ตุรกีกับอีคอมเมิร์ซที่เติบโตเร็วกว่าเศรษฐกิจภาพรวม

คนตุรกีกำลังเสพติดการใช้ชีวิตแบบออนไลน์มากยิ่งขึ้น ทั้งในฐานะบริโภคและในฐานะผู้ให้บริการ โดยอีคอมเมิร์ซในประเทศตุรกีถือว่าอยู่ในจุดที่แข็งแกร่งอย่างมากสำหรับเศรษฐกิจภายในประเทศและมีส่วนแบ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดต่างประเทศ อีคอมเมิร์ซของตุรกีกําลังขยายตัวในอัตราที่เร็วกว่าเศรษฐกิจทั่วไปอย่างมาก นาย Ömer Bolat รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวกับผู้แทนในการประชุมสุดยอด เมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา

 

“ตลาดอีคอมเมิร์ซ(ของตุรกี)มีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 26 ระหว่างปี 2019 ถึง 2023” นาย Bolat กล่าว “ส่วนแบ่งของอีคอมเมิร์ซของ GDP เพิ่มขึ้นหนึ่งในสามในปีที่แล้วเป็นร้อยละ 6.8 ของ GDP ทั้งหมด” เขากล่าวเสริม

 

ในขณะที่ตลาดในประเทศกําลังขยายตัวอย่างมากนั้น แต่องค์ประกอบการส่งออกของอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซของตุรกีนั้นแซงหน้าไปไกลมาก รัฐมนตรีกล่าว นาย Bolat รายงานว่า การส่งออกอีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้นร้อยละ 131 และมีมูลค่าสูงถึง 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีที่แล้ว และกล่าวว่าเป้าหมายของตุรกีคือการส่งออกอีคอมเมิร์ซที่มีมูลค่าแตะ 8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีนี้

 

“ภายใต้กฎหมายด้านภาษีของตุรกี บริษัทในประเทศสามารถดําเนินการส่งออกออนไลน์ได้อย่างสะดวกง่ายดาย” นาย Fehmi Darbay ประธานคณะกรรมการบริหารของสมาคมการค้าอิเล็กทรอนิกส์ของตุรกีกล่าว

 

“ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะเปิดตลาดไปยังต่างประเทศ” เขากล่าวกับ AGBI ระหว่างการประชุมสุดยอด

 

 

อีคอมเมิร์ซยังคงถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพที่จะเติบโตต่อในประเทศ ตามรายงานที่ออกเมื่อปลายเดือนสิงหาคมโดยหน่วยงานสถิติของรัฐ อย่าง Turkstat รายงานว่า ร้อยละ 88.8 ของชาวตุรกีสามารถเข้าถึงสื่อออนไลน์ โดยร้อยละ 96 ของครัวเรือนทั่วประเทศสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ ซึ่งสูงกว่าเมื่อสิบปีก่อนมากกว่าร้อยละ 50 เลยทีเดียว

 

แม้ว่าอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตใกล้ถึงจุดอิ่มตัวแล้ว แต่รายงานของ Turkstat รายงานว่า ระดับการใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์ด้านอีคอมเมิร์ซยังคงมีพื้นที่สําหรับการเติบโตอยู่ โดยมีรายงานว่า คนตุรกีใช้บริการออนไลน์เพื่อซื้อหรือสั่งซื้อสินค้าและบริการในปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 52 โดยมีอัตราเพิ่มขึ้น 1.8 เปอร์เซ็นต์ต่อปีเท่านั้นและตามที่ นาย Daybay กล่าว ตัวเลขดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้นอันเป็นผลจากกฎระเบียบศุลกากรใหม่ที่เพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าที่ซื้อทางออนไลน์และการลดเพดานราคาสินค้าสำหรับการเรียกเก็บภาษีลงมาอีก

 

“ในขณะที่เราเห็นการชะลอตัวเมื่อเร็วๆ นี้อันเป็นผลมาจากกําลังซื้อที่อ่อนแอลงของประชาชน – เนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบันและเนื่องจากกฎระเบียบศุลกากรใหม่และภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ทําให้เกิดอุปสรรคร้ายแรงต่อการนําเข้าอิเล็กทรอนิกส์ – เราคาดหวังที่จะให้ความสําคัญกับตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศให้มากขึ้น” เขากล่าว “บริษัทและประชาชนคุ้นเคยกับอีคอมเมิร์ซ ความสมดุลในตลาดภายในประเทศกําลังดําเนินไปได้ด้วยดี” เขากล่าวเสริม

 

ข้อคิดเห็นจากสำนักงานฯ

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าอีคอมเมิร์ซกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในยุคนี้ รวมทั้งในประเทศตุรกีเองที่ผู้คนหันไปซื้อสินค้าและบริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์แทนการเดินทางไปร้านค้าหรือสรรพสินค้า และการสนับสนุนจากภาครัฐของตุรกีที่มีต่อผู้ประกอบการด้านอีคอมเมิร์ซภายในประเทศ ส่งผลให้ตลาดอีคอมเมิร์ซที่กำลังเติมโตอยู่แล้ว ยิ่งเติบโตอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยไม่ใช้เพียงแต่การสนับสนุนจากภาครัฐเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่มีผลต่อการเติบโตของอีคอมเมิร์ซในตุรกี แต่ความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์ ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นและการเข้าถึงสมาร์ทโฟนหรือแม้แต่การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของประชาชนที่สูงของตุรกี ก็เป็นอีกปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ตลาดอีคอมเมิร์ซของตุรกีเติมโตอย่างมาก โดยจะเห็นได้ว่าผู้ประกอบการและผู้ให้บริการในตุรกีปัจจุบัน เล็งเห็นความสำคัญของตลาดอีคอมเมิร์ซอย่างมาก ในทุกๆ บริษัท สินค้าหรือบริการ จะต้องมีแพลตฟอร์มออนไลน์รองรับลูกค้าไว้อยู่แทบทุกที แต่ปัจจัยหนึ่งที่ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะเป็นผลดีหรือร้ายในระยะยาวของตลาดอีคอมเมิร์ซในตุรกีนั้นคือมาตรการการเพิ่มภาษีการนำเข้าสินค้าอีคอมเมิร์ซจากต่างประเทศที่เพิ่งประกาศใช้เมื่อไม่นานมานี้ โดยภาครัฐหวังเป็นการลดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเพื่อให้เกิดการจับจ่ายภายในประเทศมากขึ้นแทนนั้น   ดูเหมือนว่าจะดูเป็นประโยชน์ในระยะสั้น แต่ในระยะยาวนั้นเหมือนว่ามาตรการดังกล่าวอาจจะกระทบกับผู้บริโภคเสียมากกว่า ซึ่งเราก็อาจจะต้องจับตาดูต่อไป

 

 

ที่มา https://www.agbi.com/retail/2024/09/turkish-ecommerce-growing-faster-than-wider-economy/

de_DEGerman