ภาคอุตสาหกรรมเบียร์และสปิริทออสเตรเลียได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮออล์ปีละ 2 ครั้ง ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และสิงหาคม (สอดคล้องกับดัชนีราคาผู้บริโภค) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดการดื่มแอลกอฮอล์เกินขนาดซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดอันตรายหรือสร้างความเสียหายแก่บุคคลและชุมชน และเพื่อนำเงินภาษีไปใช้ในโครงการส่งเสริมความเป็นอยู่และการมีสุขภาพที่ดีของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตในแต่ละปีส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจเนื่องจากการเติบโตของตลาดเบียร์และสปิริทออสเตรเลียชะลอตัวลง เนื่องจากราคาเบียร์และสปิริทที่สูงขึ้นมีผลต่อยอดขายเครื่องดื่มแอลกอฮออล์ในผับและบาร์ต่างๆลดลง
ปีที่ผ่านมา ราคาเบียร์แก้วขนาด 425 มิลลิลิตรเพิ่มขึ้น 67 เซ็นต์ออสเตรเลีย (เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.2) ราคาเครื่องดื่มสปิริทแก้วขนาด 30 มิลลิลิตรเพิ่มขึ้น 93 เซ็นต์ออสเตรเลีย (เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.7) ราคาที่เพิ่มขึ้นประกอบกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮออล์ในผับและบาร์ลง ส่งผลให้ปริมาณยอดขายเครื่องดื่มสปิริทในผับและบาร์ลดลงร้อยละ 7.7 และผู้บริโภคหันไปดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่ำซึ่งมีราคาถูกกว่าเพื่อความคุ้มค่าในกรณีต้องสังสรรค์นอกบ้าน ทำให้ยอดขายเครื่องดื่มอื่นๆ เช่น เบียร์ เครื่องดื่มไซเดอร์ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 1.4 เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่ำ (RTD) มีการขยายตัวร้อยละ 21 และการเติบโตของเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ขยายตัวอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นปี 2567 เครื่องดื่มเบียร์เริ่มประสบปัญหาเช่นเดียวกับสปิริท โดยมียอดขายลดลงร้อยละ 3.1 โดยรายงานล่าสุดของสำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย เปิดเผย ดัชนีราคาผู้บริโภคตลอดทั้งปีจนถึงเดือนกรกฎาคม 2567 ลดลงที่ร้อยละ 3.5 แต่ราคาสินค้าแอลกอฮอล์และยาสูบเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.2 และภาษีสรรพสามิตสินค้าเบียร์ สปิริทและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พร้อมดื่มปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เริ่มมีผลวันที่ 5 สิงหาคม 2567 (ออสเตรเลียเป็นประเทศที่เรียกเก็บภาษีสรรพสามิตสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก) ทำให้ปัจจุบันราคาเบียร์แก้ว (Full-strength แอลกอฮอล์ร้อยละ 4.8) ขนาด 425 มิลลิลิตรเพิ่มขึ้น 71 เซ็นต์ออสเตรเลีย และราคาเครื่องดื่มสปิริทแก้วขนาด 30 มิลลิลิตรเพิ่มขึ้น 1.25 เหรียญออสเตรเลีย (ผลสำรวจโดย CGA by NIQ’s On Premise Measurement)
ปัจจุบันอัตราภาษีสรรพสามิตที่ปรับเพิ่มขึ้นล่าสุดในเดือนสิงหาคม 2567 ทำให้อัตราภาษีสำหรับเครื่องดื่มแอลกอออล์บริสุทธิ์อยู่ที่ 103.89 เหรียญออสเตรเลียต่อลิตร ทำให้ผู้ผลิตเบียร์และโรงกลั่นแอลกอฮอล์ที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และตลาดส่งออกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ออสเตรเลียเสียเปรียบผู้ผลิตต่างประเทศซึ่งมีภาษีต่ำกว่า จึงเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งปฏิรูปการเรียกเก็บภาษีสรรพสามิตใหม่ เนื่องจากผู้ผลิตเบียร์ สปิริทและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พร้อมดื่มรายย่อยหลายรายทยอยยุติการผลิต ซึ่งจะทำให้ผู้ผลิตที่อยู่รอดมีเพียงผู้ผลิตรายใหญ่จากต่างชาติเท่านั้นและผู้บริโภคออสเตรเลียจะไม่มีโอกาสดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผลิตในท้องถิ่นในราคาประหยัดอีกต่อไปหากรัฐบาลยังไม่มีมาตรการช่วยเหลือใดๆ
…………………………………………………………………………………………………………
Königlich Thail. Generalkonsulat, Büro für internationale Handelsförderung in Sydney-Stadt
ที่มา
www.drinkstrade.com.au/www.smartcompany.com.au