HKEX รายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ดีสุดเป็นประวัติการณ์ จาก IPO และการซื้อขายหุ้นกลับมาคึกคัก

 

บริษัท Hong Kong Exchanges and Clearing Ltd (HKEX) รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ทะยานสู่จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยกำไรสุทธิพุ่งขึ้น 9% แตะ 3.16 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (405 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือ 2.49 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อหุ้น ในช่วง 3 เดือนสิ้นสุดเดือนมิถุนายน นับเป็นการเติบโตครั้งแรกในรอบ 9 เดือน ปัจจัยหนุนมาจากการฟื้นตัวของตลาดหุ้นใหม่ (IPO) และการซื้อขายที่คึกคักขึ้น โดยรายได้รวมของ HKEX เพิ่มขึ้น 8% เป็น 5.4 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง สอดคล้องกับคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

 

ผลงานอันโดดเด่นนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงผู้นำองค์กร โดยมี Ms. Bonnie Chan Yiting เข้ารับตำแหน่งHKEX’s chief executive ในเดือนมีนาคม และ Mr. Carlson Tong Ka-shing เข้ารับตำแหน่ง Exchange’s Chairmanเมื่อวันที่ 24 เมษายน

 

แม้ว่าผลประกอบการจะเป็นไปในทิศทางที่ดี แต่ราคาหุ้นของ HKEX กลับลดลง 1.5% มาอยู่ที่ 228.60 ดอลลาร์ฮ่องกงหลังจากรายงานผลประกอบการ โดยหุ้นของบริษัทได้ลดลงไปแล้ว 14% ในปีนี้

 

ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงปรับตัวขึ้น 7% ในไตรมาส 2 ฟื้นตัวจากการร่วงลง 14% ในปี 2023 และการลดลง 3% ในไตรมาสแรก การซื้อขายหุ้น IPO ในฮ่องกง ซึ่งเคยเป็นสถานที่จดทะเบียน IPO ชั้นนำของโลกในหลายปีที่ผ่านมา กลับมาคึกคักอีกครั้ง มีบริษัทเข้าจดทะเบียน 18 ราย รวมถึงบริษัทวิจัยยาด้วยปัญญาประดิษฐ์ QuantumPharm ระดมทุนรวม 8.6 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง เพิ่มขึ้น 79% จากไตรมาสแรก

นอกจากนี้ ปริมาณการซื้อขายในไตรมาสที่ 2 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อนเป็น 102.7 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง ส่งผลให้รายได้ค่าธรรมเนียมการซื้อขายของ HKEX เพิ่มขึ้น 7% ขณะที่มูลค่าการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้น 22% จาก 99.4 พันล้านเหรียญฮ่องกง เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีนี้

 

Ms. Bonnie Chan กล่าวว่า “HKEX มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในครึ่งปีแรก ในไตรมาสที่ 2 เราได้เห็นการฟื้นตัวอย่างมีโมเมนตัมของตลาดและการซื้อขาย ส่งผลให้รายได้ และกำไรในไตรมาสนี้อยู่ในระดับสูงสุด การระดมทุนยังคงเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม และมีสัญญาณการฟื้นตัวที่น่าสนใจ โดยในไตรมาสที่ 2 มีการเสนอขายหุ้นใหม่เพิ่มขึ้น 50% จากไตรมาสก่อน และมีการระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นสาธารณะครั้งแรก (IPO) เพิ่มขึ้นถึง 79%”

 

ตลาดทุนของฮ่องกงที่ซบเซามาสามปีจากการระบาดของโควิด กลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนเมษายน หลังจากที่จีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 5 มาตรการ ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนให้บริษัทที่มีศักยภาพเข้ามาระดมทุนในฮ่องกง และการผ่อนคลายเกณฑ์คุณสมบัติสำหรับผลิตภัณฑ์กองทุนรวม ETF

 

Mr. Carlson Tong ได้ให้คำมั่นในการแถลงการณ์ผลประกอบการครั้งแรกว่าจะผลักดันการปฏิรูปเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของตลาดและการซื้อขายแบบไดนามิก ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อนักลงทุนสถาบันและรายย่อย รวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในตลาด และยังกล่าวอีกว่า “เราจะพัฒนาโครงการเชื่อมโยง (Connect) อย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมความเชื่อมโยงระหว่างตลาดทุนของฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ในระยะยาว”

 

HKEX ได้บันทึกกำไรจากการลงทุนในหุ้นและพันธบัตรทั่วโลกจำนวน 366 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งเพิ่มขึ้น 37% จากปีที่ผ่านมา ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในไตรมาสที่ 2 ขยายตัวเป็น 818,000 สัญญาต่อวัน เพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อนหน้า

 

อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาสที่ 2 นี้ยังไม่สามารถชดเชยความอ่อนแอในช่วงสามเดือนแรกของปี 2024 ได้ทั้งหมด ทำให้กำไรรวมในครึ่งปีแรกของ HKEX มีการลดลง 3% เหลือ 6.13 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 4.84 เหรียญฮ่องกงต่อหุ้น เนื่องจากรายได้สุทธิในไตรมาสแรกหดตัวลงถึง 13% โดย HKEX จะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ 4.36 เหรียญฮ่องกงต่อหุ้น ซึ่งลดลง 3% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

 

Mr. Kenny Ng Lai-yin ตำแหน่ง Strategist แห่ง Everbright Securities International กล่าวว่า “ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของ HKEX ในไตรมาสที่ 2 มาจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายในตลาดและจำนวนการเสนอขายหุ้นใหม่ที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าตลาดหุ้นจะยังคงอ่อนแอในช่วงนี้อาจทำให้ตลาด IPO ในไตรมาสที่ 3 อ่อนแอลง แต่คาดมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในไตรมาสที่ 4 และในอนาคตนักลงทุนจะให้ความสนใจว่า HKEX จะนำมาตรการปฏิรูปใหม่ ๆ เข้ามาใช้เพิ่มเติมหรือไม่ ท่ามกลางภาวะซบเซาในตลาดหุ้นใหม่ขณะนี้”

 

ความคิดเห็นของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง

ภาพรวมของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงที่มีการฟื้นตัวขึ้นนั้นส่งผลให้นักลงทุนทั้งหลายยังคงมีความเชื่อมั่นที่จะลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งนี้ นอกจากนี้ตลาดฮ่องกงเต็มไปด้วยธุรกิจศักยภาพที่ช่วยขับเคลื่อนภาคการเงินให้กลายเป็นระบบนิเวศทางการเงินที่สมบูรณ์ในระดับนานาชาติ ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจทั้งภายนอกและภายในให้แข็งแกร่ง ประชากรมีรายได้สูง มีกำลังจับจ่ายใช้สอยตามความต้องการที่หลากหลายในสินค้าอุปโภคและบริโภค ปัจจุบันประชากรที่อาศัยอยู่ในฮ่องกงรู้จักสินค้าไทยเป็นอย่างดี ผู้ประกอบการนำเข้าสินค้าต่างมองหาสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการไทยที่ส่งออกสินค้าและบริการของไทยมายังฮ่องกง

         

 

แหล่งข้อมูล: https://www.scmp.com/business/banking-finance/article/3275279/hkex-posts-first-profit-growth-3-quarters-ipos-stocks-trading-return-hong-kong?module=top_story&pgtype=subsection

 

 

de_DEGerman