บริษัทผู้ผลิตแผงโซล่าเซลล์สหรัฐอเมริกาเรียกร้องให้ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากเอเซีย

โรงงานผลิตโซล่า 7 รายในสหรัฐฯ ประกอบไปด้วยบริษัท Convalt Energy, First Solar, Meyer Burger, Mission Solar, Qcells, REC Silicon และ Swift Solar ได้รวมตัวกันก่อตั้ง American Alliance for Solar Manufacturing Trade Committee  และเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2024 ได้ยื่นคำร้องเรียนด้านการค้าต่อกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯและ U.S. International Trade Commission (USITC) ว่า แผงโซล่าเซลล์จากจีนจำนวนมากกำลังไหลบ่าเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ทำให้ราคาแผงโซล่าเซลล์ในตลาดตกต่ำ และอาจกีดขวางความสำเร็จของกฎหมาย Inflation Reductin Act of 2022 ที่เป็นความพยายามของรัฐบาลประธานาธิบดีไบเดนในการลงทุนพัฒนาห่วงโซ่อุปทานแผงโซล่าเซลล์ขึ้นในสหรัฐฯ

กลุ่มโรงงานผลิตแผงโซล่าเซลล์สหรัฐฯทั้ง 7 ระบุว่า โรงงานผลิตของจีนได้ย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้านในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้คือ เวียดนาม กัมพูชา ประเทศไทย และมาเลเซีย เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีนำเข้าสินค้าจีนที่ส่งตรงเข้าสหรัฐฯ มีรายงานว่าปริมาณการจัดส่งสินค้าเข้าสหรัฐฯในไตรมาส 4 ของปี 2023 จากทั้งสี่ประเทศในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ดังกล่าวรวมกันคิดเป็นร้อยละ 84 ของการนำเข้ารวมทั้งสิ้นของสหรัฐฯ และทั้งปี 2023 สหรัฐฯได้นำเข้าแผงโซล่าเซลล์จากประเทศเหล่านี้รวมกัน 12.5 พันล้านเหรียญฯ ขณะที่ราคาผลิตภัณฑ์แผงโซล่าเซลล์ในตลาดโลกลดลงเหลือประมาณ 10 เซนต์ต่อวัตต์ และราคาในสหรัฐฯลดลงประมาณร้อยละ 50 เหลือระหว่าง 15 – 20 เซนต์ต่อวัตต์และแสดงแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าประเทศผู้ส่งออกทั้งสี่ประเทศมีปฏิบัติการที่เป็นการทุ่มตลาดสินค้าแผงโซล่าเซลล์ในสหรัฐฯและในตลาดโลก

กลุ่มโรงงานผลิตแผงโซล่าเซลล์สหรัฐฯทั้ง 7 รายเรียกร้องให้สหรัฐฯจัดทำมาตรการคุ้มครองธุรกิจสหรัฐฯ ด้วยการจัดทำภาษีต่อต้านการทุ่มตลาดและตอบโต้การอุดหนุน (antidumping และ countervailing duty) สินค้าแผงโซล่าเซลล์ที่เป็น crystalline silicon photovoltaic cells ทั้งที่ถูกประกอบและที่ไม่ถูกประกอบเข้าเป็น modules แล้ว ที่นำเข้ามาจากโรงงานผลิตในกัมพูชา มาเลเซีย ประเทศไทย และเวียดนาม คาดการณ์อัตราภาษีที่สหรัฐฯจะเก็บจากสินค้านำเข้าจากัมพูชาว่าจะเท่ากับร้อยละ 126.1 จากมาเลเซียร้อยละ 81.2 จากประเทศไทยร้อยละ 70.4 และ 271.5 สำหรับสินค้านำเข้าจากเวียดนาม

การเรียกร้องในครั้งนี้สอดคล้องกับท่าทีของรัฐบาลประธานาธิบดีไบเดนที่วิพากวิจารณ์ความสามารถในการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของจีน และได้เตือนว่า การส่งออกเทคโนโลยี่พลังงานสะอาดและสินค้าอื่นๆของจีนในขณะนี้มีลักษณะเป็นการคุกคามที่จะทำให้ห่วงโซ่อุปทานของโลกบิดเบี้ยวไป ซี่งเมื่อกลางเดือนเมษายน 2024 ประธานาธิบดีไบเดนได้สั่งผู้แทนการค้าสหรัฐฯให้พิจารณาขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าเหล็ก (steel) และอลูมิเนียมจากจีนบางรายการ มากกว่าสามเท่าตัว คำสั่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการเพื่อช่วยปกป้องโรงงานผลิตสหรัฐฯจากการทะลักเข้าสหรัฐฯของสินค้านำเข้าราคาถูก

ในปี 2022 รัฐบาลประธานาธิบดีไบเดน ได้ประกาศเลื่อนกำหนดการขึ้นภาษีนำเข้า crystalline-silicon solar cells และ Modules จากกัมพูชา มาเลเซีย ประเทศไทย และเวียดนามออกไปสองปี และในปี 2023 ประธานาธิบดีไบเดนได้ออกมายับยั้งกฎหมายที่จะนำภาษีนำเข้ากลับมาใช้อีกครั้งในเดือนมิถุนายน 2023 เนื่องจากกลุ่มผู้ต่อสู้ด้านสภาวะอากาศและกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดไม่เห็นด้วย การเรียกร้องในครั้งนี้ก็เช่นกัน วงการอุตสาหกรรมแผงโซล่าเซลล์สหรัฐฯแตกออกเป็นสองฝ่าย ขณะที่ฝ่ายโรงงานผลิตระบุว่ากำลังถูกคุคามจากสินค้าจีน ฝ่ายผู้พัฒนาติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ เช่น Solar Energy Industries Association, American Clean Power Association, Avance Energy United, และ American Council on Renewable Energy  มองเห็นถึงประโยชน์ของการได้สินค้าราคาถูกมาใช้และเห็นว่า การเก็บภาษีนำเข้าตามที่กลุ่มโรงงานผลิตแผงโซล่าเซลล์สหรัฐฯทั้ง 7 เรียกร้องจะเป็นการคุกคามเป้าหมายของประธานาธาธิบดีไบเดนที่ต้องการให้ 80 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานในสหรัฐฯในปี 2023  เป็น carbon-free และเพิ่มเป็น 100 เปอร์เซ็นในปี 2035

20 วันหลังจากได้รับคำฟ้อง  กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯจะตัดสินใจว่า จะทำการสอบสวนกรณีฟ้องร้องนี้หรือไม่ และภายในระยะเวลา 45 จากวันที่ได้รับคำฟ้อง หน่วยงาน USITC จะพิจารณาตัดสินในเบื้องต้นว่าการนำเข้าจากประเทศที่ถูกฟ้องร้องได้สร้างความเสียหายหรือคุกคามอุตสาหกรรมสหรัฐฯหรือไม่  กระบวนการพิจารณาทั้งหมดจะกินเวลาประมาณ 1 ปีโดยคำตัดสินสุดท้ายจะออกมาภายในฤดูใบไม้ผลิปี 2025 หากมีคำตัดสินให้เก็บภาษีตามคำร้อง การเก็บภาษีตอบโต้การอุดหนุนและภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดจะเกิดขึ้นหลังจากนั้น 4 เดือนและ 6 เดือน ตามลำดับ

ที่มา:

1. The New York Times: “Solar Companies Seek New U.S. Tariffs on Asian Imports”, by Alan Rappeport, April 24, 2024
2. Wiley: “Wiley Files Trade Petitions for Leading U.S. Solar Manufacturers to Combat China’s Illegal & Harmful Trade Practices in Vietnam, Malaysia, Cambodia, and Thailand” April 24, 2024
3. Canary Media: “Major US solar manufacturers call for strict new solar-panel tariffs”, by Eric Wesoff, April 24, 2024
4. American Journal of Transportation: “US solar makers seek additional tariffs on panel imports from Asia”, by Jennifer A. Dlouhy, April 24, 2024

ข้อมูลเพิ่มเติมของสคต ลอสแอนเจลิส
Solar Energy Industries Association ประมาณการณ์ว่าในระยะ 10 ปี ระหว่างปี 2013 – 2023 พลังงานโซล่าใน สหรัฐฯเติบโตในอัตราร้อยละ 22 ต่อปี แรงขับเคลื่อนที่สำคัญมาจากนโยบายต่างๆของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ การเติบโตของความต้องการบริโภคพลังงานไฟสะอาด และการลดลงเกือบครึ่งของราคาค่าติดตั้ง

ประมาณการณ์ว่าในปี 2024 ครัวเรือนสหรัฐฯ 4.2 ล้านแห่งติดแผงโซล่าเฉลี่ยระหว่าง 25 – 30 แผ่นต่อหนึ่งหลังคา แหล่งบริโภค Solar Energy ที่สำคัญของสหรัฐฯเรียงตามลำดับคือรัฐแคลิฟอร์เนีย California (1.9 ล้านหลังคาเรือน), Arizona (2.9 แสนหลังคาเรือน) New York (2 แสนหลังคาเรือน) Florida (2 แสนหลังคาเรือน) New Jersey (1.9 แสนหลังคาเรือน), Massachusetts (1.6 แสนหลังคาเรือน) Colorado (1.3 แสนหลังคาเรือน) Nevada (1.1 แสนหลังคาเรือน) Maryland (1 แสนหลังคาเรือน) และ Hawaii (1 แสนหลังคาเรือน)

โรงงานผลิตแผงโซล่าเซลล์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ มี 2 โรงงาน คือ

1. First Solar Holdings, Inc., 28101 Cedar Park Blvd., Perrysburg, OH 43551, www.firstsolar.com ผลิตแผงโซล่าเซลล์มากที่สุดในสหรัฐฯที่ประมาณ 6,300MW ต่อปี ส่วนใหญ่เป็นแผงโซล่าเซลล์สำหรับภาคธุรกิจ

2. Hanwha Q Cells America 400 Spectrum Center Dr., Suite 1400 Irvine, CA 92618 https://us.qcells.com ผลิตพลังงานได้ 5,100MW ต่อปี ครองตลาดแผงโซล่าเซลล์สำหรับครัวเรือน

ส่วนใหญ่ของแผงโซล่าเซลล์และชิ้นส่วนประกอบโซล่าที่ใช้ในสหรัฐฯเป็นสินค้านำเข้า ที่ผลิตในจีน ในปี  2012 และ 2015 รัฐบาลประธานาธิบดีโอบามาได้เก็บภาษีอุปกรณ์โซล่าที่นำเข้าจากจีน และการนำเข้าจากเวียดนาม มาเลเซีย และประเทศไทยเริ่มเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันเวียดนามและไทยเป็นแหล่งอุปทานสำคัญของสหรัฐฯสำหรับสินค้าแผงโซล่าเซลล์

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส  ข่าวประจำสัปดาห์  6 – 10 พฤษภาคม 2567

หมายเหตุ: ข่าวข้างบนนี้เป็นข้อมูลที่ได้มาจากแหล่งข้อมูลหลายแห่งที่จัดทำและนำเสนอข้อมูลเปิดเผยต่อสาธารณชนทั่วไป และบางส่วนเป็นความเห็นส่วนบุคคล สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส นำมารวบรวมเผยแพร่เพื่อแก่ผู้สนใจ เนื่องจากเป็นข้อมูลและความเห็นจากบุคคลที่สาม การนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ ไม่ว่าในกรณีใดๆ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณเฉพาะบุคคล สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส ไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆที่อาจเกิดขึ้นจากการนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้