ในช่วงเวลาที่ผ่านมา อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกได้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าแทนการใช้พลังงานดีเซลหรือเบนซิน เพื่อตอบสนองความต้องการสำคัญของโลก ในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และลดการใช้พลังงานที่ส่งผลกระทบทางลบต่อสิ่งแวดล้อม ในขณะเดียวกัน ยังช่วยเสริมสร้างโอกาสในการพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม และธุรกิจใหม่ๆ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ประเทศที่มีการพัฒนาด้านรถยนต์ EV หรือการใช้พลังงานสะอาดกลายเป็นที่น่าจับตามอง สำหรับการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ปัจจุบันตลาดรถยนต์ EV (Electric Vehicle) ของประเทศจีนเติบโตแบบก้าวกระโดด ด้วยวิสัยทัศน์ และนโยบายสนับสนุนจากรัฐบาลจีน อาทิ นโยบายยกเว้นภาษีซื้อ นโยบายให้เงินอุดหนุนแก่ผู้ซื้อรถยนต์ EV และนโยบายการอุดหนุนรถยนต์ EV แก่ผู้ผลิตในช่วงเริ่มแรกของการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ จึงทำให้ประเทศจีนกลายเป็นตลาดรถยนต์ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยในปี 2566 ยอดการผลิตรถยนต์ EV ของประเทศจีนสูงถึง 9.58 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 35.83 เมื่อเทียบกับปี 2565 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในด้านเทคโนโลยีการผลิตรถยนต์ EV ของประเทศจีน
แนวโน้มตลาดรถยนต์ EV ในประเทศจีน
(แหล่งที่มา: https://www.pcauto.com.cn/hj/article/1117403.html)
จากข้อมูลสถิติของบริษัทวิจัยเศรษฐกิจและตลาดจีน เผยว่าในปี 2566 ประเทศจีนมียอดการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสูงถึง 9.58 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 35.83 (YoY) และปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ที่ 9.49 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.86 (YoY) ทั้งนี้แสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยี และความสามารถในการผลิตรถยนต์ EV ของประเทศจีน รวมไปถึงความต้องการของรถยนต์ EV ที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา (2563 – 2566)
ในปัจจุบัน จากนโยบายสนับสนุนตลาดรถยนต์ EV ของรัฐบาลจีนที่ประสบความสำเร็จ ด้วยการส่งเสริมบริษัทที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าด้วยการอุดหนุน และการยกเว้นภาษีซื้อ ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ในจีนมีความต้องการ และการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นจากผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่ต้องการจะเข้าสู่ตลาดรถยนต์ EV เพื่อสร้างโอกาสในการครองส่วนแบ่งตลาด จึงทำให้ประเทศจีนเกิดแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าใหม่มากมายขึ้นอย่างมาก และส่งผลให้เทคโนโลยี และงานวิจัยด้านรถยนต์ EV ของจีน เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจากการพัฒนาของบริษัทเอกชน ซึ่งเป็นการเสริมสร้างความหลากหลายในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจีน และสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมรถยนต์ EV ในประเทศจีน อีกทั้ง การเข้าร่วมตลาดรถยนต์ EV ของบริษัทหน้าใหม่บางแบรนด์ที่เพิ่งเข้าสู่ตลาด ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคในตลาด และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพของรถยนต์ EV “Made in China” ในตลาดจีนและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
แบรนด์รถยนต์ EV ของจีนที่มียอดจำหน่ายทั่วโลกสูงสุด 10 อันดับแรกในปี 2566
BYD 比亚迪
BYD แบรนด์รถยนต์ EV ที่มีชื่อเสียงระดับโลกของจีน ก่อตั้งขึ้นในปี 2538 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ซึ่งแรกเริ่มที่ก่อตั้ง BYD เป็นบริษัทที่ผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าเพียงเท่านั้น และได้เริ่มการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ NEV (New Energy Vehicle) ในปี 2546 ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ BYD มีความเชี่ยวชาญ และความน่าเชื่อถือในด้านแบตเตอรี่รถยนต์ EV ปัจจุบัน บริษัท BYD เป็นบริษัทชั้นนำด้านรถยนต์ NEV ของจีน ซึ่งในปี 2566 BYD มียอดจำหน่ายรถยนต์ EV ทั่วโลกสูงถึง 3.02 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 61.8 (YoY) |
||
|
GEELY AUTO吉利
Geely เป็นแบรนด์รถยนต์ของจีน ก่อตั้งขึ้นในปี 2540 ในมณฑลเจ้อเจียง และเป็นแบรนด์ที่ติดอันดับบริษัท Top 500 ของโลก ด้วยเทคโนโลยี คุณภาพ และการออกแบบ ทำให้รถยนต์ EV ของ Geely เป็นที่นิยมในจีน และต่างประเทศ โดยในปี 2566 Geely มียอดการจำหน่ายรถยนต์ EV ทั้งหมดทั่วโลกที่ 487,000 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 48 (YoY) |
|
GAC Aion 广汽埃安
GAC Aion แบรนด์รถยนต์ EV ของจีน ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2560 แม้ GAC Aion จะพึ่งเปิดตัวได้ไม่นาน แต่ด้วยเทคโนโลยีในการผลิต และด้วยดีไซน์ที่มีความสวยงามทันสมัยเป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้รถยนต์ EV ของแบรนด์ GAC Aion ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ซึ่งในปี 2566 GAC Aion มียอดจำหน่ายรถยนต์ EV อยู่ที่ 480,000 คัน ทั่วโลก |
||
CHANGAN长安
CHANGAN แบรนด์รถยนต์ชั้นนำของประเทศจีน ที่พัฒนาโดยบริษัท CHANGAN Automobile ก่อตั้งขึ้นในปี 2405 และมี แบรนด์รถ EV อื่นๆ ภายในเครื่อ อาทิ AVATR และ Deep Blue ด้วยประสบการณ์ด้านรถยนต์ ที่ชื่อเสียงยาวนานมากกว่า 160 ปี ทำให้รถยนต์ EV ของแบรนด์ CHANGAN มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งรถยนต์ EV ของแบรนด์ CHANGAN จะนิยมดีไซน์ในแบบที่ เรียบหรู และดูคลาสสิก ทั้งนี้ ในปี 2566 CHANGAN มียอดจำหน่ายรถยนต์ EV ทั่วโลกอยู่ที่ 470,000 คัน |
||
Li Auto 理想
Li Auto แบรนด์รถยนต์ EV ของจีน ก่อตั้งขึ้นในปี 2558 โดยมุ่งเน้นผลิตรถยนต์ EV ระดับไฮเอนด์ที่มีคุณภาพสูง ในราคาเป็นธรรม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการรับรองเทรนด์พลังงานสะอาดในอนาคต ซึ่งจุดเด่นของ Li Auto คือระบบสำรองเชื้อเพลิงและระบบไฟฟ้าที่มีคุณภาพ ซึ่งทำให้ผู้บริโภคสามารถคลายความกังวลใจในด้านการเลือกใช้พลังงาน โดยในปี 2566 Li Auto มีการส่งมอบรถยนต์ EV มากกว่า 376,000 คัน ทั่วโลก |
||
Great Wall长城
Great Wall หรือ GWM (Great Wall Motor) แบรนด์รถยนต์ของจีนที่มีชื่อเสียง ก่อตั้งขึ้นในปี 2527 โดย Great Wall มีความชื่อเสียงด้านผลิตรถกระบะ และรถ SUV ด้วยความเชี่ยวชาญในด้านการผลิตเครื่องยนต์รถที่มีคุณภาพ ทำให้รถยนต์ EV ของ Great Wall ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค ซึ่งในปี 2566 Great Wall มียอดจำหน่ายรถยนต์ EV ทั่วโลกอยู่ที่ 261,500 คัน |
||
NIO 蔚来
NIO แบรนด์รถยนต์ EV ของจีนที่มีชื่อเสียงระดับโลก ก่อตั้งขึ้นในปี 2557 ด้วยการร่วมทุนของสถาบันที่มีชื่อเสียงหลายสถาบัน ได้แก่ Temasek / Baidu Capital / Sequoia Hopu / Lenovo Group / Warburg Pincus / TPG / GIC / IDG / Joy Capital ซึ่ง NIO เป็นแบรนด์รถยนต์ EV อัจฉริยะระดับไฮเอนด์ ที่มีระบบอัจฉริยะมากมาย อาทิ ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ ระบบสั่งการด้วยเสียง และแบตเตอรี่ไฟฟ้าคุณภาพสูง ทั้งนี้ ในปี 2566 NIO มีการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 160,038 คัน |
||
LEAPMOTOR 零跑汽车
LEAPMOTOR แบรนด์รถยนต์ EV ของประเทศจีน ที่ก่อตั้งในปี 2558 ภายใต้การพัฒนาของบริษัท Zhejiang Leapmotor Technology ด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจำหน่ายในราคาที่เหมาะสม โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้บริโภคทั่วไป และดีไซน์ที่สวยงาม ทำให้แบรนด์ LEAPMOTOR ได้รับความนิยมในตลาด และมียอดขายที่ 144,155 คัน ทั่วโลกใน ปี 2566 |
||
XPENG小鹏
XPENG บริษัทผลิตรถยนต์ EV ของประเทศจีน ที่ก่อตั้งในปี 2557 โดยมีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้า ในราคาที่เหมาะสม จุดเด่นของ XPENG คือการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีสมัยใหม่และความสะดวกสบาย และระบบความปลอดภัยในการขับขี่ ซึ่ง XPENG เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2566 XPENG มียอดการจำหน่ายทั่วโลกถึง 141,601 คัน |
||
NETA
NETA บริษัทรถยนต์ EV ของจีน ที่ก่อตั้งขึ้นในปี โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเซินเจิ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่เทคโนโลยีและอุตสาหกรรมของประเทศจีน NETA มีจุดเด่นหลักในด้านการผสมผสานความสวยงาม ดีไซน์ของรถยนต์และเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง รวมไปถึงความสะดวกสบายในการใช้งาน อีกทั้งยังมี IOT (Internet of Things) เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมและจัดการรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชันได้อย่างง่ายดาย โดยในปี 2566 NETA ได้ส่งมอบรถยนต์ EV ให้แก่ผู้บริโภคไปแล้วทั้งสิ้น 127,496 คัน ทั่วโลก |
(แหล่งที่มา: https://baijiahao.baidu.com/sid=1787266595009833288&wfr=spider&for=pc)
ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ สคต. ณ นครเฉิงตู
สืบเนื่องจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดรถยนต์ EV ของประเทศจีน ทำให้ประเทศจีนกลายเป็นที่น่าจับตามองสำหรับการพัฒนาของอุตสาหกรรมยานยนต์ เนื่องจากตลาดรถยนต์ EV เป็นส่วนสำคัญของการใช้พลังงานทดแทนและเป็นเทรนด์ที่มีความสำคัญในอนาคต ปัจจุบันมีความต้องการในรถยนต์ EV เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายๆ ประเทศ ซึ่งในปี 2566 ประเทศจีนมียอดการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสูงถึง 9.58 ล้านคัน เติบโตขึ้นร้อยละ 35.83 (YoY) แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยี และกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศจีน
อย่างไรก็ตาม ตลาดรถยนต์ EV ทั่วโลกยังคงมีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมอยู่เสมอ รวมไปถึงผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่ต้องการเข้ามาสู่ตลาดรถยนต์ EV เพื่อหาโอกาสในการครอบครองส่วนแบ่งตลาดนี้ ด้วยเหตุนี้ทำให้ตลาดรถยนต์ EV มีการแข่งขันที่สูง และมีพื้นที่ในการพัฒนาตลาดได้ต่อไป อีกทั้งยังเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ในอนาคต ทั้งนี้ ถือเป็นโอกาสของประเทศไทยในการเข้าร่วมการพัฒนาตลาดรถยนต์ EV และการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนด้วยการใช้พลังงานสะอาด ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเสริมสร้างโอกาสในการพัฒนาเทคโนโลยีและเศรษฐกิจไทยในอนาคต
————————————————–
Büro zur Förderung des Überseehandels in Chengdu
มีนาคม 2567
แหล่งข้อมูล :
https://baijiahao.baidu.com/s?id=1792682772317827275&wfr=spider&for=pc
https://baijiahao.baidu.com/s?id=1787266595009833288&wfr=spider&for=pc
https://baijiahao.baidu.com/s?id=1787927027343692411&wfr=spider&for=pc
https://www.gov.cn/lianbo/bumen/202310/content_6908192.htm
http://www.360doc.com/content/23/0925/09/79754478_1097801087.shtml
https://www.pcauto.com.cn/hj/article/1117403.html