เศรษฐกิจเวียดนามจะฟื้นตัวที่แข็งแกร่งขึ้นในครึ่งปีหลัง 2567

ธนาคาร HSBC คาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนามในครึ่งปีหลัง 2567 จะฟื้นตัว ส่วนธนาคาร UOB เชื่อว่าธนาคารกลาง (Central Bank) ลดอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจเวียดนาม

ธนาคารชั้นนำทั้ง 2 แห่ง HSBC และ UOB ออกรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนามปี 2567 ไว้สอดคล้องกันที่ร้อยละ 6 ทั้งคู่ ซึ่งเผยแพร่หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนามประกาศตัวเลข GDP ไตรมาสแรกขยายตัวร้อยละ 5.66 ซึ่งถือเป็นการขยายตัวเศรษฐกิจรายไตรมาสที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2563

อย่างไรก็ตาม ธนาคาร HSBC ได้ปรับการคาดการณ์การเติบโตรายไตรมาส โดยไตรมาส 2 และ ไตรมาส 3 ต่ำกว่าคาดการณ์เดิม แต่แนวโน้มไตรมาส 4 ที่เพิ่มขึ้นสะท้อนการคาดการณ์ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะขยายวงกว้างมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

ขณะเดียวกัน ธนาคาร UOB คาดการณ์ว่า แนวโน้มในปี 2567 จะเป็นไปในเชิงบวก แม้ว่าความเสี่ยงด้านลบยังคงอยู่ ความท้าทายต่าง ๆ ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย – ยูเครน และอิสราเอล – ฮามาส ที่อาจขัดขวางการค้าโลก ตลาดพลังงาน และสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเชิงบวกสำหรับการเติบโตในไตรมาสต่อ ๆ ไป ได้แก่ การฟื้นตัวของความต้องการของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ การเติบโตที่มั่นคงในจีนและภูมิภาค และความสามารถของธนาคารกลางในการคลายนโยบายการเงิน

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมเศรษฐกิจยังมีข้อดีและข้อเสียที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ภาคการผลิตเพื่อส่งออกกำลังฟื้นตัว ควบคู่ไปกับโอกาสการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในระยะยาว ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 60 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 โดยร้อยละ 65 ของ FDI มุ่งไปที่ภาคการผลิต ส่วนที่เหลือลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่ภาคบริการยังไม่ฟื้นตัวตามคาดการณ์ โดยขยายตัวเพียงร้อยละ 6.1 ใน 3 เดือนแรกของปี 2567 แม้จะมีสัญญาณบวกจากภาคบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในขณะที่ภาคการค้าปลีกยังไม่กลับมาสู่ระดับเดียวกับก่อนเกิดโรคระบาดโควิด 19 โดยขยายตัวเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น นอกจากนั้น อสังหาริมทรัพย์มีส่วนช่วยในการเติบโตเพียงเล็กน้อยเนื่องจากภาวะอ่อนตัวยืดเยื้อเป็นเวลานาน

นอกจากนี้ ตามข้อมูลของธนาคาร UOB การเติบโตของสินเชื่อในช่วงต้นปี 2567 ค่อนข้างไม่ชัดเจน โดยข้อมูลจากสำนักงานสถิติทั่วไป ณ วันที่ 25 มีนาคม 2567 ระบุว่า การเติบโตของสินเชื่อรวมอยู่ที่ร้อยละ 0.26 ซึ่งน้อยกว่าอัตราร้อยละ 1.99 ในช่วงเดียวกันของปี 2566  ธนาคาร UOB วิเคราะห์ว่า ความต้องการสินเชื่อที่ต่ำนั้นเกิดจากหลายสาเหตุ และอาจต้องใช้เวลาระยะหนึ่งจึงจะกลับสู่ภาวะปกติ

แนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจเวียดนามและการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อเมื่อเร็ว ๆ นี้ อาจทำให้ธนาคารของรัฐระมัดระวังมากขึ้นในการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ดังนั้น ธนาคาร UOB จึงเชื่อว่า อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ (Refinance Rate) จะอยู่ที่ระดับร้อยละ 4.5 ไปจนถึงปี 2568

(แหล่งที่มา https://vnexpress.net/ ฉบับวันที่ 5 เมษายน 2567)

วิเคราะห์ผลกระทบ

สองธนาคารชั้นนำ HSBC และ UOB ออกรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนามปี 2567 ไว้สอดคล้องกันที่ร้อยละ 6 ทั้งคู่ ซึ่งเผยแพร่หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนามประกาศตัวเลข GDP ไตรมาสแรกขยายตัวร้อยละ 5.66 ซึ่งถือเป็นผลประกอบการไตรมาสแรกที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ดังนั้น สองธนาคารชั้นนำ HSBC และ UOB คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเวียดนามจะเริ่มฟื้นตัวในปี 2567 โดยการฟื้นตัวจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นในครึ่งปีหลัง เนื่องจากภาครัฐมีนโยบายในการเร่งรัดพัฒนาเศรษฐกิจ และการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางจะผ่อนคลายนโยบายการเงิน

นำเสนอโอกาส/แนวทาง

เวียดนามเป็นศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีสภาพแวดล้อมการลงทุนที่เอื้ออำนวย ดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเวียดนาม ในขณะเดียวกัน รัฐบาลเวียดนามก็มีนโยบายการเงินที่เอื้ออำนวยต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ เวียดนามกำลังกลายเป็นตลาดที่เต็มไปด้วยศักยภาพสำหรับนักลงทุนชาวไทย ที่มองหาโอกาสในการขยายธุรกิจและเพิ่มมูลค่าการส่งออกไปยังตลาดใหม่ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

 

de_DEGerman