวปาเลสไตน์ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข
 อาชญากรรมสูงในหมู่ชาวอาหรับอิสราเอล ส่วนหนึ่งเกิดจากความยากจน การว่างงาน และการเลือกปฏิบัติ

ประเทศคู่ค้ารายสำคัญของอิสราเอล
ในการส่งออกอันดับหนึ่ง ได้แก่ สหรัฐฯ สัดส่วนการส่งออก 26% ของทั้งหมด รองลงมาได้แก่ ประเทศต่างๆในทวีปยุโรป มีสัดส่วนรวม คิดเป็น 23% จีน 6% อินเดีย 5% และอังกฤษ 4% ตามลำดับ
สำหรับการนำเข้า อิสราเอลนำเข้าจากยุโรปมากที่สุด มีสัดส่วนการนำเข้าจากยุโรป คิดเป็น 28% รองลงมาได้แก่ จีน 12% สหรัฐฯ 9% สวิตส์ 6% และตุรกี 5% ตามลำดับ

สินค้าส่งออกหลักและสินค้านำเข้าหลัก
สินค้าส่งออกหลักของอิสราเอล ได้แก่ เพชร 10.5 พันล้านดอลลาร์ Intergrated Circuits 7.83 พันล้านดอลลาร์น้ำมันกลั่น 4.08 พันล้านดอลลาร์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ 2.51 พันล้านดอลลาร์ และปุ๋ยโพแทสเซียม 2.31 พันล้านดอลลาร์ โดยส่วนใหญ่ส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา (20.3 พันล้านดอลลาร์) จีน (5.53 พันล้านดอลลาร์) ปาเลสไตน์ (4.6 พันล้านดอลลาร์) ไอร์แลนด์ (3.86 พันล้านดอลลาร์) และสหราชอาณาจักร (3.18 พันล้านดอลลาร์)
การนำเข้า สินค้าที่นำเข้ามากที่สุดของอิสราเอล ได้แก่ เพชร (7,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) รถยนต์ (6,670 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ปิโตรเลียมดิบ (3,730 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ปิโตรเลียมกลั่น (3,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) และอุปกรณ์กระจายเสียง (2,560 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) โดยส่วนใหญ่นำเข้ามาจากประเทศจีน (14,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) สหรัฐอเมริกา (11,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ตุรกี (7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) เยอรมนี (6,460 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) และอินเดีย (4,860 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)
เมื่อเดือนมกราคม 2024 บริษัท Coface co.,ltd. ประเมินความเสี่ยงธุรกิจประเภทต่างๆ ในอิสราเอล ในการดำเนินธุรกิจและการลงทุนดังแผนภาพข้างล่างนี้

ความสำคัญของเทคโนโลยีขั้นสูงต่อเศรษฐกิจของอิสราเอล
อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงยังคงมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของอิสราเอล ในปี 2023 คิดเป็นสัดส่วนต่ำกว่า 20% ของ GDP ทั้งหมดของประเทศ หรือประมาณ 92.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 53% ของมูลค่าการส่งออก หรือประมาณ 73.5 พันล้านดอลลาร์

  1. ผลกระทบสงครามอิสราเอลฮามาสกับเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ

ผลกระทบจากสงครามฉนวนกาซาที่ยืดเยื้อต่อเศรษฐกิจของอิสราเอล สรุปได้ว่า ตั้งแต่สงครามเริ่มเมื่อ 7 ตุลาคม 2023 ทำให้เศรษฐกิจอิสราเอลชลอตัว เติบโตลดลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดสงคราม จากข้อมูล Central Bureau of Statistic (CBS) ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของประเทศขยายตัว 3.4% ในไตรมาสที่สามของปี 2023 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่มีการหดตัว 4% ในไตรมาสสุดท้ายของปีเนื่องจากผลกระทบจากสงคราม อย่างไรก็ตาม ด้วยการฟื้นตัวที่สัมพันธ์กันซึ่งเริ่มต้นในไตรมาสแรกของปี 2024 การหดตัวประจำปีนี้จึงผ่อนคลายลงเหลือ 1.2%

อิสราเอลได้ประกาศภาวะสงครามภายหลังการโจมตีของกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นกลุ่มอิสลามิสต์ที่ควบคุมฉนวนกาซา ซึ่งอิสราเอลคาดว่าอิสราเอลจะได้รับความได้เปรียบทางทหารในฉนวนกาซา แต่กลับจะพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะทำลายกลุ่มฮามาสทั้งหมด หรือแม้แต่จะพัฒนากลยุทธ์เพื่อหาทางออกระยะยาว เพราะยังมีความเสี่ยงสูงที่สงครามจะบานปลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำสงครามกับกลุ่มติดอาวุธชีอะฮ์เลบานอนที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านอย่างฮิซบุลเลาะห์ แม้ว่านายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อปลายปี 2022 มีจุดยืนเป็นหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรที่นับถือศาสนาขวาสุดโต่ง 4 ฝ่าย ได้สามารถตั้งรัฐบาลของเขาให้รวมเอกภาพแห่งชาติในช่วงสงครามได้ หน่วยสืบราชการลับและความล้มเหลวอื่นๆ ของรัฐบาลของเขาก่อนการโจมตีมีแนวโน้มที่จะเร่งให้เกิดความหายนะภายในไม่กี่เดือน ขั้นตอนในการสร้างสายสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างอิสราเอลและรัฐอาหรับจะถูก ระงับไว้ชั่วคราว

อัตราส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP เพิ่มขึ้นจาก 60.7% ในปี 2022 เป็น 63.4% ในปี 2023 อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนนี้ยังต่ำกว่า  70.6% ในปี 2020 ซึ่งเป็นปีแห่งการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเมื่อเดือนมิถุนายน 2024 ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของอิสราเอลอยู่ที่ 210.5 พันล้านดอลลาร์ และ ยังไม่ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อัตราเงินเฟ้อซึ่งอยู่ที่ 3.8% ในเดือนตุลาคม 2023 ตอนที่ความขัดแย้งเริ่มต้นขึ้น ปัจจุบันอยู่ ที่ 2.9%

ไตรมาสที่ 1 ของปี 2024

  • GDP ในประเทศต่อหัวลดลงทั้งเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ตัวเลขที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความเสียหายที่สำคัญที่สงครามที่กำลังดำเนินอยู่ก่อให้เกิดต่อเศรษฐกิจ Bank Mizrahi- Tefahot หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์การตลาด กล่าวว่า เศรษฐกิจฟื้นตัวในช่วงต้นปี โดยเติบโต 17.3% ต่อปีในช่วง 3 เดือนแรกของปี หลังจากที่หดตัว 20.6% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2023 เมื่อเกิดสงครามกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 ประชาชนลดการใช้จ่าย การค้า และการลงทุนของผู้บริโภคลงอย่างมาก
  • การเติบโตที่ต่ำกว่าคาดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เศรษฐกิจขยายตัว 1.4% ในไตรมาสแรกของปี 2024 ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มจะชะลอตัว ข้อมูลยังแสดงให้เห็นว่า GDP ต่อหัวลดลง 0.4% ในช่วงไตรมาสที่สอง ซึ่งสะท้อนถึงสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ถดถอย
  • การชะลอตัวดังกล่าวยังเห็นได้จากการลดลงอย่างมากทั้งการส่งออกและการนำเข้า ซึ่งลดลง 7.1% และ 7.3% ตามลำดับเมื่อเทียบเป็นรายปี การลดลงนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ผลิตและผู้ส่งออก ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่การนำเข้าที่ลดลงส่งสัญญาณว่าความต้องการภายในเศรษฐกิจอิสราเอลลดลง

ไตรมาสที่ 2 ของ ปี 2024

  • เศรษฐกิจอิสราเอลเติบโตน้อยกว่าคาดในไตรมาสที่ 2 ปี 2024 ท่ามกลางสงครามฉนวนกาซา เศรษฐกิจอิสราเอลเติบโตเพียง 1.2% ในไตรมาสที่ 2 ปี 2024 ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์การเติบโต 3% ของนักวิเคราะห์ในตลาดหลักทรัพย์เทลอาวีฟอย่างมาก
  • ตัวเลขที่เผยแพร่โดยสำนักงานสถิติกลางของอิสราเอล (Central Bureau of Statistics : CBS) แสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอิสราเอลขยายตัว 1.2% ในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน 2024 และลดลง 1.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ตามการประมาณการเบื้องต้นของ CBS ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ ซึ่งอยู่ระหว่าง 2.3% ถึง 5% ในขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาต่อหัวแล้ว เมื่อปรับตามการเติบโตของประชากร GDP หดตัว 0.4% ในไตรมาสที่ 2

การเพิ่มขึ้นเล็กน้อยของ GDP มีสาเหตุหลักมาจากการใช้จ่ายภาครัฐที่เพิ่มขึ้น 8.2% ซึ่งชดเชยการผลิตทางธุรกิจที่ลดลง 1.9%

  • เศรษฐกิจหดตัว 0.4% ในเดือนเมษายน-มิถุนายน 2024 ต่อหัว (per capita basis) เมื่อปรับตามการเติบโตของประชากร และการผลิตและการส่งออกของธุรกิจลดลง ตามข้อมูลของสำนักสถิติกลางของอิสราเอล (CBS) เนื่องจากสงครามที่ยาวนานหลายเดือนกับกลุ่มก่อการร้ายฮามาสยังคงส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการส่งออกและการลงทุน

ในช่วงไตรมาสที่สอง การผลิตภาคธุรกิจลดลง 1.9% เนื่องจากการส่งออกสินค้าและบริการลดลง 8.3% ตามข้อมูลของสำนักงานสถิติกลาง การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้นเพียง 1.1% “น่าผิดหวังกับการเติบโตของ GDP ในไตรมาสที่สอง เนื่องจากการหดตัวของการส่งออก (สินค้าและบริการ) และการลงทุนที่อ่อนแอ” Jonathan Katz หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Leader Capital Markets กล่าว

ไตรมาสที่ 3 ของปี 2024

ภาวะเศรษฐกิจถดถอย เกิดขึ้นพร้อมกับความตึงเครียดในภูมิภาคที่เพิ่มขึ้นจากการที่อิสราเอลบุกโจมตีฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 40,100 รายและบาดเจ็บอีกกว่า 92,600 ราย นับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ปีที่แล้ว

อิสราเอล ถูกกล่าวหา ว่าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ซึ่งสั่งให้ยุติปฏิบัติการทางทหารทันทีในเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ ซึ่งชาวปาเลสไตน์มากกว่า 1 ล้านคนได้ขอลี้ภัยจากสงครามก่อนถูกรุกรานในวันที่ 6 พฤษภาคม 2024

  • Atli Global Consulting, Koc University ในอิสตันบูล ตุรกี ดร. อัลไต อัต ลี (Dr.Altay Atli) ได้วิเคราะห์ – ต้นทุนของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์: อิสราเอลเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ วิกฤตด้านมนุษยธรรมที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในปาเลสไตน์และการปิดเส้นทางส่งออกของอิสราเอลเพิ่มเติม อาจส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศซึ่งอยู่ในภาวะขาดดุลการค้าเรื้อรังอยู่แล้ว เข้าสู่ภาวะคอขวดที่ลึกยิ่งขึ้น เศรษฐกิจอิสราเอลกำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤติซึ่งได้รับแรงหนุนจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซาหรือไม่?
  • จากข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่เผยแพร่โดยทางการอิสราเอล แม้ว่าสงครามที่มีต่อเศรษฐกิจดูเหมือนจะมีข้อจำกัด และบางพื้นที่ยังมีสัญญาณการฟื้นตัวจากการพ่ายแพ้ในช่วงแรกหลังเดือนตุลาคม 2023 เศรษฐกิจเผชิญกับช่วงเวลาที่ท้าทายมากขึ้นในระยะกลางและในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่กำลังดำเนินอยู่ในฉนวนกาซา และการที่อิสราเอลโดดเดี่ยวมากขึ้นโดยประชาคมระหว่างประเทศ
  • วิกฤตที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะกลางและระยะยาว

ก่อนเดือนตุลาคม 2023 เศรษฐกิจอิสราเอลค่อนข้างทรงตัวและฟื้นตัวได้มากจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เศรษฐกิจอิสราเอลมุ่งเน้นไปที่การส่งออก เพิ่มผลผลิต และลงทุนในเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพ แต่ปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจอิสราเอลมีความได้เปรียบทางการแข่งขันก่อนเดือนตุลาคม 2023 ถูกคุกคามจากผลกระทบของสงคราม ความไม่มั่นคงทางการเมืองอย่างเชิงลึกของประเทศ และการแยกตัวจากนานาชาติมากขึ้น

สถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบันทำให้ความเชื่อมโยงระหว่างเศรษฐกิจอิสราเอลกับเศรษฐกิจโลกอ่อนแอลงมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งสัญญาณถึงวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะกลางและระยะยาว

การส่งออกของอิสราเอลเริ่มเพิ่มขึ้นหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ ถูกขัดจังหวะ ด้วยวิกฤต เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2023 และในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2024 การส่งออกรายเดือนของประเทศลดลงทุกเดือน

  • การส่งออกยังไม่ถึงระดับที่คาดไว้ เนื่องจากการคว่ำบาตรของประเทศต่างๆ รวมถึง ตุรกี ตัวอย่างเช่น การส่งออกในเดือนมิถุนายน 2567 ซึ่งมีมูลค่า 4.69 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าการส่งออกในเดือนมิถุนายน 2023 ที่ 5.22 พันล้านดอลลาร์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม วิกฤตด้านมนุษยธรรมที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในปาเลสไตน์และการปิดเส้นทางส่งออกของอิสราเอลเพิ่มเติม อาจส่งผลให้เศรษฐกิจอิสราเอลซึ่งอยู่ในภาวะขาดดุลการค้าเรื้อรังอยู่แล้วเข้าสู่ภาวะคอขวดที่ร้ายแรงขึ้น
  • ท่าเรือและเส้นทางการค้า ไม่เพียงแต่ตัวเลขการส่งออกของอิสราเอลได้รับผลกระทบ จากวิกฤติครั้งนี้เท่านั้น แต่ศูนย์โลจิสติกส์และเส้นทางการค้าที่เชื่อมต่อกับเศรษฐกิจโลกก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ท่าเรือไอลัต(Eilat) ซึ่งเป็นประตูสู่ทะเลแดงของอิสราเอล มาถึงจุดที่ต้องปิดโดยสิ้นเชิงเนื่องจากการโจมตีโดยกลุ่มฮูตีที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในเยเมน การโจมตีเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่เรือของอิสราเอลทั้งในทะเลแดงและท่าเรือ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน กลุ่มฮูตีพร้อมกับกลุ่มต่างๆ ที่ประจำอยู่ในอิรัก ได้ทำการโจมตีด้วยโดรนบนเรือที่ทอดสมออยู่ที่ท่าเรือไคฟา (Haifa) มี รายงาน ในสื่อว่าหากความขัดแย้งทางตอนเหนือของอิสราเอลรุนแรงขึ้น กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนจะมุ่งเป้าไปที่ท่าเรือไคฟา

ในขณะที่วิกฤติในปาเลสไตน์ยังคงดำเนินต่อไป ภัยคุกคามด้านความปลอดภัยต่อท่าเรือของอิสราเอลและเส้นทางการค้าทางทะเลก็เพิ่มมากขึ้น ความไม่พร้อมใช้งานของท่าเรือและสายการเดินเรือ แม้ว่าจะไม่เกิดความเสียหายทางกายภาพ ดังเช่นในกรณีของท่าเรือไอลัต ก็สามารถนำไปสู่การล้มละลายของสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ได้

  • จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ผลที่ตามมาที่โดดเด่นที่สุดประการหนึ่งจากความสัมพันธ์ที่อ่อนแอของอิสราเอลกับโลกภายนอกคือจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง ในเดือนมิถุนายน 2024 จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศ รวมถึงสมาชิกชุมชนชาวยิวพลัดถิ่นที่เดินทางมาประเทศอิสราเอลเพื่อพักผ่อนหรือเยี่ยมครอบครัว ลดลงร้อยละ 70.1 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การท่องเที่ยวนี้ปกติแล้วนับว่าเป็นภาคส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดในธุรกิจภาคบริการของเศรษฐกิจอิสราเอลส่งผลให้สูญเสียค่าเงินต่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ
  • การลงทุนตกต่ำ เศรษฐกิจของอิสราเอลได้รับความได้เปรียบในการแข่งขันด้วยความก้าวหน้าในธุรกิจสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีขั้นสูง ภาคส่วนเหล่านี้อาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศที่แข็งแกร่งอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ความเปราะบางกำลังเกิดขึ้นสำหรับอิสราเอลในสถานการณ์ปัจจุบัน ตามรายงานของ RISE Israel ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยทางเศรษฐกิจ สตาร์ทอัพของประเทศได้รับเงินทุนเฉลี่ย 1.7 พันล้านดอลลาร์ต่อไตรมาสนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้น เทียบกับประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์ก่อนสงคราม จำนวนนักลงทุนที่แข็งขันรวมถึงนักลงทุนชาวอิสราเอลและชาวต่างชาติที่ลงทุนในประเทศ ลดลง 23% ในเดือนแรกของสงคราม การที่แนวโน้มนี้ดำเนินต่อไปอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อภาคเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งของอิสราเอล ในสถานการณ์ปัจจุบันขณะนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่การลงทุนในอิสราเอลลดลง

สุดท้ายนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและสหรัฐอเมริกา นับตั้งแต่ก่อตั้ง อิสราเอลได้รับความช่วยเหลือรวมทั้งสิ้น 310,000 ล้านดอลลาร์จากสหรัฐฯ โดยเป็นความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ 80,000 ล้านดอลลาร์ และความช่วยเหลือทางทหาร 230,000 ล้านดอลลาร์ ในเดือนมีนาคมและเมษายนของปี 2024 นี้ สหรัฐฯ ให้คำมั่นว่าจะให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่อิสราเอลอีก 12.5 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนในการเมืองของสหรัฐฯ ทำให้เกิดคำถามว่าความสัมพันธ์กับอิสราเอลตลอดจนความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและการทหารจะมีรูปแบบอย่างไรต่อไปหลังการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2024 แม้จะมีผลกระทบของสงคราม การใช้จ่ายทางทหารที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และการเลือกงบประมาณแบบประชานิยมของรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู แต่เศรษฐกิจของอิสราเอลซึ่งมีโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งตามขนาด ยังไม่เข้าสู่ภาวะวิกฤต อย่างไรก็ตาม เพื่อรักษาสถานการณ์นี้ไว้ ประเทศจำเป็นต้องรักษาการเชื่อมโยงที่แข็งแกร่งกับโลกภายนอกและเศรษฐกิจโลก นี่คือจุดที่ภัยคุกคามที่แท้จริง

  • การโจมตีเมื่อเดือนตุลาคม 2023 ทำให้ผู้ก่อการร้ายฮามาสอาละวาดทั่วอิสราเอลตอนใต้ และคร่าชีวิตผู้คนไปราว 1,200 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และลักพาตัว 251 ราย กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอลกล่าวว่าตัวประกัน 111 รายยังคงอยู่ในฉนวนกาซา โดย 39 รายในจำนวนนี้ ถูกประกาศว่า เสียชีวิตแล้ว

นอกเหนือจากการสู้รบในฉนวนกาซาแล้ว ฮิซบอลเลาะห์ พันธมิตรของกลุ่มฮามาสที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ยังได้ยิงจรวดจากเลบานอนโจมตีทางตอนเหนือของอิสราเอลทุกวันในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา โต้ตอบการโจมตีกับกองกำลังอิสราเอล และกระตุ้นให้เกิดความกลัวว่าการโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายอาจบานปลายจนกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ ประชาชนหลายหมื่นคนใกล้ชายแดนอิสราเอล-เลบานอน ต้องพลัดถิ่น จากความรุนแรง และสถานการณ์ด้านความปลอดภัยได้ส่งผลกระทบต่อแรงงานและการดำเนินธุรกิจในชุมชนทั้งทางตอนใต้และทางตอนเหนือ

  • Katz ซึ่งคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 2.3% กล่าวว่าตัวเลขการเติบโตที่ช้ากว่าที่คาดไว้ “ส่วนใหญ่เกิดจากปัญหาด้านอุปทาน การลงทุนด้านการก่อสร้างยังคงลดลง 26% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากการขาดแคลนคนงานชาวปาเลสไตน์”
  • “การปิดธุรกิจในภาคเหนือและภาคใต้ (เกษตรกรรม พาณิชยกรรม) ก็ส่งผลกระทบต่อการเติบโตเช่นกัน” เขากล่าว
  • การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิสราเอล เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ข้อมูลบ่งชี้เศรษฐกิจที่อ่อนแอ จาก A+ เป็น A โดย Fitch ซึ่งกล่าวว่าคาดว่าสงครามจะคงอยู่ต่อไปในปี 2025 หน่วยงานจัดอันดับเครดิตเตือนว่าการเพิ่มระดับในหลายด้านอาจส่งผลให้เกิด “นัยสำคัญ” งบประมาณการใช้จ่ายทางทหารเพิ่มเติม การทำลายโครงสร้างพื้นฐาน และความเสียหายที่ยั่งยืนมากขึ้นต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการลงทุน” Fitch เป็นหน่วยงานสินเชื่อระดับโลกแห่งที่สามที่ลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิสราเอลในปีนี้ รองจาก S&P และ Moody ‘s
  • การใช้จ่ายภาคเอกชน ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยขับเคลื่อนหลักของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เพิ่มขึ้น 12% ในไตรมาสที่สอง หลังจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 23.5% ในไตรมาสก่อน นำโดย “การเติบโตของค่าจ้างและการสนับสนุนจากรัฐบาลสำหรับผู้อพยพและระดมทหาร”
  • นอกเหนือจากต้นทุนที่เกิดขึ้นทันทีจากสงครามและการสนับสนุนผู้ที่ได้รับผลกระทบแล้ว ค่าครองชีพและการปฏิรูปตลาดแรงงานจะยังคงเป็นข้อกังวลด้านนโยบายเศรษฐกิจที่สำคัญ การขาดดุลทางการคลังจะขยายตัวอย่างรวดเร็วในปี 2024 เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับสงคราม อย่างไรก็ตาม หลังจากสงครามยุติจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยระยะสั้นแต่รุนแรง อัตราเงินเฟ้อจะกลับมาคาดว่าอยู่ในช่วงเป้าหมาย 1-3% ในปี 2024 การเติบโตทางเศรษฐกิจคาดว่าจะฟื้นตัว เติบโตอยู่ที่ประมาณ 3.5 – 4% และจากปี 2025 เป็นต้นไป คาดว่าจะเติบโต 4 – 5 % เช่นเดียวกับในทุกๆปีที่ผ่านมา

คาดการณ์เศรษฐกิจเติบโตในปี 2024 ทั้งปี และปี 2025

  • ธนาคารแห่งอิสราเอลในเดือนกรกฎาคม 2024 ได้ปรับลดแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยอ้างถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการขยายตัวกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ของเลบานอนที่ชายแดนทางตอนเหนือ
  • ธนาคารกลางคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโต 1.5% ในปี 2024 และ 4.2% ในปี 2025 ซึ่งลดลงจากการคาดการณ์การเติบโตครั้งก่อนเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาที่คาดว่า 2% ในปี 2024 และ 5% ในปี 2025
  • “เมื่อมองในช่วงครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มว่ากิจกรรมของเศรษฐกิจจะชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับการพัฒนาด้านความมั่นคงในภูมิภาค และคำถามเกี่ยวกับระดับความรุนแรงของผลกระทบของสงครามที่มีต่อเศรษฐกิจ” ธนาคาร Mizrahi- Tefahot’s กล่าว “เศรษฐกิจมีการจ้างงานเต็มจำนวนที่สามารถจ้างได้ จำนวนคนว่างงานเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับความยากลำบากในการเติมตำแหน่งงานด้วยคนงานมืออาชีพ ซึ่งจะยังคงเป็นอุปสรรคที่ยับยั้งกิจกรรมและการเติบโตของ GDP ต่อไป”
  1. การค้าระหว่างประเทศไทยกับอิสราเอล

3.1 การค้าระหว่างไทยกับอิสราเอลใน ปี 2566

ในปลายปี 2566 ที่สงครามเริ่มต้นในเดือนตุลาคม 2566 การค้าระหว่างประเทศของอิสราเอลเริ่มลดลง

3.1.1 การส่งออกจากไทยมายังอิสราเอล เริ่มลดลงตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ทำให้ มูลค่ารวมการส่งออกจากไทยมายังอิสราเอล ในปี 2566 จำนวน 26,972 ล้านบาท ลดลง 9.27% เมื่อเทียบกับปี 2565 สินค้าส่งออกที่ลดลงอย่างมาก เช่น รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ ทูน่ากระป๋อง และตู้เย็น เป็นต้น

สินค้าส่งออกของไทย รายประเทศอิสราเอล ปี 2566

มูลค่า : ล้านบาท อัตราขยายตัว(%)
ชื่อสินค้า 2564 2565 2566 2564 2565 2566
  –  รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 7,336.61 8,619.61 5,304.72 130.57 17.49 -38.46
  –  อัญมณีและเครื่องประดับ 1,776.38 2,841.22 3,262.85 6.38 59.94 14.84
  –  อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป 1,487.87 2,832.19 2,427.84 -17.15 90.35 -14.28
  –  ข้าว 979.75 1,115.33 1,385.00 -15.34 13.84 24.18
  –  ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ 742.59 716.52 1,095.53 148.47 -3.51 52.90
รวม 15 รายการ 20,396.65 23,239.84 20,427.69 43.19 13.94 -12.10
อื่น ๆ 5,643.98 6,487.62 6,544.76 35.34 14.95 0.88
รวมทั้งสิ้น 26,040.64 29,727.46 26,972.45 41.42 14.16 -9.27

ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร

3.1.2 การนำเข้าจากอสราเอลมายังไทย มูลค่าสินค้านำเข้ามายังไทยจากอิสราเอล จำนวน 15,385 ล้านบาท ลดลง 44% เมื่อเทียบกับปี 2565 สินค้านำเข้าที่ลดลง เช่น ปุ๋ย เคมีภัณฑ์ และ เครื่องจักร เป็นต้น รายละเอียดดังตารางข้อมูล ต่อไปนี้

สินค้านำเข้าหลักจากอิสราเอลมาไทย ในปี 2566

ชื่อสินค้า มูลค่า : ล้านบาท อัตราขยายตัว(%)
2564 2565 2566 2564 2565 2566
  –  เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ 2,589.52 5,081.47 5,707.85 7.86 96.23 12.33
  –  ปุ๋ย และยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ 1,525.42 2,973.94 1,987.87 -3.44 94.96 -33.16
  –  เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ 3,034.20 2,009.66 1,404.17 18.08 -33.77 -30.13
  –  แผงวงจรไฟฟ้า 737.41 948.01 982.13 2.11 28.56 3.60
  –  ผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผัก ผลไม้ 521.62 774.26 837.20 -11.88 48.43 8.13
  –  เครื่องมือวิทยาศาสตร์ การแพทย์ 1,611.91 1,017.13 815.74 37.88 -36.90 -19.80
รวม 15 รายการ 12,987.03 17,591.19 14,349.25 6.80 35.45 -18.43
อื่น ๆ 1,465.65 1,863.45 1,035.67 17.56 27.14 -44.42
รวมทั้งสิ้น 14,452.68 19,454.64 15,384.92 7.80 34.61 -20.92

 

 

 

3.2 การค้าระหว่างไทยกับอิสราเอลใน ปี 2567

3.2.1 การส่งออกจากไทยมายังอิสราเอล ในปี 2567 (ม.ค. – ก.ค.) การส่งออกสินค้าไทยมายังอิสราเอลปรับตัวได้ดีขึ้น มีมูลค่าการส่งออก 17,757 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.11% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 สินค้าส่งออก 5 อันดับแรก ได้แก่ รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป อัญมณีและเครื่องประดับ ข้าว ตู้เย็นตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ ตามลำดับ

สินค้าส่งออกของไทย รายประเทศอิสราเอล ปี 2567 (ม.ค. – ก.ค.)

  มูลค่า : ล้านบาท อัตราขยายตัว(%)
ชื่อสินค้า 2565 2566 2566 2567 2565 2566 2566 2567
      (ม.ค.-ก.ค.) (ม.ค.-ก.ค.)     (ม.ค.-ก.ค.) (ม.ค.-ก.ค.)
  –  รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 8,619.61 5,304.72 4,456.52 4,006.93 17.49 -38.46 59.48 -10.09
  –  อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป 2,832.19 2,427.84 1,458.82 2,879.26 90.35 -14.28 1.19 97.37
  –  อัญมณีและเครื่องประดับ 2,841.22 3,262.85 1,513.63 1,808.67 59.94 14.84 14.95 19.49
  –  ข้าว 1,115.33 1,385.00 827.53 1,024.72 13.84 24.18 38.65 23.83
  –  ตู้เย็น ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ 1,224.82 694.51 361.36 662.71 13.73 -43.30 -39.41 83.39
รวม 15 รายการ 22,634.69 18,772.14 11,948.86 14,431.87 14.52 -17.06 18.67 20.78
อื่น ๆ 7,092.77 8,200.31 5,273.31 3,325.43 13.00 15.62 39.13 -36.94
รวมทั้งสิ้น 29,727.46 26,972.45 17,222.17 17,757.31 14.16 -9.27 24.27 3.11

 

3..2.2 การนำเข้าจากอสราเอลมายังไทย ในปี 2567 (ม.ค. – ก.ค.) มีมูลค่า 9,825 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.47% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 สินค้านำเข้า 5 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบปุ๋ย และยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผัก ผลไม้ เครื่องมือวิทยาศาสตร์ การแพทย์

  มูลค่า : ล้านบาท อัตราขยายตัว(%)
ชื่อสินค้า 2565 2566 2567 2565 2566 2567
      (ม.ค.-ก.ค.)     (ม.ค.-ก.ค.)
  –  เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ 5,081.47 5,707.85 3,937.25 96.23 12.33 15.74
  –  เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ 2,009.66 1,404.17 1,191.55 -33.77 -30.13 51.03
  –  ปุ๋ย และยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ 2,973.94 1,987.87 1,136.83 94.96 -33.16 -1.51
  –  ผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผัก ผลไม้ 774.26 837.20 570.45 48.43 8.13 36.62
  –  เครื่องมือวิทยาศาสตร์ การแพทย์ 1,017.13 815.74 506.31 -36.90 -19.80 32.31
  –  แผงวงจรไฟฟ้า 948.01 982.13 399.77 28.56 3.60 -40.94
  –  เคมีภัณฑ์ 1,215.62 538.89 323.39 110.34 -55.67 -8.00
รวม 15 รายการ 16,735.43 14,106.00 9,287.56 36.29 -15.71 13.29
อื่น ๆ 2,719.21 1,278.91 537.02 25.09 -52.97 -30.90
รวมทั้งสิ้น 19,454.64 15,384.92 9,824.57 34.61 -20.92 9.47

——————————————————————————

ที่มา :

www.aa.com.tr/en/analysis/analysis-cost-of-genocide-israel-heads-for-economic-downturn/3304028#

www.aa.com.tr/en/middle-east/israeli-economy-grows-by-less-than-expected-in-q2-2024-amid-gaza-war/3307139

www.timesofisrael.com/prolonged-gaza-war-hits-israeli-economy-with-unexpected-slowdown/

www.i24news.tv/en/news/israel/economy/artc-fitch-ratings-downgrades-israel-s-credit-rating-amid-war-regional-threats

https://country.eiu.com/israel

en.globes.co.il

moc.go.th

 

 

  1. ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ

ในสัปดาห์นี้ (ณ 29 ส.ค.67) มีรายงานข่าวว่า อิหร่านเตรียมโจมตีอิสราเอลแก้แค้นการสังหารผู้นำฮามาสและฮิซบุลเลาะห์ ด้านอิสราเอลยังคงโจมตีฉนวนกาซา ปาเลสไตน์อย่างต่อเนื่อง และเริ่มขยายโจมตีเวสต์แบงค์ชายแดนเลบานอนเพิ่มแนวรบอีกในด้านเหนือ ทำให้การเจรจาหยุดยิงไม่คืบหน้า สถานการณ์สงครามยังคงรุนแรงและไม่มีความแน่นอน แม้ว่าในภาคกลางของประเทศและกรุงเทลอาวีฟจะมีสถานการณ์ที่ประชาชนใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดย เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2567 มีเพียงการได้ตกลงหยุดยิงชั่วคราว 2-3 วัน เท่านั้น เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโปลิโอให้เด็กและประชาชนในกาซา

ภาวะเศรษฐกิจของอิสราเอลในปัจจุบันได้รับผลกระทบด้านลบ เศรษฐกิจชะลอตัว ธนาคารกลาง (Bank of Israel) คาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโต 1.5% ในปี 2024 และ 4.2% ในปี 2025 ซึ่งลดลงจากการคาดการณ์การเติบโตครั้งก่อนในเดือนเมษายนที่ 2% ในปี 2024 และ 5% ในปี 2025

ในเรื่องการค้าระหว่างประเทศของอิสราเอลก็คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ ในปี 2025 รวมทั้งการค้าระหว่างประเทศกับไทยก็จะมีแนวโน้มในทางเดียวกัน สงครามยุติได้เร็วเท่าไรก็น่าจะเป็นผลดีกับเศรษฐกิจของอิสราเอลได้เร็วเช่นกัน

—————————————————————-

สคต.เทลอาวีฟ

30 สิงหาคม 2567

 

de_DEGerman