Volkswagen เตรียมปิดโรงงานและปลดพนักงานในเยอรมนี

ศูนย์แสดงสินค้าในเมือง Isenbüttel นับเป็นสถานที่ที่ไม่มีความโดดเด่นอะไรเลย โดยหากมองดูบนอินสตาแกรมก็จะพบรูปภาพงานต่าง ๆ บนสถานที่จัดงานของบริษัท Volkswagen (VW) ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งในงานนั้นมีชื่องานว่า “สร้างอนาคตร่วมกัน (Shaping the Future Together)” ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของประเทศในเมืองใกล้กับเมือง Wolfsburg อนาคตใหม่กลับเริ่มต้นในรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ที่งานแถลงข่าวในเมือง Isenbüttel ผู้บริหารได้แจ้งรายละเอียด เกี่ยวกับมาตรการประหยัดที่เข้มงวดให้กับเหล่ากลุ่มผู้หัวหน้าหน่วยต่างของรถยนต์ยี่ห้อ VW หลายร้อยคนให้ทราบรายละเอียดหลักก็คือ Volkswagen ต้องประหยัดมากขึ้นกว่าเดิม นาย Oliver Blume, CEO กล่าวว่า ตัวแปรทางเศรษฐกิจปรับตัวเข้มข้นขึ้นอีกครั้ง คู่แข่งรายใหม่กำลังรุกเข้าสู่ยุโรป และในเวลาเดียวกัน เยอรมนีก็สูญเสียอำนาจในการแข่งขันไปพร้อม ๆ กัน นาย Blume กล่าวว่า “เราในฐานะบริษัทต้องดำเนินการต่อแม้ว่าบริษัทจะต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมตัวแปรทางธุรกิจดังกล่าวก็ตาม” และตามที่คาดไว้ในการประชุมดังกล่าวไม่มีการแจ้งตัวเลขที่เป็นรูปธรรมว่า บริษัทต้องปรับเป้าการประหยัดต้นทุนของบริษัท ไปเป็นจำนวนกี่หลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งจำนวนเงินที่แน่นอนนั้นบริษัทยังต้องเจรจากับสหภาพแรงงานก่อน อย่างไรก็ตามหนังสือพิมพ์ Handelsblatt ทราบจากวงในว่า เฉพาะรถยนต์ Volkswagen ยี่ห้อหลักเพียงยี่ห้อเดียว ต้องประหยัดเงินมากกว่าที่วางแผนไว้ก่อนหน้านี้ถึง 4 พันล้านยูโรจึงจะสามารถบรรลุเป้าหมายด้านต้นทุนที่ตั้งไว้ก่อนหน้านี้ โดย Handelsblatt ได้รายงานผลกระทบของเหตุการณ์นี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้ทราบจากแวดวงในองค์กรว่า VW จะต้องปรับปรุงโครงการประหยัดเงินของตนหนักขึ้นอย่างหนักแน่นอน

 

อย่างไรก็ตาม ในส่วนอื่น ๆ ฝ่ายบริหารมีความชัดเจนมากและได้ประกาศยุติโครงการรับประกันการจ้างงานที่ Volkswagen ใช้มาเป็นเวลา 30 ปีลง โดยสื่อสารภายในอย่างเป็นทางการว่า “ในระยะสั้น เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของบริษัทฯ การปรับโครงสร้างบริษัทโดยอาศัยการพัฒนาด้านประชากร ศาสตร์เพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้บริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายการปรับโครงสร้างที่จำเป็น” ซึ่งเป็นครั้งแรกเช่นกันที่อนาคตของโรงงาน VW แต่ละแห่งในเยอรมนีมีความไม่แน่นอน มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการว่า การปิดโรงงานจะ “เป็นเรื่องไม่สามารถตัดออกไปจากการเจรจาหารือได้อีกต่อไป” คนวงในเปิดเผยว่า จะไม่มีหนทางใดที่จะสามารถระงับการปิดโรงงานขนาดใหญ่อย่างน้อยหนึ่งแห่งได้ ซึ่งหมายความว่า นับจากนี้เป็นต้นไปแน่นอนจะเกิดการตั้งคำถามเกี่ยวกับการปิดโรงงาน Volkswagen เกิดขึ้น ว่าอย่างน้อยน่าจะต้องมีการปิดโรงงานใดก็โรงงานหนึ่งในเยอรมนี ไม่ว่าโรงงานดังกล่าวจะตั้งในภูมิภาคเยอรมันตะวันตก หรือเยอรมันตะวันออก ไม่ว่าโรงงานดังกล่าวจะเป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วน หรือโรงงานผลิตรถยนต์ ถ้ามีการปิดโรงงานในเยอรมนีก็จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 90 ปีของ Volkswagen ในเยอรมนีอนาคตของโรงงานขนาดเล็กอย่างโรงงานในเมือง Dresden หรือ Osnabrück ก็มีความไม่แน่นอนมานานแล้ว จนถึงขณะนี้ผู้บริหารระดับสูงก็ยังคงพยายามที่จะไม่ปิดโรงงานทั้ง 2 แห่ง ซึ่งในปัจจุบันมีการหารือกันภายในว่า หากต้องปิดโรงงานก็จะต้องเป็นทางเลือกสุดท้ายเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่า ตอนนี้ผู้บริหารระดับสูงจะมายืนถึงจุดนี้แล้ว ผู้บริหารฯ ได้ประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า เป็นไปได้ที่จะปิดโรงงานผลิตรถยนต์โรงเล็กที่สุดของ Audi ในกรุงบรัสเซลส์ประเทศเบลเยียม

 

รัฐ Niedersachsen มีแนวโน้มที่จะออกมาหาทางขัดขวางการปิดโรงงานที่อาจเกิดขึ้น โดยในรัฐนี้มีโรงงานผลิตรถยนต์ และชิ้นส่วนมากถึง 5 แห่ง ซึ่งมีมากกว่าในรัฐอื่น ๆ ในเยอรมนี นาย Stephan Weil ผู้ว่าการรัฐฯ สังกัดพรรคสังคมนิยมเพื่อประชาธิปไตยเยอรมนี (SPD – Sozialdemokratische Partei Deutschlands) และยังดำรงตำแหน่งเป็นคณะกรรมการกำกับดูแลของบริษัท Volkswagen กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า โดยทั่วไปแล้วเขามองเห็นความจำเป็นในการใช้มาตรการที่เข้มงวด ซึ่งการใช้มาตรการดังกล่าวนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะเลือกว่า “ถ้าเป็นไปได้” จะเลือกใช้ แต่เป็น “จะทำอย่างไร” กับมาตรการดังกล่าว อย่างไรก็ตามเขาคาดหวังว่า “คำถามเกี่ยวกับการปิดโรงงานจะไม่เกิดขึ้น หลังจากที่สามารถหามาตรการอื่นที่เหมาะสม และประสบความสำเร็จได้มาทดแทน” รัฐ Niedersachsen เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของ VW และถือหุ้น 20% ของสิทธิในการออกเสียงลงคะแนนเรื่องต่าง ๆ ใน VW ด้วย ในด้านแรงงานสหภาพแรงงานของกลุ่มบริษัท VW ซึ่งนำโดยนาง Daniela Cavallo ประธานฯ ได้ออกมาประกาศต่อต้านข้อเสนอของฝ่ายบริหารอย่างแข็งกร้าว สำหรับประธานฯ แล้วการรับประกันการจ้างงานจนถึงปี 2029 ถือเป็นเส้นสีแดงที่ผู้บริหารฯ ไม่ควรก้าวล้ำเข้ามา หนังสือเวียนภายในสำหรับบุคลากรซึ่งถูกนำมาแสดงให้ Handelsblatt ดู ได้ระบุว่า “ผู้บริหารของบริษัททำงานล้มเหลว ผลที่ตามมาก็คือ ส่งผลเสี่ยกับการจ้างงาน โรงงาน และข้อตกลงด้านการจ้างงานร่วมของเรา จึงเรียกได้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ VW กลายเป็นผู้ทำลายหัวใจหลักขององค์กร ซึ่งแน่นอนที่เราจะต้องออกมาปกป้องตนเองจากสิ่งนี้อย่างเข้มแข็ง” นาง Cavallo กล่าวอย่างชัดเจนว่า หากเธอยังดำรงตำแหน่งประธานสหภาพแรงงานจะไม่มีการปิดโรงงานเกิดขึ้น โดยตัวแทนแรงงาน และผู้บริหารได้เจรจาการออกแบบรูปแบบการประหยัดของกลุ่มบริษัท VW ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และได้บรรลุข้อตกลงต่าง ๆ ในช่วงฤดูหนาว อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในปัจจุบันแสดงให้เห็นได้ชัดว่า สิ่งที่ตกลงมาก่อนหน้านี้ไม่เพียงพออีกต่อไป เนื่องจากต้นทุนการปรับโครงสร้างที่สูงมาก และการใช้มาตรการลดราคาสินค้าส่งผลให้เกิดเสียหายให้กับงบดุลของ Volkswagen ปีนี้

 

ขณะนี้เรียกได้ว่า ฝ่ายบริหารของ Volkswagen กำลังเผชิญกับฤดูใบไม้ร่วงที่ดุเดือด นโยบายการประหยัดของรถแต่ละยี่ห้อจะต้องได้รับการปรับปรุงภายในรอบการวางแผนการลงทุนในเดือนพฤศจิกายนนี้ ในเวลาเดียวกันการเจรจาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงระหว่าง VW กับสหภาพแรงงานอุตสาหกรรมเหล็ก (Industriegewerkschaft Metall, IG Metall) เกี่ยวกับข้อตกลงร่วมฉบับใหม่ สหภาพแรงงานเรียกร้องให้การปรับเงินเดือนเพิ่มขึ้น 7% ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยคนวงในกล่าวว่า “ถ้ายังเป็นเช่นนั้นอยู่การอดออมที่ VW พยายามอย่างหนักที่ผ่านมาก็จะเสียหายไปภายในพริบตา” นาย Thorsten Gröger ผู้จัดการเขตของ IG Metall และผู้เจรจาข้อตกลงร่วมกับบริษัท VW เรียกการประกาศของคณะผู้บริหารเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า “แผนที่ขาดความรับผิดชอบ แผนที่จะสั่นคลอนรากฐานของ Volkswagen” และคุกคามการจ้างงาน และศูนย์กลางการผลิต เราจะต่อสู้ “ด้วยกำลังทั้งหมดของเรา หากจำเป็นด้วยมาตรการที่รุนแรง” เพื่อที่เราจะสามารถรักษาความเป็นศูนย์กลางการผลิต และตำแหน่งงานของเราไว้ให้ได้ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฝ่ายบริหารของบริษัทกังวลเกี่ยวกับยี่ห้อหลักของ Volkswagen ในการประชุมผู้บริหารครั้งก่อน นาย Thomas Schäfer หัวหน้ายี่ห้อรถยนต์ Volkswagen ได้พูดเปรียบเทียบบริษัทว่าเป็นโครงสร้างหลังคาที่ถูกไฟไหม้กำลังผุพัง และกล่าวว่า ปัจจุบันบริษัท “ป่วย” หนักมาก ตามที่ Handelsblatt รายงานเฉพาะเมื่อเร็ว ๆ นี้ มาตรการการประหยัดที่เข้มงวดดูเหมือนจะส่งผลกระทบต่อรถยนต์บางรุ่นที่วางแผนไว้ด้วย อย่างรถ SUV ไฟฟ้าใหม่ที่วางแผนผลิตในโรงงานหลักในเมือง Wolfsburg ก็ดูเหมือนจะถูกยกเลิก และแผนการผลิตรถ Trinity รถเก๋ง EV หรูซีดาน ซึ่งวางแผนการผลิตไว้ในเมือง Zwickau รัฐ Sachsen ก็มีความเสี่ยงที่จะถูกเลื่อนออกไปเช่นกัน

 

งานแถลงข่าวในเมือง Isenbüttel เปรียบเสมือนการโหมโรงสำหรับวันต่อ ๆ ไปในสัปดาห์นี้ ในวันพุธนี้ สหภาพแรงงานได้ออกมาเชิญชวนแรงงานเข้าประชุมร่วมด้านอนาคตการทำงานในฮอลล์ 11 ของโรงงานหลักในเมือง Wolfburg ในเวลาเดียวกัน ผู้บริหารองค์กรหลายร้อยชีวิตจากกลุ่มผู้บริหารระดับสูงของ VW ก็กำลังบินไปกรุงสตอกโฮล์มเพื่อจัดวางแผนสำหรับเดือนและปีที่จะถึงนี้ในวันพฤหัสบดีต่อจากนั้น นาง Cavallo และสหภาพแรงงานอื่น ๆ กำลังเรียกร้องคำตอบจากนาย Blume ผู้บริหารหลักกลุ่มบริษัท Volkswagen นอกจากนี้ สำหรับตัวแทนแรงงานการขาดมุมมองในระยะยาวถือเป็นจุดบกพร่องที่ใหญ่ที่สุดประการหนึ่งในการบริหารจัดการของผู้บริหารระดับสูงของ VW ทำให้พนักงานของ VW ต่างก็กำลังพูดถึงสถานการณ์ในปัจจุบันว่าเป็นการ “สั่งการภายในให้ประหยัดอย่างเข้มงวด” นาง Cavallo ประธานสหภาพฯ เรียกร้องมาเป็นระยะเวลานานแล้ว และเพื่อจูงใจพนักงาน VW ควรที่จะมีเป็นเป้าหมายในเชิงภาพลักษณ์ แทนที่จะสร้างเป้าหมายทางการเงินเพียงอย่างเดียว ขณะนี้ พนักงานต่างก็มีความกังวลว่า หากไม่มีโครงการรับประกันการจ้างงานต่อไป การปรับลดจำนวนบุคลากรมากขึ้น และค่าแรงจะต่ำ กว่าตามที่ประกาศไว้ในตอนแรก จนถึงขณะนี้ VW มี เป้าหมายคือ การลดต้นทุนด้านบุคลากร 1 ใน 5 ของพื้นที่ธุรกิจทางอ้อมลง นั่นคือพื้นที่ทั้งหมดที่อยู่นอกสายการผลิตนั้นเอง ในการลดตำแหน่งการจ้างงานฝ่ายบริหารได้อาศัยโปรแกรมการจ่ายเงินเกษียณอายุก่อนเวลา และเงินชดเชยบางส่วนเป็นหลัก นอกจากนี้ความพยายามลดจำนวนพนักงานในการผลิตตามการพัฒนาตัวเชิงประชากรศาสตร์เพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพออีกต่อไป สัปดาห์ที่แล้วบริษัทได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับโครงสร้างสร้างพนักงานที่มีแนวโน้มที่จะถูกเลิกจ้างอันเป็นผลมาจากมาตรการเข้มงวดทั้งพนักงานใน และพนักงานนอกเพื่อที่จะช่วยหางานใหม่ด้วยปัจจุบันกลุ่มบริษัท VW มีพนักงาน 680,000 คนทั่วโลก โดยในจำนวนนี้มีพนักงานประมาณ 100,000 คน ที่ทำงานในบริษัท VW ของเยอรมนี ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาต้นทุนด้านบุคลากรยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามรายงานประจำปี ยอดรวมของค่าจ้าง และเงินบำนาญทั่วทั้งกลุ่มธุรกิจของบริษัทล่าสุดอยู่ที่ 50 พันล้านยูโร โดยประมาณ สำหรับการเปรียบเทียบในปี 2023 บริษัท Volkswagen ทำกำไรได้ประมาณ 22 พันล้านยูโร

 

จาก Handelsblatt 7 ตุลาคม 2567

de_DEGerman